ผ่านไปสองวันหลังจากที่เขาเริ่มฝึกกองกำลังส่วนตัว การพัฒนาความสามารถโดยรวมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
วันนี้มีคนเข้าสู่ขอบเขตผู้เชี่ยวชาญถึง 12 คน จาก 130 คน ทั้งที่เพิ่งฝึกไปแค่สองวันเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือก็เป็นนักสู้ระดับ 9 กันหมดแล้ว ความหนาแน่นของปราณฟ้าดินเพิ่มขึ้นร้อยเท่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆจริงๆ
ส่วนเรื่องปัญหาของหวังซินหยางก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ฝึกนักรบวิญญาณเรียบร้อย
อีกทั้งหลินซูซินยังช่วยยกระดับวิญญาณนักรบของหวังซินหยางขึ้นเป็นจุดสูงสุดของระดับทองแดง ซึ่งเทียบเท่าปรมาจารย์ระดับสูง ทำให้ตอนนี้จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของหวังซินหยางอีก
สิ่งที่ทำให้จ้าวเทียนเป็นกังวลอยู่ในตอนนี้คือ โม่ซินหยานได้ขาดการติดต่อไปหนึ่งวันแล้ว โดยครั้งสุดท้ายที่เธอติดต่อกลับมาคือ เธอกำลังช่วยกลุ่มลูกศิษย์ทำภารกิจสุดท้ายให้องค์กร เพื่อที่จะได้เป็นอิสระ
สาเหตุที่เธอขาดการติดต่อไป อาจเป็นเพราะอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ หรือไม่ก็ตกอยู่ในมือของศัตรู ซึ่งเรื่องนี้เขาได้ส่งคนออกค้นหาเบาะแสแล้ว
หากได้ข้อมูลแน่ชัดเมื่อไหร่เขาพร้อมลงมือทันที…
!!
บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปประมาณหมื่นเมตร เครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุดกำลังลอยนิ่งอยู่เหนือคฤหาสน์ดาราสวรรค์พอดี
หืม
จ้าวเทียนเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าผู้อาวุโสต้วนมู่จะส่งเครื่องบินรบมารับเช่นนี้
วูป!
ร่างของจ้าวเทียนบินหายไปบนท้องฟ้า ท่ามกลางสายตาเคารพบูชาของกองกำลังที่ฝึกฝนอยู่ พวกเขาต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจที่มีบอสเป็นถึงเซียนในตำนาน
เมื่อจ้าวเทียนเปิดประตูห้องโดยสารเข้ามา เขาก็รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก มันช่างเป็นความขัดแย้งที่ดูลงตัวจริงๆ
ลองนึกภาพเครื่องบินรบลำใหญ่ที่ติดอาวุธหนักครบครัน ดีไซน์ด้วยโทนสีเทาดำลักษณะดุดันสมกับเป็นมัจจุราชแห่งท้องนภา
แต่สภาพภายในห้องโดยสารกลับคลับคล้ายเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวไม่มีผิด มันถูกตกแต่งอย่างหรูหราทันสมัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ตู้เย็นหรือแม้กระทั่งอ่างอาบน้ำ
ในโซนห้องครัวยังมีเชฟยืนประจำการอยู่หนึ่งคน สำหรับให้บริการด้านอาหารตลอดการเดินทาง ตรงโซฟารับแขกหรูหราที่หวังฝูหมิงนั่งรออยู่ ก็มีพนักงานต้อนรับสาวสวย3คน ยืนรอ
บริการอยู่อย่างมีมารยาท
เมื่อพวกเธอเห็นว่าจ้าวเทียนเดินเข้ามา ก็รีบมาจัดการเรื่องที่นั่งให้เขาทันที ทั้งเตรียมชุดเครื่องดื่มไว้ให้อย่างเรียบร้อย
“ สภาพร่างกายของเธอเป็นยังไงบ้าง…จากข้อมูลที่ฉันเพิ่งได้รับมาเมื่อชั่วโมงก่อน เรื่องในวันนี้จะมีศาสนจักรแห่งแสงเข้ามาเกี่ยวด้วย ”
“ คนพวกนี้รับมือยากกว่าพวกอเมริกาอีก…พวกเขาถือเป็นองค์กรศาสนาที่ลึกลับและมีอำนาจที่สุดในโลก จากที่สายลับของเราตรวจสอบมา คนพวกนี้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญต่างๆมากมาย ”
“ แม้แต่สงครามโลกทั้งสองครั้ง ก็เป็นฝีมือของพวกมัน ! ” หวังฝูหมิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
จ้าวเทียนขมวดคิ้วขึ้นทันทีเมื่อได้ยินชื่อศาสนจักรแห่งแสง เพราะจากรายชื่อยอดฝีมือนับร้อยทั่วโลกที่หวังฝูหมิงมอบให้ เกือบ 30% เป็นคนของศาสนจักรแห่งแสงทั้งสิ้น นั่นบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
“ วันนี้…ฝ่ายตรงข้ามมีใครมาบ้าง ” จ้าวเทียนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
“ พวกที่มาทั้งหมด 5 คน…เป็นคนจากอเมริกา 3 คน โดยมีธันเดอร์เป็นผู้นำ ส่วนอีกสองคนคือสมาชิกทีมของเขา และนี่คือข้อมูลของพวกนั้น” หวังฝูหมิงพูดเสร็จก็ส่งเอกสารให้สองแผ่น
เมื่อจ้าวเทียนเห็นข้อมูลในเอกสาร เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วส่งมันคืนไปให้หวังฝูหมิง สมาชิกสองคนที่ตามธันเดอร์มาด้วยถูกจัดอยู่ในระดับ B เท่านั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยแม้แต่น้อย
ปัจจุบันนี้ทั่วโลกได้แบ่งระดับผู้มีพลังพิเศษออกเป็น 5 ระดับ หากเปรียบเทียบกันกับขอบเขตที่ใช้กันอยู่ในประเทศจีนก็จะเปรียบเทียบได้ดังนี้
ระดับ D เทียบเท่านักสู้
ระดับ C เทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญ หรือรวมปราณ
ระดับ B เทียบเท่าปรมาจารย์ หรือปราณปฐพี
ระดับ A เทียบเท่าขอบเขตเซียน หรือ ปราณนภา
ระดับ S เทียบเท่าครึ่งก้าวเซียนนภา หรือปราณทิพย์
ตัวของจ้าวเทียนในตอนนี้ถูกจัดอยู่ในระดับ A ซึ่งจัดเป็นผู้แข็งแกร่งแนวหน้าของโลกนี้ได้เลย ด้วยความสามารถของเขาล้วนเป็นที่ต้องการของขุมกำลังใหญ่ๆทั่วโลก
รายชื่อที่หวังฝูหมิงมอบให้ในตอนแรกคือผู้มีพลังพิเศษระดับ A ขึ้นไป ที่อยู่ในประเทศต่างๆ นอกเหนือจากประเทศจีน ซึ่งมีเกือบ 100 คนเลยทีเดียว
“ เรื่องของอเมริกาไม่ค่อยน่าเป็นห่วง…ที่มีปัญหาจริงๆคือตัวแทนของศาสนจักรแห่งแสง สตรีศักดิ์สิทธิ์โซเฟียและผู้สืบทอดของเธอ ซิสเตอร์ออโรร่า ” หวังฝูหมิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เขาลอบสังเกตจ้าวเทียนว่ามีท่าทีเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ฟังหรือไม่ แต่พอเห็นจ้าวเทียนไม่ได้มีท่าทีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย ก็พยักหน้าขึ้นอย่างชื่นชม
‘ ชายหนุ่มคนนี้ช่างเหมาะที่จะเป็นผู้สืบทอดของผู้อาวุโสต้วนมู่จริงๆ ’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน