ตอนที่122ล้มเหลวเนื่องจากขาดความพยายาม
บรรยากาศภายในจวนมีลมหนาวพัดโชยโล่หวินหลานอยู่หลังเรือนนั่งโยกชิงช้าตอนทั้งบ่าย“พระชายาเมื่อสักครู่ข้าได้ยินฉินหยิ่นพูดว่าท่านอ๋องพบหลักฐานกระทำความผิดของแม่ทัพต้วนที่หอสุราและนำสมุดบัญชีถวายให้ฝ่าบาทเรียบร้อยแล้วฝ่าบาทนั้นได้มีรับสั่งให้จับท่านแม่ทัพเข้าคุกทันที”เย่หวินรีบร้อนเล่าด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“จริงหรือนี่?แต่ว่าทำไม่แม่ทัพต้วนถึงไปอยู่ที่หอสุราได้และยังโดนท่านอ๋องจับกุมอีก?”โล่หวินหลานหยุดเจ้าว่งชิงช้าเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยเย่หวินรีบร้อนเอ่ยขึ้น”หลังจากที่หลี่ซ่านโดยจับกุมแม่ทัพต้วนก็เกิดการขัดแย้งกันเองเขาไม่แม้แต่จะระวังตัวกลับกำเริบเสิบสานมากขึ้นกว่าเดิมท่านอ๋องสั่งให้คนที่แฝงตัวอยู่ข้างกายแม่ทัพต้วนตามท่านแม่ทัพไปที่หอสุราประจวบเหมาะที่เห็นกับตาว่าท่านแม่ทัพสินบนก็เลยโดยจับกุมที่นั้น”ส่วนสมุดบัญชีนั้นถูกค้นพบที่จวนท่านแม่ทัพหลังจากที่โดนจับกุมตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงรอฝ่าบาทตัดสินลงโทษ
แท้จริงแล้วแม่ทัพต้วนไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของโม่ฉีหมิงแต่ตายด้วยน้ำมือของตัวเองถ้าหากว่าหลังจากที่หลี่ซ่านโดยจับกุมเขาจะระวังตัวให้มากขึ้นสักหน่อยคาดว่าเขาคงจะไม่ถูกจับกุมเร็วอย่างนี้
"เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วฝ่าบาททรงหวาดระแวงแม่ทัพต้วนมาเนิ่นนานในที่สุดวันนี้ก็สามารถจับกุมแม่ทัพต้วนได้ก็คงจะสบายใจขึ้นส่วนท่านอ๋องก็จะได้รับความดีความชอบจากเรื่องนี้ด้วย"
โล่หวินหลานหลี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อยพร้อมคิดว่าทำดีย่อมได้ดีทำกรรมชั่วย่อมได้ชั่วนางเหม่อมองไปยังต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไปซึ่งถูกลมพัดจนพริ้วไหวไปมา
ต้นไม้พวกนั้นยังคงมีเจ้า่นก้านไม่เหมือนนางที่ไม่มีที่พึ่งโดดเดี่ยวพเนจรอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคย"พระชายาอย่างหาว่าข้าน้อยอยากรู้อยากเห็นเลยนะคะแต่ว่าระหว่างท่านกับท่านอ๋องมีเรื่องอันใดรึเปล่าเจ้าคะ?มีเรื่องผิดใจกันหรือเจ้าคะ?"เย่หวินเอ่ยถามและสังเกตสีหน้าของนางด้วยความระมัดระวัง
เดี๋ยวนี้ท่านอ๋องและพระชายาไม่ได้ตัวติดกันเหมือนแต่ก่อนระหว่างทั้งสองมีกับมีระยะห่างและความเกรงอกเกรงใจนาง รู้สึกได้ว่าพระชายาต้องการที่จะเข้าหาแต่สุดท้ายแล้วกลับมิกล้าส่วนท่านอ๋องนั้นมักจะเฝ้ารอพระชายาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มักจะรอเก้อตลอด
สีหน้าของโล่หวินหลานค่อยๆมืดครึ้มลงแก้มสีแดงเลือดฝาดค่อยๆเปลี่ยนเป็นขาวซีด คิ้วเรียวสวยดั่งก้านหลิวขมวดกันแน่นพร้อมเอ่ยว่า"ไม่มี"เอ่ยของมาสองคำและเร่งฝีเท้าเดินไปทางห้องโถงหลัก
เมื่อนางเดินมาถึงห้องโถงหลักจังหวะนั้นโม่ฉีหลิงก็กำลังเดินเข้ามาประตูด้านนอกเขาเม้มริมฝีปากแน่นดวงตายาวเรียวมองมาที่โล่หวินหลานด้วยความรู้สึกลึกซึ้งเหมือนกับว่าคนรอบข้างนั้นไม่มีในสายตาเขาค่อยๆก้าวเท้าเดินมาทางโล่หวินหลานเขาโอบกอดนางเข้ามาในอ้อมอกของตัวเองและเอาเสื้อคลุมกั้นนางจากลมหนาวร่างกายหนาวเย็นของคนทั้งสองเมื่อสัมผัสกันก็เกิดเป็นกระแสไฟอบอุ่น
อ้อมกอดนี้ทำให้เรื่องติดขัดไม่สบอารมณ์หลายวันมานี้มลายหายไปโม่ฉีหมิงทอดถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือกเขารู้ตัวนานแล้วว่าโล่หวินหลานนั้นเป็นจุดอ่อนของเขาเองทุกครั้งเป็นตัวเขาเองที่จะยอมก่อนไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับ
"หวินหลานแม่ทัพต้วนถูกจับแล้วแต่ฝ่าบาทคงจะไม่สั่งประหารข้าคาดว่าคงจะสั่งลงโทษเนรเทศและห้ามเข้าเมืองหลวงอีกที่แม่ทัพถูกจับส่วนหนึ่งมาจากการช่วยเหลือของเจ้า เจ้าทำได้แล้ว"เสียงทุ้มต่ำของเขาลอยกระทบโสตประสาทของโล่หวินหลานลมร้อนกระทบอยู่ที่ข้างใบหูนาง
แบบนี้เรียกว่าคืนดีกันแล้วใช่หรือไม่?เขาจะไม่ทำสงครามเย็นกับข้าแล้วใช่หรือไม่?โล่หวินหลานยื่นมือไปโอบรอบเอวเขาด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาตินางค่อยๆหลับตาลงสองมือโอบกอดเขาแน่นขึ้น
ทุกครั้งที่เราสองคนทะเลาะกันก็มักจะเริ่มมาจากนางและจะเป็นเขาทุกครั้งที่เป็นฝ่ายยอมไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ท่าทางหยิ่งยโสของเขาที่ตอนนี้นางหน้านางหลงเหลือเฉพาะความอบอุ่นอ่อนโยน
"เย่หวินพึ่งเล่าให้ข้าฟังเมื่อสักครู่นี้แต่ว่าทางฝั่งตระกูลต้วนทราบแล้วว่าเป็นท่านที่ถวายสมุดบัญชีให้เจ้าฝ่าบาทแบบนี้จะเป็นผลเสียเจ้า่ท่านหรือไม่?"โล่หวินหลานเอ่ยถามที่เรื่องรบกวนจิตใจนางมาโดยตลอดออกไป
โม่ฉีหมิงค่อยๆผละนางออกจากอ้อมกอดโอบกอดนางเดินเข้าไปในห้องโถงหลักเมื่อนั่งลงเขาก็ให้มือใหญ่อันอบอุ่นของตัวเองประคองมือน้อยของนางเอาไว้เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นมาที่มือของนาง
"หลายปีมานี้ความดีความชอบที่แม่ทัพต้วนชนะสงครามทำให้รุ่งโรจน์เป็นเวลานานตอนนี้แม่ทัพต้วนล้มลงตระกูลต้วนก็ไม่สามารถที่จะทำเรื่องเลวร้ายได้อีกจะมีก็เพียงแต่ต้วนกุ้ยเฟยเท่านั้น"ซึ่งฝ่าบาทก็คงจะเห็นแต่ความสัมพันธ์เก่าก่อนเขาอย่างวิเคราะห์อย่างไม่ใส่ใจ
มองใบหน้าของเขาที่ก้มลงมาขนตายาวหนาปกลงมาปกคลุมหน้าขาวนงลส่วนหนึ่ง ภายใต้แสงเทียนปรากฏเงาเรือนลาง จมูกโด่งเป็นสันสูง ิริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นไ ม่ว่าจะมองยังไงใบหน้านี้เหมือนใบหน้าของผู้ชายที่ไม่มีพิษมีภัย
แต่ว่าเพียงแค่คิ้วของเขาขมวดเจ้าหากันใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมบรรยากาศรอบตัวเขาทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรืออยากจะเป็นเพราะว่าหลายปีมานี้ไม่มีบิดามารดาคอยปกป้องจึงทำให้เขากลายเป็นคนเย็นชาแบบนี้
"ในเมื่อเรื่องนี้ไม่โยงถึงต้วนกุ้ยเฟยแน่นอนว่าคงจะโยงไปไม่ถึงเวินอ๋องแล้วอย่างนี้เว่ยอ๋องจะลงมือเจ้า้แค้นให้ต้วนกุ้ยเฟยหรือไม่?"โล่หวินหลานเงยหน้าขึ้นนัยน์ตากลมโตเต็มไปด้วยความกังวล
โม่ฉีหมิงหัวเราะเย้ยหยัน"ถ้าเวินอ๋องจะแก้แค้นลุงของเขาก็มาเถอะ ข้ามีวิธีจะจัดการกับเขาเยอะแยะเพียงแต่ว่าตอนนี้เวินอ๋องถูกเย่เซียวหลันกวนใจจนไม่มีเวลามาใส่ใจในเรื่องนี้"
เมื่อได้ฟังเขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจก็ทำให้โล่หวินหลานสบายใจขึ้นมากทันใดนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นมือทั้งสองข้างถูกเขาถูนวดจนร้อนผ่าวนางค่อยๆดึงมือออกมาแต่เขาก็รีบกุมไว้เช่นเดิมขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยว่า"ทำไมยังโกรธข้าอยู่หรือ?"
โล่หวินหลานรีบร้อนดึงมือกลับออกมาสีหน้าเย็นชา"มิใช่!ต้องยังโกรธท่านอยู่ยังจะให้ท่ากุมมือนานเช่นนี้หรือ!"
"งั้นเป็นเพราะอะไรละ?รู้สึกเขินอายเช่นนั้นหรือ?งั้นพวกเราเข้าไปในห้องกันเถอะไม่มีใครกล้ามารบกวนแน่"โม่ฉีหมิงพูดเสร็จโดยไม่รอให้นางตอบรับก็ลงนางไปมุ่งหน้าไปทางห้องนอนรีบร้อนจนเกือบเหมือนจะอุ้มนางอยู่แล้ว
ทรราช!โล่หวินหลานไม่สามารถขัดขืนได้ทำได้เพียงให้เขาดึงนางไปอย่างนั้น
ด้านหลังมีเย่หวินที่กำลังมองไปที่แผ่นหลังของพวกเขาสองคนด้วยความเบิกบานใจนางควรจะถอนคำพูดที่พูดออกไปเมื่อสักครู่นี้ระหว่างท่านอ๋องและพระชายานั้นมิมีเรื่องอันใดทั้งนั้นทั้งสองยังคงรักกันเหมือนเดิมอีกไม่นานก็คงจะมีท่านอ๋องน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก