ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 182

ตอนที่182 การรักษาบนถนน

ตำหนักของฮองเฮาเงียบลงทันที มีเพียงกลิ่นจากเครื่องหอมที่โชยอยู่ ธูปหอมในตำหนักลอยไปแตะจมูกของฮองเฮา ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย

เพียงแต่สิ่งที่นางพูดกับโม่ฉีหมิงเมื่อครู่นั้นยังติดอยู่ในใจ นางขมวดคิ้วเป็นปม สิ่งที่โม่ฉีหมิงพูดนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่? หรือเขามาที่นี่เพื่อมาฟังน้ำเสียงของข้า?

"ฮองเฮา สีหน้าของท่านไม่ดีนัก เป็นเพราะสิ่งที่หมิงอ๋องพูดหรือ?" วี่จือที่เดินออกมาจากด้านนอก ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

สีหน้าไม่ดีงั้นหรือ? เย่ฮองเฮาจับที่ใบหน้าของตนเอง หลังจากที่นางเป็นฮองเฮาเคยมีวันไหนด้วยหรือ ที่นางมีความสุขจากใจจริง? ทุกคนล้วนต้องการให้นางตาย ทุกคนอยากจะเอานางลงมาจากตำแหน่ง นางต้องกัดฟันสู้มาจนถึงทุกวันนี้ และในบางครั้งบางครายังต้องคอยถูกคนอื่นคิดไม่ดีหรือบางครั้งตนเองต้องคอยทำร้ายคนอื่น ชีวิตเช่นนี้มันช่างน่าเศร้านัก

"ช่วงนี้องค์รัชทายาททำอะไรอยู่? เหตุใดไม่มาพบข้าบ้างเลย?" เย่ฮองเฮาถามขึ้น จากนั้นก็ตักรังนกในถ้วยกิน

เมื่อเห็นว่าฮองเฮายังสามารถกินรังนกได้นั้น วี่จือเองก็สบายใจขึ้น นางโล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะช่วงนี้ชีวิตของนางนั้นช่างวุ่นวายเสียเหลือเกิน นางสนมในวังหลวงต่างก็คอยใส่ร้ายป้ายสีกัน วี่จือเองที่เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาก็คอยเป็นกังวลไปด้วย

"เรียนฮองเฮา หม่อมฉันได้รับข่าวจากขันทีที่คอยติดตามองค์รัชทายาทแล้ว ขันทีไม่ได้บอกว่าองค์รัชทายาทไปไหน เพียงแต่บอกว่ายังปลอดภัยดีเพคะ" วี่จือมองดูสีหน้าของฮองเฮา จากนั้นก็พูดต่อ "ฮองเฮา จะให้หม่อมฉันส่งคน......"

พูดไม่ทันจบฮองเฮาก็ยกมือขึ้นห้าม จากนั้นก็ส่ายหน้า "ไม่ต้อง องค์รัชทายาทโตเป็นหนุ่มแล้ว เขารู้ดีว่าสิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ เราไม่จำเป็นต้องจับตามองดูเขาขนาดนั้น" เพียงแต่คำพูดของโม่ฉีหมิงนั้น ทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจก็เท่านั้น

"เจ้าไปหยิบธูปหอมในห้องมาเปลี่ยนเถอะ เอาที่กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นนี้ดมมากแล้วรู้สึกเวียนหัว" เย่ฮองเฮาจับที่ขมับของตนเอง แล้วหลับตาลง

วี่จือเองเมื่อเห็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนธูปหอมใหม่มา ในใจของนางรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก แม้แต่กลิ่นธูปหอมที่ฮองเฮาชอบมาโดยตลอด วันนี้นางยังรู้สึกเวียนหัวได้ แล้ววันหน้าจะมีสิ่งใดที่ทำให้นางสบายใจได้บ้าง? และคนที่รู้สึกผิดเองก็หนีไม่พ้นนางกำนัลอย่างนางไม่ใช่หรือ?

แต่ถึงอย่างไรชีวิตของนางก็เกิดมาเพื่อเป็นนางกำนัล อย่างไรเสียนางก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด

จากวังหลวงกลับมายังตำหนักก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว รถม้าค่อยๆเคลื่อนตัวจากประตูทิศใต้ไปยังตำหนักหมิงอ๋อง เวลานี้โคมไฟด้านนอกก็ถูกจุดขึ้นแล้ว

โม่ฉีหมิงเดินเข้าตำหนักด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขาเดินย่ำลงหิมะสีขาว สีหน้าของเขาตอนนี้แผ่รังสีบางอย่างที่น่ากลัวออกมา สาวใช้ที่เดินไปมาก็รีบก้มหน้า กลัวว่าหากสบตาแล้วจะถูกเขาลงโทษ

รอบตัวของเขาไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใด ในค่ำคืนที่เงียบสงัดนั้นได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าของเขาที่เหยียบลงบนพื้นหิมะ หลังจากเปิดประตูเข้าไป เขาก็ได้เจอกับคนที่ใจนึกถึงบางโดยตลอด สีหน้าที่เรียบเฉยนั้นดูมีชีวิตขึ้นมาเล็กน้อย

"หวินหลาน วันนี้ระหว่างทางไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือไม่?" โม่ฉีหมิงถอดเสื้อคลุมตัวหนาแล้วถามขึ้น

โล่หวินหลานเองที่กำลังดื่มนมร้อนอยู่นั้น เมื่อได้ยินคำพูดของเขาก็พอจะเดาบางอย่างได้ วันนี้คนที่ขับรถม้าคือพ่อบ้าน ถึงแม้ว่านางจะย้ำเตือนกับเขาหลายรอบแล้ว แต่หากโม่ฉีหมิงถามขึ้น พ่อบ้านก็คงพูดทุกอย่างจนหมดเปลือก

หากสิ่งที่นางและพ่อบ้านพูดไม่ตรงกันนั้น เขาเองก็คงสงสัยเป็นแน่แท้ โล่หวินหลานครุ่นคิด อย่าพูดเรื่องที่เจอกับองค์รัชทายาทเป็นดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาต้องหึงอีกแน่

"ไม่มีอะไรนิเพคะ" โล่หวินหลานยิ้ม "วันนี้ฮ่องเต้เรียกท่านไปพบเรื่องอะไรหรือ?"

"ก็เรื่องที่องค์รัชทายาทสามารถคิดค้นยาถอนพิษได้แล้ว ตอนนี้เมืองหลวงเองก็เงียบสงบ ไม่อาจทรายได้ว่าโรคนั้นกลับมาระบาดหรือยัง ตอนนี้ท่านพ่อเชื่อมั่นในตัวขององค์รัชทายาท ข้าเองก็ไม่อยากทำสิ่งใดผลีผลาม ปล่อยเขาไปเถอะ" โม่ฉีหมิงพูดขึ้นจากนั้นก็หมุนแก้วบนโต๊ะ

ในห้องโถงนั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงของไฟในเตาผิงเท่านั้น ที่แผ่ความร้อนออกมา โล่หวินหลานจึงพูดขึ้น "การที่ฮ่องเต้เชื่อใจองค์รัชทายาทมากว่าท่านถือเป็นเรื่องที่ดี คนที่ยิ่งถูกมองว่าสำคัญหากทำความผิด ความผิดนั้นก็จะยิ่งใหญ่ไปด้วย และการถูกลงโทษก็หนักเช่นกัน พวกเรายังมีโอกาสอีกมากมาย"

โล่หวินหลานคลายยิ้มออกมา แววตาของนางเหมือนไม่ได้คิดสิ่งใดไว้ แต่ไม่ว่านางจะคิดสิ่งใด แววตาทั้งคู่ของนางก็จะทำให้คนมองรู้สึกว่านางใสซื่อและน่าเชื่อใจยิ่งนัก

"สิ่งที่องค์รัชทายาทและแม่นางอันดับหนึ่งของยองเชียงโหลวนั้น ก็สามารถที่จะล้มเขาได้แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา จะล้มเขามีวิธีตั้งมากมาย แต่ต้องเลือกเวลาที่ดีที่สุดเพื่อให้ฮ่องเต้กำจัดเขา......ด้วยตนเอง" ตอนที่โม่ฉีหมิงพูดนั้น แววตาของเขาช่างเรียบเฉย

โล่หวินหลานนิ่งไป ถึงแม้ว่านางจะรู้ดีว่าคิดสิ่งใดอยู่ แต่เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาจากปาก ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ

ทุกสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่ว่าในวันข้างหน้าเขาจะแพ้หรือชนะ นางก็จะอยู่เคียงข้างเขา ไม่ว่าตอนจบจะเป็นเช่นไร นางก็จะไม่มีวันเสียใจ

"แล้วฮ่องเต้ได้บอกหรือไม่ว่าองค์รัชทายาทใช้ยาถอนพิษนั้นเช่นไร?" โล่หวินหลานถามขึ้น

"ยาถอนพิษนั้นจริงหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ถึงอย่างไรก็ต้องรอการรับรองก่อน เสด็จพ่อเองก็ไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เพราะถึงอย่างไรก็ต้องให้หมอหลวงดูให้แน่ชัดก่อน" โม่ฉีหมิงรู้เรื่องนี้มานานแล้ว เพียงแต่ไม่พูดก็เท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก