ตอนที่194 เผาศพ
บรรยากาศในห้องจู่ก็รู้สึกหนาวเย็นกว่าเดิม เย่เซียวหลัวทำหน้าดุร้ายนั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมและจิบชา แต่ว่าสายตาของนางดูเย็นชาและกวาดไปยังจิ่นซื่อและแม่นม สายตาที่เปล่งประกายซึ่งความเลือดเย็นเหมือนกำลังจะทำให้ทั้งสองหยุดหายใจจนตายได้
ถึงแม้นางไม่ได้จะยุ่งกับการตัดสินใจของจิ่นซื่อ แต่ความหมายโดยนัยของคำพูดนางก็คือให้ฆ่าแม่นม
“คุณหนูสามตระกูลเย่ เจ้าบอกว่าเรื่องจะให้ข้าจัดการเอง ข้าจะไม่ยอมให้แม่นมต้องตาย ไม่ต้องพูดถึงว่าบุญคุณที่ผ่านมา ก็พูดถึงตอนนี้ อนาคตนางอาจจะมีประโยชน์ต่อพวกข้าก็ได้ ข้าเชื่อว่าแม่นมไม่ใช่คนที่ชอบเอาเรื่องของคนอื่นไปเล่าให้คนอื่นฟัง ใช่หรือไม่?”
คำพูดคำสุดท้ายของจิ่นซื่อคือคุยกับแม่นม เล็บอันเรียวยาวของนางขูดไปยังใบหน้าของแม่นมเบาๆ เหมือนแค่ขูดเบาๆ หน้าอันอ่อนเยาว์ของแม่นมก็จะถูกทำลายเพียงพริบตา
ฟังจากคำพูดของจิ่นซื่อเหมือนจะมี่ความหวัง แววตาของแม่นมเปล่งประกายออกมา จับเสื้อของนางไว้ไม่ปล่อย “จิ่นซื่อ ข้าขอสาบานกับฟ้าว่าข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ไม่งั้น ขอให้ข้าถูกฟ้าผ่า มีชีวิตอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน ทั้งชาตินี้และชาติหน้าก็อยู่อย่างโดดเดี่ยว ตายจากไปอย่างไร้ค่า!
คำสาบานครั้งนี้ฟังดูโหดร้าย ทำให้คนอื่นไม่เชื่อก็ไม่ได้ ดูนางขอชีวิตอย่างทนทุกข์ และความรู้สึกที่แสดงออกมาดูจริงใจมาก จิ่นซื่อกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ใจอ่อน ถ้าแม่นมไม่ได้ยกน้ำชาขึ้นมา ก็คงไม่ต้องแบกรับความลับอันใหญ่หลวงเยี่ยงนี้ ทุกคนก็ย่อมอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
“คุณหนูสามตระกูลเย่เจ้า ข้าว่าเรื่องนี้ก็ไว้แค่นี้ก่อนเถอะ ยังไงข้าดูแม่นมคงไม่พูดเรื่องนี้ออกไปอย่างแน่นอน จิ่นซื่อมองเย่เซียวหลัว สีหน้าของนางไม่สบอารมณ์ใดๆ แต่กลับเย็นชาจนดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เห็นนางไม่พูดไม่จา นึกว่าเขาอนุญาตแล้ว จิ่นซื่อจึงใช้สายตาบอกให้แม่นมรีบออกไป แม่นมก็ถือว่าเป็นคนสื่อสารทางสายตาเก่ง เลยรีบเดินลงมาจากบันได แต่ตอนที่นางกำลังหันหลังกลับไปก็ได้ยินเสียงเย่เซียวหลัวพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น
“หยุดเดี๋ยวนี้ ใครบอกให้เจ้าไป?” เย่เซียวหลัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ และพูดขึ้นด้วยความชาญฉลาด “ข้าไม่ใช่จิ่นซื่อ ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรใดๆกับเจ้า อย่าคิดว่าเจ้าแค่สาบานอะไรสักอย่างแล้วจะทำให้ข้าเชื่อเจ้าได้ ไม่อยากตาย……นอกจาก……”
นางตั้งใจลากคำพูดข้างหลังให้ยาวขึ้น ทำให้แม่นมรู้สึกกลัวขึ้นมา เสียงของนางสั่นและถามขึ้น “นอกจาก……อะไร?”
บรรยากาศเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ เย่เซียวหลัวทำหน้าเลือดเย็นมากขึ้น และพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ “นอกจาก เจ้าตัดลิ้นของเจ้าทิ้งไป”
อารมณ์ที่เหน็บหนาว แม่นมทรุดลงไปกับพื้น ตัวของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ จะตัดลิ้นของนางทิ้งงั้นหรือ? นางสามารถเป็นแม่เล้าของหยองเซียงโหลวได้ก็เพราะลิ้นนี้แหละ ถ้าให้ตัดมันทิ้ง ฆ่านางเลยจะดีกว่า!
น้ำตาของนางไหลรินออกมาแบบไม่หยุด ตัวของนางนอนไว้กับพื้น ผ่านไปสักพัก นางถึงจะพูดออกมาอย่างเสียงต่ำ “คุณหนูสามตระกูลเย่ เจ้าฆ่าข้าเถอะ!ถ้าเจ้าตัดลิ้นของข้า ข้ามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ข้าตายไปยังดีกว่า!”
ใครจะไปคิดว่าคนอย่างแม่นมก็มาถึงจุดๆนี้ได้ เวลานี้ที่แม่นมคุกเข่าลงขอชีวิตจากคนอื่น? ตอนนี้นางก็เหมือนคนที่กำลังจะพ่ายแพ้ กำลังขอร้องอ้อนวอนจับปลายกระโปรงของเย่เซียวหลัว
ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวกันหมด ถ้ายิ่งคนที่มีตำแหน่งสูง ฐานะดี ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไม่ใช่เพราะว่าตนเอง แล้วจะอยู่ไปเพื่ออะไร
“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าขอเอง งั้นข้าจะทำให้เจ้าสมหวังเอง” เย่เซียวหลัวชักดาบเล่มเล็กออกมา และโยนไปข้างหน้าของแม่นม “ปาดคอตนเองให้ตายสิ!”
ท่าทีที่โยนมีดไปไว้ต่อหน้านาง เพื่อเป็นการยืนยันว่านางอยากตายจริงๆ นางหยุดชะงักไปสักพัก ค่อยๆเก็บมีดที่อยู่บนพื้น มีดอันแหลมคมกีดลงตรงหน้าที่เหี่ยวแก่ของนาง รอยเหี่ยวหย่นที่เต็มหน้าของนาง นางไม่มีทางเลือกจริงๆ นางต้องจบชีวิตของตนเองใจไปจริงๆ ถึงแม้ว่าจะยินยอมแค่ไหนก็ตาม
มีดเล่มนั้นค่อยๆเลื่อนไปอยู่แถวลำคอของนางกีดเข้าไป เลือดสดๆก็จะพุ่งออกมา นางยิ้มแห้งเบาๆ และหลับตาลง และโยนมีดเล่มนั้นออกไปนอกหน้าต่าง และหัวเราะขึ้นอย่างเสียงดัง “ข้าไม่ตาย!ทำไมข้าต้องตายด้วย?”
ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้า
ดูว่าสุดท้ายนางต่อต้านและไม่ยินยอมขนาดนี้ เย่เซียวหลัวกระตุกมุมปากขึ้น และตบมือตัวเอง “ดี ถ้าเจ้าไม่ยอมตายเยี่ยงนี้ เจ้าก็กลายเป็นคนของข้าแล้ว อยู่หยองเซียงโหลวช่วยพวกข้าสืบข่าว ไม่อย่างนั้น ข้าจะรีบส่งคนไปเก็บเจ้าทันที เข้าใจหรือไม่?”
เรื่องนี้มันเปลี่ยนแปลงในเร็วขนาดนี้เลยหรือ ทีแรกแม่นมก็นึกว่าชีวิตตนเองคงจะจบจริงๆแล้ว แม่นมผู้ที่กำลังร้องไห้หยุดร้องไป และมองไปยังเย่เซียวหลัวอย่างหน้าซื่อ ผ่านไปสักพัก จึงจะรู้ว่าเรื่องมันเกิดอะไรขึ้น และนางก็หัวเราะออกมาอย่างดีใจ “จริง จริงๆหรือ?”
เย่เซียวหลัวสะบัดเสื้อคลุมของตนเองเบาๆ คนกำลังจับขอบประตูไว้ แม้แต่หน้ายังไม่หันกลับมา “ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ลิ้นของเจ้าถูกตัดทิ้งอย่างแน่นอน” ประตูถูกเปิดขึ้นทันที และปิดลงทันใด สุดท้ายบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความสงบ
ในห้องสงบลง มีแต่กลิ่นของดอกมะลิที่หอมกรุ่นไปทั่วห้อง ใจที่เต้นรัวของแม่นมได้หยุดลง และจิ่นซื่อที่ยืนอยู่ข้างๆกำลังขมวดคิ้วเป็นปม
นางยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่เข้าใจเย่เซียวหลัว รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆต่อทั้งสองนาง ทำไมต้องเก็บแม่นมไว้? ใจของนางกำลังวางแผนอะไรอยู่?
ชีวิตก็เหมือนลำธารที่ไหลไม่หยุด ข่าวที่โล่หวินหลานถูกฆ่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยออกไป ตอนนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วเมืองหลวง ชาวบ้านที่เคยได้รับการรักษาจากนาง คนที่นางเคยเมตตาพอได้ข่าวของนาง ต่างก็อยากจะใส่หินสร้างอนุสาวรีย์ของนางขึ้นมา
สวินโม่และหรูซูเดินผ่านโรงน้ำชาตรงตลาด และมักจะได้ยินเสียงพูดคุยของชาวบ้านส่งมาจากโรงน้ำชา
“ได้ยินมาว่าตอนที่พระชายาหมิงอ๋องกำลังทำการรักษาให้คนถูกคนร้ายฆ่า สองสามวันก่อนยังจัดยาฟรีให้กับชาวบ้านอยู่เลย ทำไมจู่ก็โดนฆ่าเยี่ยงนี้ล่ะ?” เสียงของชายผู้หนึ่งพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
ชายอีกคนทำเสียง “ถุย”ขึ้น “มีอะไรที่นึกไม่ถึงล่ะ เจ้าดูพระชายาหมิงอ๋องงดงามเยี่ยงนี้ จิตก็งดงาม การแพทย์ก็ดีเยี่ยม คนอิจฉาเยอะแยะไปหมด เฮ้อ แค่พระชายายังสาวอยู่ก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ !พวกเจ้าพูดมาสิ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้มีใครบ้างที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากนาง?
ฟังที่เขาพูดมาแล้ว ทุกคนก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผล ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
สวินโม่หยุดฝีเท้าแล้วยืนฟังไปสักพัก จมูกของเขาเริ่มแสบ และไม่อยากจะฟังอีกต่อไป โอบไหล่ของคนข้างๆไว้แล้วเดินหน้าต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก