ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 199

ตอนที่199 ความสัมพันธ์ทางสายเลือด

อากาศสดใส สายลมพัดมาแผ่วเบา น้ำค้างยามเช้าตรู่ค่อยๆตกลงมาจากผนังไปสู่พื้นดิน เมื่อแสงอาทิตย์ที่สอดส่องผนังเขียวจากทิศตะวันออก ทำให้ทั้งวันรู้สึกสดใส

นี่เป็นปีแรกที่โล่หวินหลานจากไป เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว แค่พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว

“ท่านอ๋อง มีจดหมายจากเมืองอูส่งมาขอรับ” ฉินหยิ่นเอาจดหมายที่อยู่บนมือรีบยื่นให้โม่ฉีหมิง

หนึ่งปีที่ผ่านมา โม่ฉีหมิงได้พัฒนากำลังทหารและขยายอำนาจของตนเองให้แกร่งกว่าเดิม

อีกอย่างวิธีที่เขาใช้ยิ่งทำให้ดูโหดเหี้ยมและน่ากลัว ยอมที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์ เพื่อที่จะไม่ปล่อยให้คนๆหนึ่งได้ลอยนวล คนในเจียงหูรู้สึกกลัวเขาเป็นอย่างมาก บางครั้งพวกเขาต้องอ้อมเมืองในการเดินทาง

พอแกะจดหมายออกมาดู ข้างในจารึกตัวอักษรไว้ไม่เยอะ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเห็นเนื้อหาข้างใน พวกเขาได้ใช้คำพูดโดยนัย และลายลักษณ์อักษรที่บันทึกในนั้นถือว่าเป็นคำพูดโดยนัยที่วงในใช้กัน

“ด่องห้วนใช้ครอบครองประชากรที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของเมืองอูแล้ว ไม่ว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนไปเยี่ยงไร พวกเขาไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจกับคนที่ตนเองซื่อสัตย์” โม่ฉีหมิงแกะจดหมายเสร็จและพูดด้วยเสียงเย็นชา

“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องที่ได้ครอบครองอีกเมืองๆหนึ่ง”

ฉินหยิ่นถวายบรรทม ถึงแม้เรื่องราวมันจะมีความสุขสักแค่ไหน เขาก็ไม่เคยได้เห็นสีหน้าของโม่ฉีหมิงมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือว่าสำหรับเขาแล้ว โลกใบนี้ไม่มีคำว่ามีทุกข์สุขร้องไห้อีกต่อไป มีแค่มุ่งทำให้ตนเองมีความแข็งแกร่งและมีอำนาจมากยิ่งขึ้น

“ด่องห้วนพูดไม่ผิดจริงๆ หลายพื้นที่ของเมืองหลวงใกล้จะครอบครองให้ทั่วถึงตามใจต้องการแล้ว หลังจากนั้น พวกเข้าต้องเริ่มจากในใจเมืองอู ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถครอบครองทั้งแคว้นโม่ฉีได้” โม่ฉีหมิงยื่นมือไปเอาแผนที่และข่าวของแคว้นโม่ฉี และติดต่อข่าวสารต่างๆทั้งในนั้นได้วางตำแหน่งถึงทั้งเมืองใหญ่เมืองเล็กในแคว้นโม่ฉี ตำแหน่ง ข่าวที่เกี่ยวข้องกับไท่ซ้อ

ฉินหยิ่นกลายเป็นคนที่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่ระวังตัวเอง “ด่องไท่ซ้อทำงานอะไรไม่เคยพลาดแม้แต่ครั้งเดียว ท่านอ๋องขอรับ ข้าน้อยเชื่อว่าถ้าด่องไท่ซ้ออยู่ เรื่องทุกอย่างก็คงอยู่ภายใต้การวางแผนของเรา”

การสนทนาที่ยิ่งอยู่ยิ่งเข้ากันได้ของพวกเขาทำให้ฉินหยิ่นรู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ค่า แต่ก่อนเขาไม่เคยพูดคำพูดแบบนี้กับโม่ฉีหมิง หลังจากที่พระชายาจากไป เขาก็ไม่เคยรู้จักโม่ฉีหมิงอีกต่อไป

“ส่งข่าวให้ด่องห้วน ไม่ว่าจะเสียภาระกำลังแรงคน สิ่งของ หรือทรัพย์สิน ก็ต้องเอาเมืองอูมาอยู่ภายใต้การครอบครองให้ได้” ใบหน้าของโม่ฉีหมิงแหลมคมดั่งใบมีดกำลังยิ้มแห้งๆออกมาเบาๆ สายตาที่ดุจดั่งตาเหยี่ยวที่ฉินหยิ่นรู้สึกคุ้นชินได้เผยความเย็นชาออกมา

ฉินหยิ่นพยักหน้า ออกจากประตูของหอหนังสือ พอหันหลังไปปุ๊บ เห็นเย่หวินยืนอยู่ข้างหลังเขา มือของนางยกสาลี่จักรพรรดิ์ไว้

“ท่านอ๋องเป็นเยี่ยงไรบ้าง? นี่เป็นสาลี่จักรพรรดิ์นั้นเหมือนทำมานานจนเริ่มละลาย นี่เป็นขนมหวานที่พระชายาเคยทำให้ท่านอ๋องกินเองกับมือง แค่เขาได้กินนี้ อารมณ์ของเขาก็จะดีขึ้น” เย่หวินอยากลองใช้วิธีนี้เป็นยาบรรเทาจิตใจเขาดู

“อย่าเลย ถ้ามีใจและฝีมือแบบนี้ทำให้ข้ากินจะดีกว่า หลังจากที่พระชายาจากไป อารมณ์ของท่านอ๋องก็เป็นแต่แบบนี้ กินไปก็คงไม่ช่วยอะไร”

จิ่นชื่อแย่งขนมถัวยนั้นไปอย่างหน้าซื่อๆ และยื่นมือลากนางไปยังศาลาที่หลังสวน และกินขนมถ้วยนั้นอย่างเอร็ดอร่อย

เย่หวินยื่นคงให้ยาวขึ้น และขมวดคิ้วเป็นปม แล้วทำสีหน้าทรมานมองฉินหยิ่น “ก็ใช่ ตอนนี้สวินโม่ก็ไปแล้ว พวกข้ากับท่านอ๋องก็พูดแทรกอะไรไม่ได้ ขนาดจะสรรหาวิธีใดๆก็ไม่ได้ผล

“ไม่อยากคิดเยอะแล้ว ไม่ว่าท่านอ๋องจะเป็นคนยังไง พวกข้าต้องคอยสนับสนุนท่าน รีบดื่มเถอะ ดื่มเสร็จต้องทำธุระต่อ!” เย่หวินเร่งเขา

ติดตามโม่ฉีหมิงฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะขนาดนี้ เคยเห็นความเก่งของเขา ความไร้ซึ่งความอดทน ความบ้าอำนาจ ความเย็นชาของเขา และเขาที่ไม่มีจิตใจ ท่าทางนับสิบๆอย่างของเขาพวกเขาก็เคยเจอมาแล้ว ตอนนี้ในสภาพแบบนี้ของเขา ลึกๆแล้วพวกเขาก็น่าจะอดทนได้

โม่ฉีหมิงที่เป็นอย่างตอนนี้ กลายเป็นศพที่เดินได้โดยแท้จริง นึกไม่ถึงว่าโล่หวินหลานจะส่งผลกระทบต่อเขาเยอะขนาดนี้

ค่ำคืนที่สงบในเทือกเขาสูง นอกจากได้ยินแค่เสียงลมพัด อย่างอื่นแทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย

ค่ำคืนนี้ โล่หวินหลานนั่งอยู่บนหลังคา ใต้เท้าของนางก็คือที่ที่นางอาศัยอยู่ นางดื่มเหล้าอุ่นไปคำแล้วคำเล่า แก้มของนางเริ่มแดง และเริ่มร้อน

ลมที่ปะปนไปด้วยหิมะพัดมาแรงหน่อยๆ นางเริ่มรู้สึกวิงเวียนศีรษะ และเดินแบบเซไปเซมาลงมาจากหลังคา บันไดที่ก้าวลงมาเหมือนมองได้ไม่ค่อยชัดเจน แต่ยังไงก็เดินลงมาด้วยความเคยชินที่เมื่อครู่นางเดินขึ้นไป

จะหลับดีๆสักหน่อย วันรุ่งขึ้นคงไม่มีอะไรทำอีกแล้ว

“เจ้าอาจารย์ มีอะไรไม่สบายใจอีกแล้วหรือ?” หมิงซีมองชิวโม่ไป๋ที่กำลังทำสีหน้าแย่ๆ แล้วถามขึ้นอย่างไม่รีรอ

“ไม่มี ข้าแค่หาเรื่องไม่สบายให้ตนเอง ข้านึกถึงมั่นเอ๋ออีกแล้ว นางยังสาวยังแส้ กลับโดนคนอื่นหักหลังเยี่ยงนี้ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะว่าข้าไม่ได้สอนนางดีๆ นางก็คงไม่……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก