ลี่เหยาเหยาในเวลานี้ช่างดูเปล่งประกายเจิดจ้า ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากลี่เหยาเหยาคนเดิมที่ซูต๋าจี่เคยรู้จักอย่างชัดเจน นอกจากน้ำเสียงและแววตาจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจแล้ว
ทุกครั้งที่เธอสั่งการหรือพูดสิ่งใด ก็ราวกับมีพลังงานลึกลับบางอย่างถูกปล่อยออกมาพร้อมวาจา ทำให้ผู้อื่นต้องเผลอคล้อยตามสนับสนุนเธอโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับจักรพรรดินีผู้ปกครองดินแดนไม่มีผิด
“ รีบไปช่วยเทพธิดาซวนเฉวียนเถอะ ถ้าคุณยังอยู่ตรงนี้จะเป็นการถ่วงแข้งถ่วงขาฉันเปล่าๆ ” ลี่เหยาเหยาจงใจใช้คำพูดที่รุนแรงกว่าเดิม เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังมัวลังเลอยู่
“ นี่เจ้า…จะบอกว่าข้าเป็นตัวถ่วงงั้นรึ ” ซูต๋าจี่หางคิ้วกระตุกเล็กน้อย ถึงแม้รู้ว่าอีกฝ่ายทำไปด้วยความหวังดี แต่ก็อดรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่ได้
“ ตกลง ในเมื่อพูดถึงขนาดนี้ข้าก็จะไป แต่เจ้าก็ห้ามตายเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นความบริสุทธิ์ของจ้าวเทียนจะต้องตกเป็นของข้าแน่นอน หึหึ ”
!!
สิ้นเสียง ซูต๋าจี่ก็จากไปพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ปล่อยให้ลี่เหยาเหยายืนใบหน้าแข็งค้างด้วยความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อีกฝ่ายใช้คำพูดเอาคืนได้เจ็บแสบจริงๆ
“ แบบนี้ ฉันก็แพ้ไม่ได้แล้วสินะ ” ลี่เหยาเหยาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจสองคนที่กำลังคุกคามเข้ามาใกล้
“ สั่งเสียกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม แต่ในสายตาข้า สิ่งที่เจ้าทำมันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะนอกจากตัวเจ้าแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตออกไปได้แน่นอน ” ราชันเทพโอดินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ ท่านโอดิน ข้าว่าพวกเรารีบจบศึกเถอะ บิซามอนเทนเริ่มจะรับมือศัตรูไม่ไหวแล้ว ” เทพฮอรัสรีบพูดเตือนขึ้น เมื่อเห็นพันธมิตรฝ่ายเดียวกัน ตกอยู่ในวงล้อมยอดฝีมือศัตรูถึงห้าคน
“ ไม่มีปัญหา ข้าจะเป็นผู้ลงมือก่อน ส่วนเจ้าก็คอยหาโอกาสตัดแขนตัดขาผนึกความเคลื่อนไหวของนางแล้วกัน ” ราชันเทพโอดินต้องการจับตัวลี่เหยาเหยาแบบเป็นๆ ส่วนอีกฝ่ายจะอยู่ในสภาพไหนนั้น เขาก็ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย
“ เหอะ ดูเหมือนพวกแกจะมั่นใจมากเลยนะ ” ลี่เหยาเหยาแค่นเสียงอย่างเย็นชา ก่อนที่เงาร่างของเธอจะจางหายไปในอากาศ
‘ คราวนี้แหละ ฉันจะต้องปลุกพลังที่แท้จริงของหงส์อมตะดาราสวรรค์ให้ได้ ’
ลี่เหยาเหยาไม่อยากทำได้เพียงมองดูสหายคนอื่นเข้าไปเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับศัตรู แล้วคอยหลบซ่อนตัวให้การสนับหนุนอยู่วงนอกอีกต่อไป
ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งที่จ้าวเทียน กงเสี่ยวเหมยและพวกเฉินจิ้งต้องมาคอยปกป้องเธอระหว่างการต่อสู้ ทำให้ตัวเธอรู้สึกเหมือนกลายเป็นภาระไม่มีผิด
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ ลี่เหยาเหยาให้ความสนใจสืบทอดเคล็ดวิชาต่อสู้เฉพาะตัวของจักรพรรดินีปิงเยว่เป็นพิเศษ ในขณะที่เทพธิดาซวนเฉวียนเน้นหนักไปทางด้านเคล็ดมายาและเขตอาคมมิติ
อย่างไรซะ ทั้งสองก็สามารถแบ่งปันประสบการณ์ทุกอย่างร่วมกันได้อยู่แล้ว ด้วยเวลาจำกัดเพียงสองเดือน การแบ่งหน้าที่กันตั้งแต่แรกจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
‘ หากเจ้าต้องการได้รับพลังที่แท้จริงของข้า ก็จงปลุกสัญชาตญาณแห่งอสูร ความกระหายในชัยชนะและเจตจำนงแห่งการต่อสู้ของตนเองขึ้นมาซะ ’
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ร่างอวตารจักรพรรดินีปิงเยว่ทิ้งไว้ ก่อนจะออกไปจากจักรวาลแห่งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเทพมารต่างภพ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ปกครองมรรคามารอันยิ่งใหญ่
กว่าที่ลี่เหยาเหยาจะทำตามเงื่อนไขเหล่านี้สำเร็จ หากเป็นตัวเธอในอดีตก็คงเป็นเรื่องยากมาก เพราะอาชีพเดิมของเธอคือนักร้องนักแสดงไม่ใช่นักสู้
ถึงแม้เธอจะตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางฝึกตน แต่ก็ยังไม่ละทิ้งสามัญสำนึกของคนธรรมดาเลือกต่อสู้สนับสนุนอยู่แนวหลังเพื่อไม่ให้มือของตนเปื้อนเลือดมากเกินไป แตกต่างกับในปัจจุบันที่เธอกล้าออกมาปะทะกับศัตรูแบบซึ่งๆหน้าโดยไม่เกรงกลัว
ซึ่งความมุ่งมั่นของลี่เหยาเหยา ก็นับว่าถูกตาต้องใจจักรพรรดินีปิงเยว่เป็นอย่างมาก เธอจึงรับอีกฝ่ายเป็นบุตรีบุญธรรม พร้อมกับยอมมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้โดยไม่ลังเล ทั้งอาวุธระดับพระเจ้า ไขกระดูก แก่นโลหิตต้นกำเนิดและชิ้นส่วนดวงวิญญาณของตนเอง
เปรี้ยงงงง! ตูมมมม!
ลี่เหยาเหยาพุ่งเข้าโจมตีราชันเทพโอดินอย่างรุนแรง จนกำแพงมิติแตกเป็นเสี่ยงๆ เกิดเป็นคลื่นพลังทำลายล้างกวาดออกไปโดยรอบ ทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือนปรากฏรอยแยกสีดำกระจายไปทั่ว
ฉัวะ!ๆๆๆ เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆ
การต่อสู้ครั้งนี้ดุเดือดเป็นอย่างมาก หมัดกับหอกปะทะกันถี่ยิบด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เงาร่างอันพร่าเลือนสลับตำแหน่งไม่หยุดหย่อน จนหลงเหลือเพียงแค่ภาพติดตา
ทั้งเนตรหยั่งรู้ของเทพโอดิน และเนตรจักรวาลหมื่นสรรพสิ่งของลี่เหยาเหยา ก็ต่างเป็นเคล็ดวิชาที่ใช้อ่านการโจมตีของศัตรูล่วงหน้าทั้งคู่ จึงไม่แปลกที่จะกินกันไม่ลงในช่วงเวลาสั้นๆ
“ คลื่นนภาวายุคลั่ง! ”
ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆ
ปีกของเทพฮอรัสโบกสะบัด ปลดปล่อยคมมีดสายลมออกมาดุจคลื่นพายุโหมกระหน่ำ การโจมตีทั้งหมดเล็งเป้าหมายไปที่ร่างกายส่วนล่างของลี่เหยาเหยา เพื่อทำลายการเคลื่อนไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน