ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 315

ตอนที่315 เซ็นชื่อวาดทับ

หลังจากนั้นสามวัน คนสอบสวนก็ได้ถามหลินซงจนได้คำตอบ อยู่ในที่เเบบนั้นหลายวัน ถ้าไม่ตาย ก็คงเกือบตายไม่รอด

หลิงซงก็ยังถือว่าเป็นลูกผู้ชายคนนึง อะไรก็ไม่ได้พูด สุดท้ายผู้สอบสวนบอกกับเขาว่าสมุดที่จดบันทึกไว้อยู่ในตำหนักของเขาถูกค้นพบเเล้ว ตอนนี้ฮองเฮาเย่ก็ถูกจับในราชวังต้องห้าม เขาถึงยอมเปิดปากพูด

เเต่ว่า ตอนที่เช็นชื่อ เขารับผิดเองทั้งหมด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮองเฮาเย่เลยสักนิด

ฮ่องเต้เจียเฉิงดูคำสอบสวนที่ผู้สอบสวนส่งมา ดูถึงตอนสุดท้าย สีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งดูไม่ได้ ฟาดคำสอบสวนลงบนโต๊ะอย่างรุนเเรง จับที่หน้าอกไม่รู้จะพูดอะไรบ้าง

“เขา เขาเป็นเเค่ขันที สามารถพูดอยู่ข้างหูฮองเฮาได้มากขนาดนี้ ช่วยนางทำเรื่องทั้งหมดนี้คนเดียว? เจ้าว่า เจ้าว่านี่เป็นไปได้ไหม?” ฮ่องเต้เจียเฉิงถามขุนนางที่อยู่ด้านล่าง

คนคนนั้นก้มหน้า “ฮ่องเต้ ข้าน้อยคิดว่า คนๆนี้ใจโหดเหี้ยมอำมหิต อยู่ในวังยี่สิบกว่าปีเเต่ก็ไม่มีคนรู้ตัวตนที่เเท้จริง เช่นนี้เเล้ว เขาก็ดูมีความสามารถที่จะทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้”

“ดีจริงๆ คนเเบบนี้เข้ามาในวัง กลับไม่มีการเตรียมอะไรเลย ตายไปก็ไม่รู้สึกสงสาร” ฮ่องเต้เจียเฉิงนั่งลงที่เก้าอี้มังกรอย่างเเรง

มีเรื่องเกิดขึ้นในวังเยอะขนาดนี้ มีคนตายไปเยอะขนาดนี้ ก็ต่างเป็นเพราะฝีมือของคนคนเดียว ความคิดลี้ลับ

คนอย่างนี้เเค่ให้ชีวิตเพิ่มวันเดียว ก็รู้สึกกังวลใจไม่สงบอยู่ตลอด

“เป็นเช่นนี้จริง เเต่ไม่รู้ว่าคนนี้ยังมีพรรคพวกในวังมั้ย ถ้ามี ก็ควรหาออกมา” ขุนนางคนนี้ก็ทำมือดึงออกมา พูดเสียงต่อ

ฮ่องเต้เจียเฉิงเบิกตาโต “พรรคพวก? ยังมีพรรคพวก? ต้องหาออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเเลกกับอะไร”

“ข้าน้อยเเค่คิดเช่นนี้ นักโทษยังไม่ยอมรับว่ามีพรรคพวกคนสมรู้ร่วมคิด ข้าน้อยไม่รู้ว่าควรสืบต่อไปอีกหรือไม่” คนๆนั้นก็พูดอีก

ฮ่องเต้เจียเฉิงพยักหน้า คิดสักพัก ก็พูด “ไล่สาวใช้เเละขันทีที่เคยอยู่กับฮองเฮาเย่ออกจากวัง เเละสาวใช้ขันทีที่เคยมีความสัมพันธ์กับนักโทษไปปล่อยไกลเเดน นักโทษ ประหารพรุ่งนี้”

คนคนนั้นพยักหน้า ตอบ คนที่ทำความผิดคือฮองเฮาเย่ เเต่เเต่กลับถูกขังในราชวังต้องห้าม เเละชีวิตของคนที่ไม่เกี่ยวพวกนั้น ก็ไม่มีคนมารับผิดชอบพวกเขาหรอ?

เรื่องนี้ก็จบไปสักพัก หิมะก็เหมือนจะไม่หยุดตก สิ่งที่เขาสามารถทำได้ ก็คืออวยพรให้อยู่ในหิมะที่ยาวนานนี้

พอออกจากที่ที่ห้องพระราชสำนัก ผ่านตรงมุมของทางกำเเพง ใต้เท้าเว่ยกำลังจะเดินถึงปลายทาง คนคนนั้นก็รออยู่ทางข้างหน้า

“ท่านอ๋อง ทำเรื่องเสร็จเเล้ว ฮ่องเต้ทำอย่างที่ท่านคิดไว้ ใต้เท้าเว่ยพูด

ตั้งใจรอโม่ฉีหมิงที่นี่ ไม่ผิดหวังจริงๆ

“ข้ารู้เเล้ว ใต้เท้าเว่ย เรื่องนี้รบกวนท่านมาก” โม่ฉีหมิงหันไปยิ้มมุมปากให้เขา เเต่สีหน้ายังเย็นชาไร้ความรู้สึก

“ท่านอ๋องพูดอะไรเนี่ย สามารถช่วยงานท่านอ๋องได้ คือการมีเกียรติสำหรับข้าน้อยมาก อีกอย่าง ฮองเฮาทำเรื่องไม่ดีไว้เยอะ พวกนี้ก็คือกรรมของนาง”

สีหน้าของใต้เท้าเว่ยเต็มไปด้วยความเกลียด คิดไม่ถึงว่าขุนนางขั้นหกที่เป็นคนฉลาดตลอด จะมีเวลาที่โง่เขลาเเบบนี้ด้วย ไม่น่าให้อภัยยิ่งนัก

โม่ฉีหมิงได้ฟังเขาพูด ก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใต้เท้าเว่ยเป็นขุนนางมานานขนาดนี้ ไม่เข้าร่วมการเเย่งชิงตำเเหน่งต่างๆ ใจก็สะอาดบริสุทธิ์ รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่กลัวอำนาจ ไม่กลัวเเผนการ เป็นคนยุติธรรม ก็ไม่เเปลกที่เสด็จพ่อเลยเชื่อใจท่านขนาดนี้”

ใต้เท้าเว่ยถูกชมในใจก็ดีใจมาก เเต่ก็ไม่ได้เป็นเพราะเช่นนี้จนไม่มีสติ

เรื่องนี้เป็นเพราะฮ่องเต้เจียเฉินเชื่อใจเขา ถึงทำให้เขาเป็นคนสอบสวนคดีของหลินซง เเต่รู้ถึงจุดอ่อนของหลินซง ให้เขายอมเซ็นชื่อยอมรับความผิด เป็นเพราะโม่ฉีหมิงจริงๆ

“ท่านอ๋อง เรื่องในครั้งนี้เป็นเพราะท่านส่งข่าวมาบอกเรื่องของเนื้อหาสมุดเล่มนั้น ข้าน้อยก็คงหาวิธีจบคดีนี้ได้เร็วขนาดนี้ ได้ความไว้ใจจากฮ่องเต้ จริงๆเเล้วความดีความชอบเรื่องนี้ก็คือท่าน” ใต้เท้าเว่ยบอก

ใต้เท้าเว่ยไม่ใช่คนเเค่คนที่รู้ผิดชอบชั่วดี ยังเป็นคนที่รอบคอบ เป็นคนที่ฉลากรอบรู้

ถ้าใครที่สามารถหาเขามาร่วมทีมด้วย ก็คงจะได้ผู้ช่วยที่ดีคนนึงเลย

โม่ฉีหมิงมองดูก้อนเมฆบนท้องฟ้าเเล้วถอนหายใจ “ไม่ว่าใครบนโลกใบนี้ ในใจก็มีด้านที่ดีเเละไม่ดี มีบางคนใจดำมีความคิดที่ไม่ดี มีบางคนที่มีใจเพื่อคนทั้งโลก เเละข้า ก็เเค่หวังว่าโลกนี้จะสงบ ประชาชนมีความสุขสงบ นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่ประเทศควรมี”

ถอนหายใจ สุดท้ายมองที่ใต้เท้าเว่ย “ข้าว่าในใจของใต้เท้าก็คงมีความคิดเเบบนี้”

เหมือนใต้เท้าเว่ยจะนิ่งไปสักพัก คิดไม่ถึงว่าโม่ฉีหมิงจะมีใจคิดถึงปวงประชาชนขนาดนี้ เขาประสานมือเเล้วถอนหายใจ “ในใจของท่านอ๋องคิดถึงประชาชนขนาดนี้ ข้าก็รู้สึกผิด”

โม่ฉีหมิงกลับส่ายหัว “ ใต้เท้าท่านทำได้ดีเเล้ว ท่านเป็นขุนนางที่ดี ถ้าวันอื่น ได้รับความเชื่อจากเสด็จพ่อมากขึ้น ก็คงจะเป็นขุนนางท่านนึงที่ทำเพื่อความสงบสุขของประชาชน”

ขุนนางที่ดี ใต้เท้าเว่ยไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ไม่ได้ยินคำนี้

เขาเริ่มเป็นตั้งเเต่ขั้นเเรกถึงขั้นที่เจ็ด สู้มาจากบ้านเกิดจนถึงในเมือง ได้เห็นได้รู้เยอะ เข้าใจความรู้สึกของประชาชน รู้ว่าประชาชนกำลังอยู่ในไฟร้อนเเละน้ำลึก เพราะฉะนั้นเขาเลยสาบานว่าจะเป็นขุนนางที่ดีของประชาชน

เเต่ว่าพอเข้ามาเป็นขุนนาง เขาถึงรู้ว่า หลายๆเรื่องก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด

ในพระราชสำนักมีเรื่องไม่ดีเยอะ ขุนนางต่างๆก็เหมือนกับหญ้าที่ปลิวไปตามลม ไม่รู้ทิศทาง ก็ตีสนิทกับองค์รัชทายาทเเละองค์ชายต่างๆ เเบ่งพรรคเเบ่งพวก เรื่องในพระราชสำนักก็ทำให้เขาเจ็บปวดใจ

คิดไม่ถึงว่าวันนี้ จะมีท่านอ๋องที่สามารถคุยได้ เขาก็เลยรู้สึกดีกับโม่ฉีหมิง

“ท่านอ๋อง ข้าน้อยเป็นเเค่จงขุนนางเล็กๆคนนึง วันนี้ได้รับความรู้จากท่าน ข้าน้อยรู้สึกเป็นเกียรติมาก ต่อไปถ้าท่านมีเรื่องอะไรที่ข้าสามารถทำได้ ก็บอกได้เลย ให้บุกน้ำลุยไฟ ข้าน้อยก็เต็มใจ” ใต้เท้าเว่ยก้มทำความเคารพเเล้วพูด

โม่ฉีหมิงใช้ทั้งสองมือพยุงเขาขึ้น ผงกหัว

ตั้งเเต่โม่ฉีหมิงได้เว่ยสีมาเป็นพรรคพวก โม่ฉีหมิงก็วางใจลงบ้าง

วันนี้อุตส่าห์ได้เข้ามาในวัง ในใจเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของโล่หวินหลาน

คราวที่เเล้วที่ให้สมิงโม่มาตรวจนาง ก็เเค่บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เขาก็ยังไม่วางใจ เดินๆไป ก็เดินมาถึงมาถึงประตูดงหัวเยี้ยน

ที่นี่ก็ยังเงียบเหมือนเดิม โม่ฉีหมิงค่อยๆเดินเข้าไปในห้อง

ไซ่เย่วกำลังออกมานอกห้อง เห็นเขาก็รู้สึกตกใจ กำลังจะก้มหน้าทำความเคารพ เเต่กลับโดนเขาสั่งหยุดไว้ ทำมือ “ชู่” “นางล่ะ?” โม่ฉีหมิงถาม

ไซ่เย่วตอบเสียงต่ำ “ ตอบหมิงอ๋อง องค์หญิงนอนเเล้ว”

นอนเเล้ว? อย่างนั้นก็คงจะมาไม่พอดีเลย เเต่ว่าเเบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเจอหน้าเเล้วทำให้นางไม่สบายใจ

พูดตามนิสัยนางเเล้ว เรื่องคราวที่เเล้วคงยังจำไว้ในใจเเน่

“เจ้าออกไปเถอะ ข้าเข้าไปดู” โม่ฉีหมิงโบกมือ เดินเข้าไป

เขาเดินเสียงเบาลง ชุดสีฟ้าทั้งตัวทำให้เห็นร่างกายของเขาที่ยิ่งเเข็งเเรง บนหน้าไม่มีรอยยิ้มใดๆ

มีเเค่ตอนที่เห็นโล่หวินหลานเท่านั้น ถึงจะดูลึกซึ้งขนาดนั้น

นางนอนอยู่บนเตียงนิ่ง ลมหายใจปกติ เเต่เวลานอนคิ้วชนกัน ไม่รู้ว่าห่วงเรื่องอะไร

โม่ฉีหมิงยื่นมือไปเขี่ยคิ้วนาง นางรู้สึกไม่สบายอยากจะหันตัว เขารีบหยุดตัวเองไม่กล้าขยับ

เขาเป็นถึงหมิงอ๋อง ทำเพื่อผู้หญิงคนนึง ให้ตัวเองดูตกต่ำขนาดนี้ เเต่ความตกต่ำนี้ เขาน้อมรับด้วยดี

มือทั้งสองของเขาค่อยๆจับหน้านางไว้ สีหน้าดูไม่ดี

จริงๆเเล้ว ในเวลาหนึ่งปีนี้นางไปไหน? ทำไมหน้าทั้งใบถึงเปลี่ยนไปหมด? นางโดนทำร้ายอะไรบ้าง? เคยสิ้นหวังมาก่อนใช่ไหม?

เสียดายในเวลาที่นางเศร้า เขากลับไม่เคยอยู่ข้างๆนางเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองจำผิดคน คิดว่าสาวใช้ของนางเป็นนาง เช่นนั้นตอนนี้ทั้งสองก็คงเเต่งงานกันเเล้ว

โม่ฉีหมิงยิ่งคิด ในใจก็ยิ่งเจ็บ กำมือทั้งสองข้างเเน่น อยากจะชกตัวเองเเรงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก