ชายาเจ้าโง่ของข้าเป็นหมอหญิงอัจฉริยะ นิยาย บท 4

เมื่อองค์รัชทายาทและท่านอ์องชุ่นเข้ามาในห้องโถงด้านหน้า ท่านเจิ้นกั๋วกงก็ลุกขึ้นยืนโค้งคำนับเชื้อพระวงศ์ทั้งสองตามธรรมเนียม "กระหม่อมเคยเข้าเฝ้าองค์รัชทายาทกับท่านอ๋องชุ่นมาก่อน"

"ไร้มารยาท" องค์รัชทายาทมองด้วยสายตาเบื่อหน่าย เขาตอบกลับด้วยท่ทางหยิ่งผยอง แล้วประทับนั่งบนตั่งไม้จันทร์สลักลายที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของห้อง ดวงตาของพญาอินทรีมองลงมาที่ร่างของซู่หน่วนซึ่งถูกวางอยู่กลางโถง เมื่อเขาเห็นการตายอันประหลาดของนาง ดวงตาอินทรีก็หรี่ลงเล็กน้อยราวกับไม่พอใจมากขึ้น

ท่านอ๋องชุ่นมองตรงไปที่ร่างของเฟิ่งซู่หน่วนที่เสียชีวิตอย่างอนาถ จึงพลั้งปากอุทานว่า "เรื่องใหญ่แล้ว"

เฟิ่งเจวี๋ยหยุดชะงักฝีเท้ากะทันหันจนเฟิ่งเซ่อหมิงที่เดินตามมาติด ๆ หน้าผากไปชนกับแผ่นหลังของผู้เป็นพี่ นางลูบหน้าผากที่ช้ำแล้วหันขวับไปหาเฟิ่งเจวี๋ยโดยไม่พูดอะไร

เฟิ่งซู่หน่วนนอนแน่นิ่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ ใบหน้าของเธอดำมืดสนิท เสื้อผ้าเธอก็ขาดวิ่นฉีกเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นต้นขาอ่อนที่ขาวผ่องของหญิงสาว

ขาของเธอปรากฎรอยขีดข่วน

กงเย่มองไปที่เฟิ่งเซ่อหมิงด้วยสายตาอันน่ากลัวจนนางสะดุ้งส่งสายตาอันใสซื่อบริสุทธิ์กลับไป

นางเพียงวางยาพิษให้เฟิ่งซู่หน่วนตายแต่นางไม่ได้กระทำการใด ๆ ที่เป็นการหลู่เกียรติกับน้องสาวเลย ต้องมีคนไปข่มขืนเฟิ่งซู่หน่วนหลังจากเฟิ่งซู่หน่วนเสียชีวิตแน่ ๆ

คนรับใช้ทั้งหมดถูกไล่ให้ออกไปจากห้องโถง เจิ้นกั๋วกงเองก็มีสีหน้าบูดบึ้ง หดหู่ ดูทำอะไรไม่ถูก

"ตระกูลของกระหม่อมโชคร้าย เกิดเรื่องจนทำให้ฝ่าบาททั้งสองหัวเราะเยาะ" เจิ้นกั๋วกงมีสีหน้าละอาย จากนั้นเขาก็พูดต่ออย่างลำบากใจว่า "ถึงแม้ว่าลูกสาวของกระหม่อมจะเป็นคนโง่เสียสติสักเพียงใด แต่นางก็เป็นพระชายาของท่านอ๋องจิ่น หากเรื่องนี้แดงขึ้น ใคร่ขอให้ฝ่าบาททั้งสองโปรดช่วยแก้ต่างกับท่านอ๋องจิ่นแทนกระหม่อมด้วย มิเช่นนั้นกระหม่อมคงไม่มีหน้าไปเข้าเฝ้าท่านอ๋องจิ่นเป็นแน่"

เฟิ่งซู่หน่วนเมื่อได้ฟังสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูดก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก เธอรู้สึกสงสารเจ้าของร่างเดิมจับใจที่แม้จะเกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์แล้ว แต่ดันมีพี่สาวใจร้าย มีพ่อก็โหดเหี้ยมไร้ปรานี จนนางเสียชีวิต ความคิดแรกของผู้เป็นพ่อกลับอยากจะผลักเรื่องนี้ให้พ้นตัว แทนที่จะตามหาตัวฆาตกรแทนเธอ

มีคนในครอบครัวใจบาปไร้คุณธรรมเช่นนี้ ไม่ต้องมีเสียยังดีกว่า

ท่านอ๋องชุ่นกระแอมในลำคอแล้วกล่าวว่า "ท่านเจิ้นกั๋วกง ท่านยกย่องนางคนโง่ในตระกูลท่านสูงเกินไปหรือเปล่า ถึงนางจะเป็นพระชายาของท่านอ๋องจิ่น แต่นางก็ถูกพระสวามีขับไล่ออกจากวังมาแล้ว ท่านอ๋องจิ่นรังเกียจนางคนโง่ผู้นี้เสียยิ่งกว่าอะไร แล้วท่านจะมาออกหน้ารับแทนนางทำไมกัน"

เฟิ่งเซ่อหมิงมิใช่คนโง่ เมื่อคืนนางฆ่าเฟิ่งซู่หน่วนก็เพราะความสนุก แต่พอได้ฟังสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูด นางจึงเข้าใจในผลร้ายที่ตามมา เรื่องนี้หากท่านอ๋องจิ่นปล่อยผ่านก็แล้วไป แต่หากพระองค์สนใจติดตามเรื่องนี้แล้วล่ะก็ มีหวังตระกูลของเจิ้นกั๋วกงต้องพังทลายเป็นแน่

สมองของเฟิ่งเซ่อหมิงประมวลผลอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้เพียงใช้มือปิดแผ่นฟ้าอำพรางความจริง เท่านี้นางและคนในตระกูลก็รอดแล้ว

เฟิ่งเซ่อหมิงลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "ท่านพ่อ ในเมื่อทั้งองค์รัชทายาทและท่านอ๋องชุ่นต่างก็อยู่ฝั่งเรา การตายอันน่าพิศวงของน้องสามจะให้ใครรู้มิได้เป็นอันขาด ท่านพ่อเพียงแต่บอกว่านางจับไข้แล้วป่วยตายกะทันหัน แล้วเราก็รีบเอานางไปฝัง เพียงเท่านี้ก็สิ้นเรื่อง ส่วนฆาตกรทางเราก็ตามเรื่องอย่างช้า ๆ เป็นพอ"

จริง ๆ แล้วท่านเจิ้นกั๋วกงก็คิดเช่นนั้นเพียงแต่ไม่กล้าพูดออกมา เชื้อพระวงศ์ประทับอยู่ตรงหน้าถึงสองพระองค์ ไหนเลยจะกล้าเอ่ยคำใดออกมา แถมการเปลี่ยนดำเป็นขาวของเขาอาจโดนข้อหาหลอกลวงองค์จักรพรรดิได้

เว้นแต่ความคิดนี้ได้รับการอนุญาตจากฝ่าบาททั้งสองพระองค์

เฟิ่งเซ่อหมิงมองออกว่าผู้เป็นพ่อลังเล นางจึงรีบสาวเท้าไปคุกเข่าต่อหน้าพระพักตร์ขององค์รัชทายาท ใบหน้าสวยดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝนเอ่ยทั้งน้ำตาว่า "ได้โปรดเห็นแก่ความจงรักภักดีที่ตระกูลของหม่อมฉันมีต่อองค์จักรพรรดิและราชวงศ์นี้มายาวนาน ขอฝ่าบาทโปรดช่วยพวกเราให้ผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ไปให้ได้ ในภายภาคหน้าหากทั้งสองพระองค์ปรารถนาสิ่งใด ทุกคนในตระกูลหม่อมฉันจะจดจำพระกรุณาธิคุณในวันนี้ไว้อย่างแน่นอน"

คำกล่าวนี้แปลความหมายได้ชัดเจนว่า หากองค์รัชทายาททำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หลับตาข้างหนึ่งกับเรื่องนี้ ตระกูลของเจิ้นกั๋วกงจะยอมเป็นพวกเดียวกับพระองค์เพื่อหนุนให้ขึ้นบัลลังก์ในภายภาคหน้า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อำนาจของท่านอ๋องจิ่นเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ในทางกลับกัน องค์รัชทายาทกลับมีเพียงการสนับสนุนจากครอบครัวฝั่งพระมารดา อำนาจของเขายังอ่อนแอไม่อาจไปแข่งกับท่านอ๋องจิ่นได้เลย

ข้อตกลงนี้เป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทจะหาที่ไหรไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงว่าตนนั้นยึดมั่นในหลักการที่เที่ยงธรรม พระองค์จึงแสดงท่าทีลังเลเล็กน้อย

บทที่ 4 1

บทที่ 4 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเจ้าโง่ของข้าเป็นหมอหญิงอัจฉริยะ