ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 198

ตอนที่198 ช่วงเวลาที่อยู่กลางป่ากลางเขา

หมอชั้นสูงอย่างชิวโม่ไป๋คงไม่รับหญิงสาวมาเป็นลูกศิษย์หรอก ยิ่งไปกว่านั้นคือชาติที่แล้วไม่รู้ว่านางไปทำความชั่วอะไรถึงโดนฟ้าผ่ามาถึงที่นี่ได้ โล่หวินทำหน้าผิดหวังแล้วมองไปยังหมิงซีคนนี้น่าจะคบหาง่ายกว่า

“อย่ามามองข้า คำสั่งท่านอาจารย์ท่านมิอาจมิฟัง ดังนั้นข้าจะไม่เข้ามายุ่งโดยเด็ดขาด” หมิงซีทำหน้าเฉยชามองโล่หวินหลาน เพราะกับหน้าตาที่เฉยเมยของเขามาก

คิ้วที่กระตุกขึ้นของเขาเหมือนอาการของชิวโม่ไป๋เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาคบหากันมานาน ขนาดสีหน้าก็ยังคล้ายคลึงกัน โล่หวินหลานส่ายหัวไปมา ช่วยเขาเทน้ำหนึ่งแก้ว “ท่านพี่หมิงซีเจ้านั่งก่อน เจ้าก็รู้ว่าข้าเพิ่งฟื้นขึ้นมา จึงไม่มีเรื่องอะไรเลย เจ้าบอกเรื่องที่นี่ให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่?”

หมิงซียกน้ำชาขึ้นมาดื่มจนหมดแล้ว จู่ๆก็เข้ามาใกล้โล่หวินหลาน คิ้วอันดกของเขาขมวดขึ้น เหมือนสุนัขที่จ้องลำคอของนางอยู่

แต่การกระทำของเขาทำให้โล่หวินหลานเริ่มโมโห ยังไม่ทันพูดอะไร เขาถอยห่างจากนางกลับไปโดนทันที และขยี้จมูกของตนเองเบาๆ “เจ้านอนมา 1 ปีอาบน้ำก่อนดีกว่าไหม?”

คำๆเดียวทำให้โล่หวินหลานเริ่มอาฆาตรด้วยสายตา และยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน รอให้นางได้สติ ได้แต่มองเงาของเขาเดินไปตรงประตู

นอนไป 1 ปี! ไม่ได้อาบน้ำ? โล่หวินหลานขนลุกขึ้นต้องตบลำตัวของตนเอง ผอมแห้งขนาดนี้เลย ถึงแม้เรือนร่างและโครงกระดูกเป็นหุ่นที่นางต้องการ แต่ว่าทำไมอกของนาง จากคับ C เป็น คับ A ล่ะ?

ผลักประตูแล้วเดินออกไป นึกไม่ถึงเลยว่าบรรยากาศและทิวทัศน์ข้างนอกจะดีขนาดนี้ เหมือนสวรรค์ที่อยู่ในโลกมนุษย์เลย

สวนอันกว้างขวางเต็มไปด้วยยาสมุนไพร ข้างซ้ายวางโต๊ะเล็กๆที่ถักด้วยไม้หวาย เป็นที่สำหรับดื่มชา

ตรงกลางเป็นสะพานเล็กๆ ข้างล่างเป็นลำธาร แต่ว่ากลายเป็นน้ำแข็งแล้ว เดินไปอีกก็จะตากสมุนไพรไว้ทั้งสองข้าง หมิงซีที่เพิ่งออกมาจากห้องก็เดินไปคุ้ยสมุนไพรอยู่ตรงโน้น

กำลังถึงตรงกลางของสะพาน ก็สามารถเห็นสวนได้อย่างชัดเจน ห้องก็ไม่กี่หลัง แต่กว้างขวางและปลอดโปร่งมาก หลังที่อยู่ซ้ายสุดน่าจะเป็นห้องครัว ข้างนอกที่วางโต๊ะหินไว้น่าจะเป็นที่กินข้าว หลังที่เหลือก็น่าจะเป็นที่นอน

พอมองเห็นนางเดินออกมา หมิงซีเดินเข้าไปในห้องแล้วเอาชุดสีมืดโยนให้นาง และชี้ไปยังห้องด้านขวาสุด “นั่นเป็นห้องอาบน้ำ น้ำร้อนอยู่ห้องครัว เดินไปข้างล่างก็เป็นที่ซักผ้า”

นางยื่นรับชุดไปอย่างรวดเร็ว โล่หวินหลานเอามาวางไว้ต่อหน้าตนเอง แล้วนางก็วางวัดดู ขนาดเหมาะกับตัวเองพอดี!

“ศิษย์พี่หมิงซีชุดพวกนี้เตรียมเพื่อข้าจริงๆใช่หรือไม่?” โล่หลินหลานเหมือนกำลังจะถูกรักใคร่จริงๆแล้วถามขึ้น

เทือกเขาตรงนี้มีแค่เขาสองคนอยู่ และยังไม่เคยเห็นหญิงผู้ใดมาที่นี่ ตอนนี้เสื้อพวกนี้เหมาะกับนางพอดี ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

หมิงซีไม่เฉียงตาไปมองเลย แต่กลับมองแค่สมุนไพรพวกนั้น “ไม่ใช่แน่นอน” หยุดชะงักไป แค่พูดเพิ่มเติมนิดหน่อย “นั่นคือชุดที่ข้าใส่ตอน 5 ปีก่อน”

ห้าปีก่อน? โล่หวินหลานมองชุดพวกนั้นอย่างโศกเศร้า ห้าปีก่อนก็ช่างเถอะ ยังเป็นชุดที่หมิงซีเคยใส่ เคยใส่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงลวดลายของชุดพวกนี้นางก็ไม่ได้รังเกียจ

“เจ้าไม่ใส่ก็ได้ งั้นก็ใส่ชุดที่เจ้าใส่ไว้เลย ถึงแม้จะผ่านไปหนึ่งปี แต่ไม่ได้ไปตากแดดตากฝน มันก็ไม่ได้เก่ามาก แต่ว่าหนึ่งปีที่ไม่ได้ซัก ก็มักจะมีกลิ่นเสมอ” หมิงซีพูดขึ้น เขาหยุดชะงักไปสักพัก และพูดขึ้นอีก “ชุดนั้นก็เป็นชุดที่ข้าใส่ตอน 5 ปีที่แล้ว”

“จริงๆชุดที่อยู่ในมือของข้าตอนนี้ก็ดีอยู่นะ ก็คงไม่ต้องไปเปลี่ยนให้มันยุ่งยาก” โล่หวินหลานพูดจบ ก็รีบเดินไปฝั่งห้องครัว เพื่อไปเอาน้ำร้อน

ถึงแม้หมิงซีกับชิวโม่ไป๋จะอยู่บนเทือกเขาแห่งนี้มานานแสนนาน แต่ว่าความมืดมัวในจิตใจของเขาก็ไม่น้อยกว่าคนในเมืองหลวง แต่ยังไงคนแบบนี้ก็ไม่ใช่คนจิตใจเลว นางก็ได้แต่อยู่ที่นี่อย่างสบายใจมากี่วัน รอให้ทุกอย่างมันมั่นคงหน่อย แล้วค่อยไปเมืองหลวงไปหาโม่ฉีหมิง

แค่ว่าไม่ม่รู้พอได้เปลี่ยนหน้าตาเป็นเยี่ยงนี้ และฟื้นขึ้นมาใหม่ โม่ฉีหมิงจะยังคงรู้สึกนางหรือไม่? จะรู้สึกว่าเรื่องนี้คาดคิดไม่ถึงหรือไม่ คนที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ได้เยี่ยงไร?

ลำธารที่มีน้ำไหลบนเขาหวานฉ่ำจริงๆ เทใส่ในอ่างไม้จะรู้สึกได้รับกลิ่นอายที่หอมหวาน ความร้อนที่ระเหยขึ้นมาเรื่อยๆ ควันลอยไปทั่วห้อง ทำให้รู้สึกองอุ่นให้ช่วงหน้าหนาว

ไม่คิดเยอะแล้ว พอวันนั้นมาถึงค่อยทำทุกอย่างไปตามโอกาสก็ไม่สาย

พอสวมใส่เสื้อเสร็จ ก็สวมทับเสื้อคลุมไปอีกชุดหนาๆ และมัดรวบขึ้น ใบหน้าที่ขาวใสของนางทำให้มีแสงเปล่งประกายออกมา เหมือนความเงาจากเปลือกไข่ที่สะท้อนออกมา ถึงแม้จะสวมใส่เสื้อสีมืด แต่แค่ได้เห็นใบหน้าของนาง ก็รู้สึกน่าทึ่งมากๆ

และยกผ้าที่อยู่ในกระถังไม้เดินออกจากประตู หมิงซียังคงจัดการกับสมุนไพรที่ตากไว้ เห็นโล่หวินหลานออกนอกประตู ก็หันหลังไปมอง และเปลี่ยนหน้าเหมือนไม่สบอารมณ์หันกลับไปทำงานต่อ

“เห็ดหลินจือ โสม ปัคคี้ เหม่ากึง เก๊กฮวย ลูกเดือย ชะเอมจีน.......สมุนไพรพวกนี้เจ้ากับหมอเทวดาชิวไปเด็ดมาจากไหนหรือ?” โม่ฉีหมิงยื่นมือออกมาจับเห็ดหลินจือขึ้นมาดู และพูดด้วยความตกใจ “เห็ดหลินจือพันปี นี่มันมีคุณค่าจริงๆ น่าจะไปเก็บได้คั้งนานแล้วหรือป่าว?”

รอให้นางพูดสมุนไพรพวกนี้ออกมาจนหมด หมิงซีหันไปมองนางสักที และทำหน้าอึ้งที่นางรู้เรื่องเยอะขนาดนี้

“เจ้ารู้เรื่องการแพทย์ด้วยหรือ?” หมิงซีถามถึง

“ข้าก็รู้บ้าง แต่ว่าการแพทย์ของข้าเป็นความรู้ระดับสูง ดูสักแปบนึงก็รู้เรื่องแล้ว” โล่หวินหลานพูดขึ้นอย่างมั่นใจ และภูมิใจตนเองมากๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก