ตอนที่ 231 ใช้อำนาจในการข่มเหงคนอื่น
"องค์หญิงเหอซื่ออยู่ในวังไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงได้มาบุกตำหนักข้าได้? หรือว่านางตั้งใจบุกมาที่นี่?" โม่ฉีหมิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ใบหน้าของเขากำลังครุ่นคิดบางอย่าง สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าเรื่องอันใดที่เกี่ยวข้องกับโล่หวินหลานนั้น มิอาจปล่อยไปได้
"ข้าน้อยจะไปสืบขอรับ" ฉินหยิ่นเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เขาไม่พูดอะไรก็รีบออกไปทันที
แต่ว่า เขายังไม่ทันก้าวเท้าออกจากห้องหนังสือ ก็ถูกโม่ฉีหมิงเรียก“ช้าก่อน เจ้าไปสืบประวัติขององค์หญิงเหอซื่อก่อน และสืบด้วยว่าระหว่างที่นางอยู่ที่แคว้นเซิ่งโจวและแคว้นโม่ฉีนั้น ได้พูดคุยกับใครบ้าง สืบมาให้ละเอียด"
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดโม่ฉีหมิงต้องให้เขาไปสืบประวัติขององค์หญิงเหอซื่อ แต่ฉินหยิ่นเองก็ไม่ได้ถาม แล้วรีบออกไปจากห้องหนังสือเพื่อไปทำตามคำสั่ง
คล้ายหัวใจที่ดับสูญของเขานั้นเริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นี่คือครั้งแรกในหนึ่งปีที่ผ่านมา ที่เขารู้สึกมีความหวัง
งานเลี้ยงฉลองในวังที่ติดต่อกันสองคืนนั้น ยามค่ำคืนมีหิมะตกลงมาไม่ขาดสาย ทั่วพื้นหล้าเต็มไปด้วยหมอกสีขาวปกคลุม มีเพียงตำหนักต่างๆในวังเท่านั้น ที่มีทิวทัศน์ที่งดงามและต้นบ๊วยที่ถูกปลูกเอาไว้
"องค์หญิงเพคะ ค่ำคืนนี้เป็นงานเลี้ยงเฉพาะเชื้อพระวงค์ แต่ว่าฮ่องเต้และองค์ชายและสนมไปหมด จึงให้บ่าวมากราบเรียนให้องค์หญิงเสด็จไปร่วมงานให้ได้เพคะ" นางกำนัลของตำหนักองค์รัชทายาทเอ๋ยขึ้น
โล่หวินหลานที่กำลังรู้สึกเหงาอยู่นั้น กำลังคิดอยู่ว่าฮ่องเต้เจียเฉิงต้องจัดงานเลี้ยงในห้างเป็นแน่ ขณะที่นางกำลังคิดว่าควรรับมืออย่างไร นางกำนัลก็ได้มาส่งข่าวเป็นเรียบร้อย
"ข้ารู้แล้ว ข้าจะไป" โล่หวินหลานตอบโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง
นางกำนัลคนนั้นยังคงยืนยิ้มไม่ไปไหน นางยืนยิ้มอยู่ด้านหลังโล่หวินหลาน คล้ายยังมีบางอย่างที่นางต้องการ
"องค์หญิง ให้หม่อมฉันช่วยองค์หญิงเลือกชุดเถอะเพคะ!” นางกำนัลคนนี้คือคนเดียวกับที่ก่อนหน้าพยายามจะช่วยโล่หวินหลานทำผม เหตุใดนางจึงพยายามที่จะตีสนิทกันนะ
"ไม่ต้อง เจ้าออกไปรอข้าด้านนอกเถอะ" โล่หวินหลานพูดเสียงเรียบ
"องค์หญิงเพคะ คืนนี้เป็นงานเลี้ยงของราชตระกูล เป็นงานใหญ่ของวังหลวง ท่าน......ไม่สามารถที่จะทำทรงผมของแคว้นแคว้นเซิ่งโจวนะเพคะ มิเช่นนั้นจะถูกผู้อื่นว่าได้" นางกำนัลพูดติดอ่าง ถึงแม้ว่าการที่นางพูดเช่นนี้ อาจทำให้โล่หวินหลานเกลียดนางได้ แต่นางก็ยังคงพูด
โล่หวินหลานนั่งอยู่ด้านหน้ากระจกสีทอง แล้วมองดูใบหน้าที่งดงามที่สะท้อนผ่านกระจกนั้น ช่างคล้ายกับคนในภาพวาด คนในกระจกนั้นมีใบหน้าที่งดงามราวกับเทพเซียน
แต่ว่า น้ำเสียงยามที่นางพูดนั้น ช่างเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
"ใครกันที่กล้านินทาว่าร้ายในวังหลวง? แม้แต่เจ้ายังกล้าพูดเช่นนี้? อีกอย่าง ข้าอยากจะทำผมเช่นไรมันไม่เกี่ยวกับเจ้า ตอนนี้ไม่มีเรื่องของเจ้าแล้ว เจ้าออกไปเถอะ" ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของโล่หวินหลานมีความเย่อหยิ่งเล็กน้อย
นางกำนัลที่ได้ฟังเช่นนั้น ก็แทบจะร้องไห้
นางรู้ดีตั้งแต่แรกแล้วว่าองค์หญิงเหอซื่อคนนี้ ไม่ใช่คนที่สามารถเสียมารยาทด้วยได้ แค่มองดูก็รู้แล้วว่านางร้ายยิ่งกว่าสุนัขจิ้งจอก แต่ไม่คิดเลยว่า เพียงไม่กี่คำพูด จะทำให้นางโมโหได้เช่นนี้
"แต่ว่า......" นางกำนัลคนนั้นยังคงไม่ยอมออกไป นางทำได้เพียงกัดที่ริมฝีปากของตนเอง เพราะนางต้องทำตามคำสั่งของใครอีกคนให้สำเร็จ มิเช่นนั้น คืนนี้นางคงไม่ได้กินข้าวเป็นแน่แท้
โล่หวินหลานเองเมื่อเห็นว่านางกำนัลนั้นยังคงวุ่นวาย จึงพูดเสียงเหี้ยมเล็กน้อย “แต่ว่าอะไรกัน? ข้าบอกให้เจ้าออกไปไม่ใช่รึ? หรือว่าเจ้าอยากโดนหวาย?"
หางตาของนางเห็นนางกำนัลคนนั้นยืนเกร็ง จากนั้นก็ค่อยออกไป
โล่หวินหลานร้องเรียกนางกำนัลอีกสองคนเข้ามาทำผมให้ นางสั่งให้พวกเขาทำทรงผมของแคว้นเซิ่งโจว ซึ่งเป็นทรงผมที่เรียบง่าย
เงาสะท้อนจากกระจกนั้นโล่หวินหลานแต่งหน้าอ่อนๆเท่านั้น ทำให้คนที่มองนั้นสบายตา แต่ใบหน้าของนางที่มองไปยังกระจกนั้นช่างเรียบเฉย จนนางกำนัลอีกคนเอ๋ยเรียกขึ้น “องค์หญิง เรียบร้อยแล้วเพคะ เชิญองค์หญิงเปลี่ยนชุดเพคะ" คำพูดของนางกำนัลนั้น ดึงสติโล่หวินหลานกลับมา
ในขณะนั้น ด้านนอกก็มีเสียงของนางกำนัลอีกคนดังขึ้น“องค์หญิงเพคะ เสร็จรึยังเพคะ?"
โล่หวินหลานรับสั่งให้นางกำนัลเปิดประตู นางกำนัลอีกคนได้พยุงนางเดินออกไป ด้านนอกมีนางกำนัลยืนเข้าแถวเรียงราย แล้วทำความเคารพ
ขณะที่นางเดินไปยังสวนดงหัวเยี้ยนนั้น นางก็หยุดยืนอยู่ตรงหน้าศาลาเล็กๆ นางเจอเข้ากับใครบางคน เขาคนนั้นก็คือจื๋อเอ่อ เมื่อจื๋อเอ่อถอดชุดนักรบออกแล้วทำให้ความน่าเกรงขามที่เหมือนอยู่ในสนามรบนั้นน้อยลง แต่แปลเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปงาม
แต่เมื่อใดก็ตามที่สบตากับเขาแล้วนั้น จะทำให้ถูกแววตาทั้งคู่ของเขาสะกดเอาไว้ หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เขาได้รับจากการสู้รบ
"องค์หญิง เชิญเพคะ" ผายมือเชิญให้นางเดินไปตามทาง
เขาที่ยืนอยู่บนสะพานนั้น ลมแรงของหิมะพัดผ่านตัวเขา ทำให้เขาดูน่าเกรงขามยิ่งนัก
"แม่ทัพจื๋อเอ่อ ท่านคงรอนานแล้ว เราไปกันเถอะ" โล่หวินหลานเดินไปตรงหน้าเขา จากนั้นจื๋อเอ่อก็เดินตามนางไป
ที่นี่อยู่ห่างจากสวนดอกไม้ไม่มากนัก แต่อยู่ห่างจากตำหนักที่จัดงานเลี้ยงมาก เขาและนางพร้อมกับนางกำนัล ค่อยๆเดินไปยังตำหนักที่จัดงานเลี้ยง
ได้ยินมาว่าค่ำคืนนี้มีเพียงเชื้อพระวงค์ถึงจะมีสิทธิที่จะมาเป็นแขกร่วมงานนี้ได้ และไม่มีใครขาดเลยด้วย แม้แต่หมิงอ๋องที่ประชวรอยู่นั้นก็ยังต้องมา
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงยังหน้าตำหนัก จากนั้นก็ได้ยินฮ่องเต้เรียกเข้าไป นางกำนัลยืนเข้าแถวจำนวนมากต่างไม่พูดไม่จารวมถึงองค์รักษ์ด้วย
"ช้าก่อน โปรดนำของที่พวกท่านเตรียมมานั้นออกมา" องค์รักษ์พูดด้วยน้ำเสียงแข็งแกร่ง ซึ่งชัดเจน พวกเขาต้องการตรวจค้นดูว่ามีการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาหรือไม่
โล่หวินหลานให้นางกำนัลนำของที่นางเตรียมไว้ออกมา ส่วนทางด้านจื๋อเอ่อนั้นไม่ได้เตรียมสิ่งใดมาเลย
แท้จริงแล้วนั้นโล่หวินหลานก็เตรียมเพียงของที่ต้องใช้ในงานเลี้ยงเท่านั้น และยาแก้เมาเล็กน้อย ซึ่งยานั้นนางพกติดตัว รวมถึงเข็มไม่กี่เล่มเพื่อป้องกันตัวก็เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก