ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 24

ตอนที่ 24 กับดัก

โล่วี่เสว่ผวาตกใจ จึงเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ภายในใจดั่งกลองที่ถูกตีเสียงดังตึกตัก นี่นางทำอะไรผิดอีกแล้ว ตอนแรกยังยิ้มแย้มแทบโอบนางเข้าไปในอ้อมกอด แต่นาทีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ท่านอ๋องท่านนี้……เอาใจยากไม่ใช่น้อย

เรื่องของโล่วี่เสว่กับโม่ฉีมู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของชายผู้หนึ่งทั้งหมด

โล่วี่เสว่เดินกลับเข้าห้องตัวเองอย่างไม่พอใจแล้วนางก็เริ่มอาละวาดขว้างปาข้าวของลงพื้น ใบหน้าอันงดงามเริ่มเปลี่ยนเป็นน่ากลัว เบื้องล่างสาวใช้ทั้งหลายต่างคุกเข่าตัวสั่นเครือใบหน้ามีแต่ความหวาดกลัว เศษกระจกที่ตกลงพื้นทำให้พวกนางต่างตกใจอกสั่นขวัญแขวน หากจะโทษ ก็ต้องโทษที่มีเจ้านายอย่างนี้

รอจนของในห้องถูกพังจนไม่มีชิ้นดีโล่วี่เสว่ถึงสงบลง นางกำมือจนแน่น เล็บจิกเข้ามือจนเป็นรอยเขียวช้ำก็ยังคงไม่คลายดังคนไม่รู้จักเจ็บ

นางยังจำได้ดีว่า ก่อนที่จะย้ายเข้ามาในจวนอ๋องใหม่ๆ นางโดนดูถูกเช่นไร!

เมื่อก่อนที่จะแต่งเข้ามาในจวนท่านอ๋องโล่หวินหลานได้บอกนางว่าหลินอ๋องได้กลายเป็นขันทีไปแล้ว ถึงคราที่ตระกูลโล่จะจบสิ้นแล้ว นางยังไม่ปักใจเชื่อ แต่วันที่ออกเรือนภายใต้แสงเทียน ในนั้น……

“เจ้าเป็นลูกคนรองของตระกูลโล่ใช่หรือไม่?” หลินอ๋องก็ได้เลิกผ้าที่คลุมหน้าเจ้าสาวขึ้น น้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตร นางชะงักไปเพียงครู่ จึงยิ้มน้อยพลางตอบ “เรียนท่านอ๋อง ข้าคือลูกสาวคนรองของตระกูลโล่ ชื่อโล่วี่เสว่เพคะ”

โม่ฉีมู่ยิ้มเย็น นั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม่ไกลนัก นัยน์ตาว่างเปล่า โล่วี่เสว่ขมวดคิ้ว นางเคยได้ยินว่าท่านอ๋องพวกนี้เอาใจยาก ฉะนั้นนางเตรียมใจมาแล้วบ้างว่าต้องพบเจอกับสถานการณ์อย่างนี้ ได้แต่นิ่งเงียบค่อยฟังโม่ฉีมู่พูดประโยคต่อไป

“โล่หวินหลานเป็นอะไรกับเจ้า?” โล่วี่เสว่ฟังจบก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ตอนนางได้ยินโม่ฉีมู่พูดถึงโล่หวินหลานน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เพียงรู้ว่านางถูกวางไว้ระดับเดียวกับคนต่ำต้อยอย่างนั้น

นางรู้สึกตะลึง ในหัวเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างมืดมัว เหตุใดหลินอ๋องไม่รู้จักนางแต่กลับรู้จักคนต่ำต้อยคนนั้น!

หลังจากที่โม่ฉีมู่ได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของนาง ในใจก็ว่างเปล่า หึ! ในลำคอ หญิงที่อยู่เบื้องหน้ามีแต่ความงาม เมื่อเปรียบกับโล่หวินหลานแล้ว เทียบไม่ติดกันเลยสักนิด

“โล่หวินเป็นน้องสาวของหม่อมฉันเพคะ” เมื่อระงับความโกรธของตัวเองลง โล่วี่เสว่ก็เห็นโม่ฉีมู่กำลังรอคำตอบจากนาง นางจึงตอบเสียงต่ำ

“หืม? น้องสาว? เจ้าคงไม่เหมือนกับนางใช่ไหม? หากเป็นเช่นนั้น ก็อย่าทำแกล้งโง่ต่อหน้าข้า” โม่ฉีมู่คิดว่าคนตระกูลโล่ทั้งหมดจะเป็นเหมือนโล่หวินหลาน ใจดำ ร้ายกาจ คิดไม่ถึง หญิงตรงหน้า ช่างโง่เง่าเบาปัญญานัก

“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้ว่าท่านพูดเรื่องอะไร” โล่วี่เสว่ลนลานขึ้นมาทันที นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโล่หวินหลานกับเขามีเรื่องบาดหมางใจอะไรกัน ไม่ได้ตั้งรับตั้งแต่แรก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้ชายตรงหน้าชมชอบได้ คืนเข้าหอต่างจากที่นางคิดไว้ …… ไม่เหมือนเลยสักนิด!

“อย่างงั้นรึ?” หลินอ๋องเดินไปหยุดข้างหน้าโล่วี่เสว่ มองนางจากด้านบน แล้วจับคางน้อยๆของนางบังคับให้นางจ้องตาเขา

โล่วี่เสว่ตกใจสะดุ้งจนตัวสั่น จ้องเข้านัยน์ตาของหลินอ๋องรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หดคอด้วยความหวาดกลัว ทันใดนั้นก็ถูกหลินอ๋องตบหน้าเข้าให้ฉาดใหญ่

“ข้าจะบอกให้รู้ไว้ หากโล่หวินหลานเป็นน้องสาวของเจ้า นางทำอะไรกับข้าไว้ ข้าจะแก้แค้นตระกูลโล่ให้ถึงที่สุด แล้วเจ้า ก็อย่าหวังจะได้รับความรักจากข้าแม้แต่นิดเดียว สำหรับข้าแล้ว เจ้ายังไม่สามารถเทียบกับหญิงในโคมเขียวได้เลยสักนิด”

ทันทีที่โม่ฉีมู่พูดจบใบหน้าของโล่วี่เสว่ก็ซีดลง โล่หวินหลานทำอะไรให้หลินอ๋องบาดหมางกันแน่ ถึงมีใจแค้นเคืองตระกูลโล่เพียงนี้ ไม่ได้การ ข้าต้องถามให้กระจ่าง!

“ท่านอ๋อง ได้โปรดบอกข้าเถิด โล่หวินหลานหญิงต่ำช้าผู้นั้นทำอะไรให้ท่านอย่างนั้นหรือ?” โล่วี่เสว่รับคว้าจับชายเสื้อของหลินอ๋องทันที น้ำเสียงดูลนลาน นางต้องรู้ ต้องรู้ให้ได้

โม่ฉีมู่เห็นท่าทางของนางแล้วยิ่งโมโห เหตุใดหญิงผู้ที่ถึงโง่เขลานัก ต่างจากโล่หวินหลานลิบลับ เข้าสูดอากาศหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เพียงครู่เดียวโม่ฉีมู่ก็สะบัดมือที่จับชายเสื้อเขาไว้อย่างแรง

วันที่สอง ข่าวที่โล่วี่เสว่ถูกโม่ฉีมู่ดูถูกหยามเกียรติก็แผ่สะพัดไปทั้งจวนหลินอ๋อง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังลอดเข้ามาในห้องเป็นระยะ เสียงพวกนี้ก็ทำให้นางเริ่มอาละวาดขว้างปาสิ่งของในห้องอีกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่สินสอดทองหมั้น

ตอนที่โม่ฉีมู่เข้ามาในห้องนางก็ต้องพบกับร่องรอยความเสียหายจากน้ำมือนาง สิ่งของส่วนมากก็ล้วนแต่ไม่ใช่ราคาถูกๆ นางทำลายพังจนย่อยยับ

ทันใดนั้นโม่ฉีมู่ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่พื้น มันทำให้เขารู้เจ็บปวดใจ

“ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรเพคะ พวกเจ้าอยากตายใช่ไหม ท่านอ๋องมาทำไมไม่บอกข้าสักคำ” โล่วี่เสว่เบิกตาโพลงกล่าวโทษนางในที่กำลังก้มหน้าคุกเข่าอยู่ที่พื้น แล้วรีบวิ่งไปออเซาะควงแขนท่านอ๋องทันที

“โชคดีท่านอ๋องมาทันเวลา ไม่งั้นข้ามีหวังพังข้าวของในห้องจนหมดแน่ๆ” นางนึกว่าเป็นเพราะเมื่อวานนางเอ่ยถึงชื่อโล่หวินหลานเลยทำให้เขาไม่พอใจ วันนี้น่าจะหายโกรธแล้ว คิดถึงตอนนี้นางก็ยิ่งกระชับแขนที่ควงเขาไว้จนแน่น

ใครจะไปคิดว่าโม่ฉีมู่จะสะบัดแขนออกด้วยความรังเกียจ แล้วก้มลงเก็บกริชที่ตกอยู่ที่พื้น น้ำเสียงมืดมน “กริชเล่มนี้ ใครเป็นคนให้เจ้า”

โล่วี่เสว่รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต ความรู้สึกนี้มาอีกแล้ว

“คือ……โล่หวินหลานเป็นคนให้ข้ามาเพคะ” โล่วี่เสว่กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางกำลังกลัว กลัวว่าหากเอ่ยถึงโล่หวินหลานจะทำให้เขาโกรธขึ้นมาอีก

โม่ฉีมู่โกรธขึ้นมาจับใจ ยิ้มเย็น “ดี ดีมาก โล่วี่เสว่ โล่หวินหลาน พวกเจ้าทำดีมาก ข้าจะให้เจ้ารู้ ข้าจะไม่ยอมปล่อยตระกูลโล่ไปง่ายๆ”

ทิ้งท้ายไว้เท่านี้ โม่ฉีมู่ก็เดินจากไปอีกครั้ง ยังนำกริชเล่มนั้นติดมือไปด้วย

หลังจากนั้นมา โล่วี่เสว่ทำอะไรก็ไม่เข้าหูเข้าตาโม่ฉีมู่ มีเพียงแค่วันที่เขาอารมณ์ดีจะคุยกับนางสักประโยคสองประโยค หากเป็นวันที่อารมณ์ไม่ดีแล้วล่ะก็……”

พอหวนคิดถึงเรื่องราวทั้งหมดเสร็จโล่วี่เสว่ก็หลับตาลงค่อยๆสงบจิตสงบใจ นางจะทำให้หลินอ๋องหลงนางอย่างถอนตัวไม่ขึ้นให้ได้ และนางก็จะไม่ปล่อยโล่หวินหลานสงบสุขเป็นแน่ คอยดูเถอะ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก