ตอนที่177 ชิงลงมือก่อน
ห้องหนังด้านในสว่างไปทั้งห้อง มีโคมไฟจุดอยู่ด้านใน แสงสว่างจากโคมไฟส่องสะท้อนกระดาษบนหน้าต่าง ทำให้บรรยากาศมืดสนิทกลับกลายเป็นอบอุ่นขึ้นมา
ผลักประตูเข้าไป สวินโม่ก็เดินเข้าไปนั่งห้องหนังสือด้านใน มือวางอยู่บนกล่องสีสวย มือของเขากำลังกุมแก้วชาที่ถูกแกะสลัก น้ำชาร้อนๆถูกไล่ผ่านลำคอเข้าไปในร่างกายทำให้อบอุ่นอยู่ไม่น้อย
“สวินโม่ แต่ว่าวันนี้ยาที่ต้องใช้เตรียมเสร็จแล้วใช่ไหม?” โม่ฉีหมิงเดินเร็วไปทางห้องหนังสือ ด้านหลังมีเก้าอี้กว้างตัวหนึ่ง บวกกับสาวตาเรียวยาวอันแข็งกร้าว ดูไปแล้วเหมือนนักรบผู้ห้าวหาญ
สวินโม่ตบไปที่กล่องเบาๆ พูดและยิ้มไปด้วย “ข้าแกะสูตรยาออกมาแล้ว ขอแค่ทำตามสูตรยาที่ข้าคิดไว้ก็พอแล้ว”
“ดีเลย เย่หวิน เจ้าไปร้านขายยาหรงเหอไปหาส่วนผสมยามาให้ข้า ไปหามาให้พอสำหรับครึ่งหนึ่งของเมืองเมืองหลวงแล้วก็.....ไม่ เจ้าเอาป้ายที่เอวของข้าไปร้านขายยาหรงเหอ ไปนำยาส่วนผสมที่ต้องใช้ทั้งหมด รอยาแจกจ่ายหมดแล้วค่อยไปคิดเงิน” โม่ฉีหมิงพูดพลางถอดป้ายที่เหน็บตรงเอว ออกมายื่นให้เย่หวิน
รับป้ายที่เอวมาถือไว้แล้ว เย่หวินก็ออกไปจากประตู
“แต่ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือจิงเฉินมีตัวอย่างคนป่วยโรคระบาดพวกนี้ ถ้าพวกเราไปแตกจ่ายยาให้ประชาชนพวกเขาจะเชื่อเราหรอ?” โล่หวินหลานยิ่งคิดยิ่งเป็นกังวล
“เรื่องนี้ง่ายมาก ขอแค่หาข้ออ้างที่จะแจกจ่ายยาพวกนี้ให้ประชาชน ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วนิ” สวินโม่เลิกคิ้วขึ้น
ประชาชนภายนอกต่างรู้สึกว่ายาและข้าวสารแพงมาก นับวันยิ่งราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ มาวันนี้แจกพวกยาให้พวกเขา นอนยิ้มฝันหวานยังได้เลย
บนใบหน้าของโม่ฉีหมิงไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม แจกยารักษาโรคให้ประชาชนอย่างไร้ซึ่งสีหน้าท่าทางใดๆ ในความดีใจของพวกเขาคงมีความสงสัยอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะยากดีมีจนยังไงประชาชนคงจะต้องถามให้ได้ความชัดเจน อีกอย่างพวกเขาไม่ได้ทำความดีเปล่าๆ เป้าหมายสำคัญเลยคืออยากให้รู้ไปถึงหูฮ่องเต้
ขอเพียงแค่ฮ่องเต้ทราบเรื่อง ประชาชนทั่วหล้าต้องรู้ในที่สุด ถึงจะเชื่อและไว้ใจตนเอง
โม่ฉีหมิงกดสายตาต่ำลงเรื่อยๆ แทบรวมกัน
ทางด้านรัชทายาทบอกว่าพบเจอยารักษาโรคแล้ว ไม่ว่ายาของพวกเขาจะเป็นยาแก้โรคจริงหรือปลอม พวกเขาจะต้องแจกยาในเมืองหลวงก่อนเขาให้ได้ อย่างนี้ถึงจะทำผลงานได้ก่อน
“สวินโม่ เรื่องที่ข้าให้เจ้าไปสืบได้ความอย่างไรบ้าง?” โม่ฉีหมิงถามขึ้นอย่างเรียบๆ สายตามุ่งมองตรงไปยังนัยน์ตาของสวินโม่
สำนักอู๋อินโหลของสวินโม่มีลูกน้องเป็นพันเป็นหมื่น ทั่วต้าเจียงหนานเป่ย หากอยากรู้ข่าวคราวอะไรก็ง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าปาก
สวินโม่คิดๆอยู่ แล้วจึงส่ายหน้าช้าๆ “ท่านอ๋อง ในมือของรัชทายาทตอนนี้ไม่ได้มียารักษาโรคระบาดอะไร พูดได้ว่าพวกเราเป็นคนแรก หากประชาชนเป็นโรคระบาด พวกเราก็คือหมอที่ดีที่สุดในตอนนี้”
พอพูดจบ นัยน์ตาของโม่ฉีหมิงก็ค่อยๆคลายความกังวลลง ปากบางค่อยๆยกยิ้มขึ้น
“ดี ในเมื่อพวกเขาไม่มียาถอนพิษ พวกเราก็ไปแจกยาที่เมืองพรุ่งนี้แล้วกัน” ร่างสูงโปร่งและบึกบึนบังวิวหิมะตกนอกหน้าต่างจนมิด ทำให้จากห้องที่สลัวๆอยู่แล้วยิ่งมืดลงไปอีก
“สวินโม่ เรื่องวันนี้เจ้าทำได้ไม่เลว พูดเถอะ อยากได้อะไร?” โม่ฉีหมิงหันไปพูดกับนาง แล้วก็เบนสายตากลับไปมองแก้วที่อยู่ด้านหน้า แก้วแกะสลักเป็นรูปดอกไม้สีเขียวอ่อนกับชุดสีดำช่างเหมาะสมกลมกลืนกัน ดูไปแล้วสูงส่งองอาจยิ่งนัก
สวินโม่ไม่กล้าลงมือ แต่ว่าตอนนี้เขาก็ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว ข้างกายยังมีคนที่ร่วมใช้ชีวิตกับเขาหญิงสาวที่ชื่อหรูซู ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม ในใจเขาก็จะคิดถึงคนในบ้านเสมอ
คิดๆแล้ว เขาตอบด้วยใบหน้าเขินอาย “ท่านอ๋อง เรื่องพวกนี้ข้าใช้เวลาทำงานอย่างหนัก ท่านให้ข้าพักผ่อนหน่อยได้ไหม พอดีกับหลายวันมานี้ ข้าจะได้พาหรูซูออกไปเดินเที่ยวเล่น
หน้าของเขามีความทำตัวไม่ถูก ผิวหน้าสีคล้ำสุขภาพของเขาปรากฏเป็นรอยจางๆข้างแก้ม ดูไปแล้วเหมือนกับเป็นหนุ่มน้อย ความจริงแล้ว ขอแค่เวลาพูดถึงเรื่องคนรักทุกครั้ง เขาก็จะมีปฏิกิริยาอย่างนี้เสมอ ถ้าเปลี่ยนคนอื่น น่าจะเย็นชาดุจน้ำแข็ง
“ได้ พวกเจ้าไปเที่ยวเล่นสักสองสามวัน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทางนี้ หากมีเรื่องอะไรจำเป็นจริงๆ ข้ากับฉีหมิงจะรีบส่งสารให้เจ้า” โล่หวินหลานพยักหน้าด้วยความยินดี ลืมไปเลยว่าโม่ฉีหมิงอยู่ข้างๆ
“ขอบใจท่านมากหวังเฟย ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน” สวินโม่ลุกขึ้นยืนอย่างดีอกดีใจ ทำความเคารพต่อหน้าโล่หวินหลาน แล้วจึงหันไปโค้งคำนับโม่ฉีหมิง สุดท้ายไม่รอเขาพูดจบ หลายคนก็เริ่มออกมาจากประตูแล้ว
ปกติสวินโม่เป็นคนมีสัมมาคารวะ ถึงแม้ว่ามีเรื่องอะไรก็ตามอย่างท้องเสียหรืออะไรเขาก็จะไม่หายไปโดยไม่ลาไม่กล่าว
ถ้าจะมีเหตุผลเดียวก็คือที่จวนยังมีคนๆหนึ่งรอเขาอยู่ แทบอดใจรอเขากลับมาไม่ไหว
โม่ฉีหมิงยิ้มๆอย่างทำอะไรไม่ถูก ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น ทำให้เห็นฟันขาวเรียงสวย
ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ตื่นเต้นอะไร ถึงกับพูดสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกไปจนหมด
“หวินหลาน เจ้ายิ้มอะไร?” โม่ฉีหมิงใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งหมุนแก้วในมือ แล้วยิ้มขึ้นเงียบๆ เห็นสายตาของโล่หวินหลานถึงกับมีความรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา
“พวกเขารักกันดีจังเลย ถึงสวินโม่จะยุ่งขนาดไหน ก็ไม่ลืมหรูซูที่อยู่ในจวน” โล่หวินหลานใช้มือเท้าคาง สายตาหยุดไปทางที่สวินโม่เดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก