การเดินทางผ่านทะเลดวงดาวภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น เต็มไปด้วยภัยพิบัติมากมายที่ต้องเผชิญ
ทั้งจากฝูงสัตว์อสูรโบราณที่ดุร้าย ทั้งพายุมิติทำลายล้างที่จะปรากฏขึ้นเวลาไหนก็ได้ หรือแม้กระทั่งอาณาเขตหลุมดำที่จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าไปใกล้
แต่ทว่าความอันตรายทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ยังไม่เทียบเท่ากับความโหดร้ายจากโจรสลัดอวกาศที่จะช่วงชิงทั้งชีวิตและทรัพย์สินของทุกชีวิตที่พวกมันพบเจอ ขอแค่พวกมันรู้ว่าอีกฝ่ายอ่อนแอกว่าก็จะตามล่าจนถึงที่สุด
ไม่ว่าเหยื่อที่พบจะมีเบื้องหลังใหญ่โตสักแค่ไหน ตราบใดที่ไม่มีผู้รอดชีวิตกลับไปได้เรื่องทุกอย่างก็จะถือเป็นความลับต่อไป ถ้าต้องเผชิญหน้ากับโจรสลัดชั่วร้ายพวกนี้ บางทีความตายอาจจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุด
เพราะหากถูกจับได้ ก็จะต้องถูกทรมานอย่างแสนสาหัสแล้วโดนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีให้กลายเป็นทาส จนเมื่อพวกมันเบื่อก็จะถูกฆ่าทิ้งอย่างไม่ใยดี แล้วโยนให้เป็นอาหารสัตว์ร้ายไม่หลงเหลือแม้ซากศพที่สมบูรณ์
ดังนั้น เวลาที่เหล่านักเดินทางแห่งจักรวาลพบเจอโจรสลัดอวกาศ ก็จะต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างสุดชีวิต แต่หากสุดท้ายหนีไม่รอดจริงๆ บางคนก็ถึงขั้นระเบิดตัวตายไปพร้อมศัตรูเลยทีเดียว
แน่นอนว่าทั้งหมดที่กล่าวมา จ้าวเทียนเพียงเคยได้ยินได้ฟังมาจากเหล่าผู้อาวุโสในสำนักก่อนจะตัดสินใจออกเดินทาง ยังไม่เคยมีประสบการณ์เผชิญหน้ากับโจรสลัดอวกาศจริงๆมาก่อน
เพราะตัวเขาในชีวิตที่แล้ว หลังจากฝึกฝนวิชาในสำนักสำเร็จ ก็ออกท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่ในแดนสวรรค์และสนามรบบรรพกาลของเทพมาร
จนกระทั่งเมื่อจ้าวเทียนบรรลุสู่จุดสูงสุดก็เอาชนะมหาเทพแล้วขึ้นเป็นผู้ปกครองแทน ความคิดเรื่องการผจญภัยในแดนรกร้างอันห่างไกลของจักรวาล ไม่เคยอยู่ในหัวเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะนั่นถือเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
“ ฉันแค่ต้องการหาพื้นที่ห่างไกลเพื่อวางแผนจัดการศัตรูระหว่างทางเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะมาพบโจรสลัดอวกาศกำลังปล้นชิงกลุ่มนักเดินทางเสียได้ ” จ้าวเทียนพูดกับตัวเองเบาๆ ถือเป็นโชคดี ที่เขาใช้เคล็ดวิชาอำพรางร่องรอยไว้ล่วงหน้า ฝ่ายตรงข้ามจึงไม่พบเห็น
‘ ศัตรูมีสามสิบคน เป็นเทพโลกาขั้นหก 5 คน เทพโลกาขั้นสาม 12 คน ที่เหลือเป็นเทพโลกาขั้นหนึ่ง ส่วนฝ่ายที่ถูกล้อมอยู่มีทั้งหมด 4 คน เป็นเทพโลกาขั้นเจ็ด 2 คนกับแดนเทพขั้นสูงสุด 2 คน ’
‘ ขุมกำลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันเกินไป ต่อให้ฉันยื่นมือเข้าไปช่วยก็ไม่แน่ว่าจะปกป้องทุกคนเอาไว้ได้ อีกทั้งอาจจะเป็นการชักนำภัยพิบัติมาถึงตัวอีกด้วย เพราะไม่รู้ว่าโจรสลัดพวกนี้ยังมีกำลังเสริมอีกมากน้อยเพียงใด ’
ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติและไม่ได้มีศัตรูอีกกลุ่มกำลังติดตามมา จ้าวเทียนก็คิดจะลองเสี่ยงช่วยเหลืออีกฝ่ายดู
แต่เพราะตอนนี้ ตัวเขาต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กหญิงทั้งสองเป็นอันดับแรกดังนั้นการทำเป็นมองไม่เห็นและหลบหนีไปอีกทางเส้นทางหนึ่ง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
‘ ฉันคงช่วยเหลือพวกคุณไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วย… ’
จ้าวเทียนถอนหายใจเบาๆ เขามองหญิงสาวสองคนที่มีขอบเขตแดนเทพขั้นสูงสุด กำลังยืนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางวงล้อมของโจรสลัดอวกาศด้วยความเวทนาสงสาร
ด้วยเรือนร่างอันงดงามที่ดึงดูดสายตาได้จากระยะไกล แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าเพราะหญิงสาวทั้งสองหันหลังให้ แต่จ้าวเทียนก็สามารถคาดเดาเอาจากสีหน้าหื่นกระหายของเหล่าโจรสลัด ว่าพวกเธอคงเป็นโฉมงามที่ยากจะพบเจออย่างแน่นอน
ซ้ำร้ายดูจากเครื่องแต่งกายอันหรูหรา และการมีองครักษ์ระดับเทพโลกาขั้นเจ็ดอยู่ข้างกาย ถ้าไม่ใช่ธิดาจากตระกูลชั้นสูงที่แสนจะมั่งคั่ง ก็คงเป็นองค์หญิงจากราชวงศ์ที่ปกครองดวงดาวสักดวง
การที่หญิงงามผู้สูงศักดิ์อย่างพวกเธอ ต้องมาตกอยู่ในเงื้อมมือของโจรสลัดพวกนี้ คงถือเป็นจุดจบที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย
“ ท่านพ่อ เราจะเข้าไปช่วยพี่สาวสองคนนั้นหรือไม่” ปิงกู่เยว่ถามขึ้นด้วยท่าทีลังเล ใจหนึ่งเธอก็รู้สึกสงสารแต่อีกใจก็รู้สึกหวาดกลัวกลุ่มโจรชั่วพวกนั้น
ที่สำคัญคือฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนเยอะมาก ทำให้เด็กหญิงทั้งสองต้องแอบซ่อนกายอยู่ด้านหลังจ้าวเทียน โผล่ออกมาแค่ใบหน้าน้อยๆเท่านั้น
“ ไม่ได้หรอก มันเสี่ยงเกินไป ฉันสัญญากับท่านแม่ของพวกเธอไว้แล้วว่าจะปกป้องพวกเธอให้ดีที่สุด พวกเรารีบเดินทางต่อเถอะ ” จ้าวเทียนตอบอย่างจริงจัง เขาไม่ได้บอกเด็กหญิงทั้งสองว่าจะมีศัตรูอีกกลุ่มตามมา เพราะกลัวพวกเธอจะหวาดกลัวเกินไป
ทันใดนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน