ตอนที่ 206 ขัดคำสั่งฮ่องเต้
เดินออกมาจากด้านในตำหนัก จ้าวกงกงและเด็กรับใช้ติดตามรีบเดินมายังหน้าประตู วิวหิมะนี้ช่างสวยงามจริงๆ ทำให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาต้องมองทุกครั้ง
“รีบหน่อย คำสั่งของฮ่องเต้นั้นไม่คอยใคร” จ้าวกงกงพูดเสียงสูงแล้วมองไปที่องครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ นี่เป็นศิษย์ที่เขารับเข้ามาใหม่ ท่าทางดูซื่อสัตย์ เชื่อฟัง แต่ที่จริงนั้นหลักแหลมมาก
องครักษ์คนนั้นตอบรับ แล้วรีบวิ่งไปยืนด้านข้างจ้าวกงกง แล้วรีบเดินตามเขา พลางมองเขาแล้วถามขึ้น “ท่านอาจารย์ ทำไมทุกครั้งที่หมิงอ๋องออกคำสั่ง ท่านต้องมาจัดการเองด้วย”
เท้าก้าวเหยียบพื้นหิมะหนาๆ จ้าวกงกงเกือบจะล้มลงบนพื้น แต่องครักษ์ข้างกายเขามาพยุงไว้ก่อน เขาจึงค่อยๆตั้งหลักขึ้นมา แล้วตอบ “หมิงอ๋องนั้นไม่เคยได้รับความรักจากฮ่องเต้ตั้งแต่เล็ก แต่หลังจากที่หน้าตาเขากลับมาดีขึ้น ร่างกายเริ่มใช้การได้แล้วนั้น เขาก็ได้รับความรักความเอ็นดูมากขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเวลาฮ่องเต้เรียกเขา แล้วข้าต้องมาเชิญเอง”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็เท่ากับจบแล้ว
องครักษ์นั้นกระตือรือร้นมาก เขาเดาออกตั้งนานแล้วเพื่อเป็นการแสดงว่าฮ่องเต้นั้นมีความเมตตา จึงให้องค์ชายองค์อื่นนั้นเป็นตัวอย่าง
เดินเลี้ยวไปก็จะถึงเรือนหมิงอ๋องแล้ว ทหารเฝ้ายามหน้าประตูที่กำลังชมวิวหิมะอยู่ เมื่อเห็นร่างใหญ่ในชุดน้ำเงินปรากฏขึ้น จึงรีบดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
“หมิงอ๋องอยู่ในเรือนไหม?” เสียงของจ้าวกงกงนั้นเป็นเอกลักษณ์
“จ้าวกงกงมาแล้ว นายท่านอยู่ในเรือน รีบเข้ามาเถอะ” ทหารยามนายหนึ่งรีบเปิดประตู เชิญให้เข้าไป
คุ้นเคยกับการที่ในเรือนหมิงอ๋องไม่กวาดหิมะแล้ว จ้าวกงกงเดินอย่างระมัดระวัง แต่องครักษ์ที่เดินตามมาด้านหลัง ดูยังไม่คุ้นชินนัก เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลง แล้วก็ถูกจ้าวกงกงตำหนิ
เดินตามมาทางที่คนใช้เรือนบอก จ้าวกงกงก็เดินมาถึงหน้าห้องหนังสือ สูดลมหายใจเข้าลึก ตั้งแต่ที่พระชายาหมิงเสียชีวิตไป หมิงอ๋องก็เปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่คน โหดร้ายดุดัน เขานึกถึงเรื่องที่จะพูด แล้วยื่นมือไปเคาะประตู มีเสียงตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “เข้ามา”
โม่ฉีหมิงใช้พู่กันแต้มขีดสุดท้ายลงบนกระดาษ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเย่กงกงที่ค้อมตัว แล้วเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ “จ้าวกงกง ท่านพ่อมีอะไรหรือ?”
จ้าวกงกงตอบกลับเสียงเบา “ขอรับ ฮ่องเต้รับสั่ง ให้เชิญท่านหมิงอ๋องเข้าวัง เพื่อปรึกษาธุระขอรับ”
เขาเงยหน้าขึ้นมาเป็นครั้งคราว บนกระดาษนั้นเขาวาดเป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านั่นคือพระชายาหมิง เขาก้มหัวลงไปอีกครั้ง ลมด้านนอกพัดเข้ามาจนเกิดเสียง ราวกับเป็นเสียงลมกระทบกับกระดาษ ที่แท้ ในห้องนั้นแขวนเต็มไปด้วยภาพวาด
“ได้สิ เดี๋ยวเข้าไป” หมิงอ๋องพูดตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ แล้วหยิบกระบอกเงินบนชั้นวางหนังสือลงมา ค่อยๆม้วนภาพวาดแล้วยัดลงไปในนั้น
ทางเข้าวังนั้นเขาคุ้นเคยดี แต่ครั้งนี้เขาขี่ม้าไป ด้านนอกวังบนพื้นเต็มไปด้วยกองหิมะ แต่ข้างในเป็นพื้นสะอาดไม่มีหิมะ เมื่อเข้าสู่ช่วงกลาง เผชิญกับการมาถึงของชายหนุ่มที่คลุมด้วยผ้าคลุมสีเหลืองเข้ม นั่นคือเวินอ๋อง
“พี่สี่ ทำไมวันนี้พี่ถึงเข้าวังล่ะ?” ในหนึ่งปีมานี้เวินอ๋องไม่ค่อยลงรอยกับโม่ฉีหมิง เพียงแค่สองคนนี้เจอหน้ากัน ก็จะพูดเยาะเย้ยเกิดสงครามกันเล็กๆเสมอ
“มีธุระ” โม่ฉีหมิงตอบกลับอย่างเย็นชา แล้วเดินเข้าห้องหนังสือไป
เมื่อกำลังเดินอยู่นั้น ก็มีหญิงสาวใส่ชุดฤดูหนาวสีชมพูคลุมด้วยผ้าสีชมพูอ่อนเดินเข้ามา มั้งตัวราวกับเป็นดอกท้อในวันที่พระจันทร์เต็มดวง เบิกบานสดใส
ไม่นานนัก เธอเดินอ้อมโม่ฉีหมิงมาที่เวินอ๋อง เกาะแขนเขาไว้แน่น ยิ่งมีคนอยู่ เธอยิ่งอยากแสดงความสนิทสนมกับเวินอ๋องต่อหน้าคนอื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอที่เป็นอริกับโม่ฉีหมิงมาเนิ่นนาน
“ช่างบังเอิญจริงๆ ข้ากับเวินอ่องเพิ่งจะไปเยี่ยมท่านแม่มา ทำไมวันนี้หมิงอ๋องถึงมีเวลาเข้าวัง?” เย่เซียวหลัวยิ้มอย่างเบิกบาน ปิดปากแล้วหันไม่มองหมิงอ๋อง
ยิ่งได้รู้ข่าวที่โล่หวินหลานตาย เธอยิ่งแสดงความรักกับเวินอ๋องต่อหน้าเขามากขึ้น ความอับอายที่เขาได้รับในก่อนหน้านี้ เธอจะค่อยๆเอาคืนหลังจากโล่หวินหลานตายไป
โม่ฉีหมิงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา แล้วขมวดคิ้ว ในสายตามีแววตาค้นหาอยู่ในนั้น แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องหนังสือไม่หันกลับมาอีก
เย่เซียวหลัว เธออย่าให้ข้ารู้อะไรนะ ข้าเอาคืนแน่
“เธอดูสิ เรื่องผ่านไปตั้งหนึ่งปีแล้ว เขายังทำหน้าอย่างนั้นใส่ข้าอีก ยิ้มหน่อยก็ไม่ได้ คนทั้งโลกผิดต่อเขาทั้งหมดเลยหรือไง?” เย่เซียวหลัวบ่นตามหลังเขาไป
ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว เธอนั้นสวยกว่าเดิมมาก ทำผมติดเครื่องประดับมากมาย มีปอยผมตกลงมาทั้งสองข้าง ราวกับบรรจงวาดแต่งแต้มลงบนนั้น ทำให้ผู้พบเห็นต่างหลงรัก ดูท่าเวินอ๋องที่อยู่ในวังนี้ค่อนข้างสุขสบาย ท่วงท่าช่างน่าดูประทับใจ
“เธอกลับเรือนไปก่อน ข้ายังมีเรื่องต้องทำ” เวินอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วเกาะแขนของเย่เซียวหลัวออกไม่ได้พูดอะไรต่อ
มือของเย่เซียวหลัวค่อยๆแยกออกจากแขนของเขา ตั้งแต่ที่เธอแต่งงานเข้ามานั้น เวินอ๋องไม่เคยจะตั้งใจดูเธอสักครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสกาย ขนาดนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน แต่ก็รู้สึกเหมือนห่างกันเหลือเกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก