ตอนที่ 396 ป้ายบูชาวิญญาณร่วงหล่นลงบนพื้น
ประตูถูกเปิดออกโดยเร็ว ต้วนกุ้ยเฟยรีบวิ่งพุ่งไปตรงประตู และวิ่งชนโดนคนๆหนึ่ง คนๆนั้นถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วจ้องนางอย่างไม่พอใจ
“กุ้ยเฟย เจ้าทำอะไรของเจ้า?” ฮ่องเต้เจียเฉิงกวาดสายตาไปยังเสื้อผ้าของนาง
เมื่อครู่ข้าอยู่ที่ห้องทรงพระอักษรกำลังอ่านตำราหนังสือ บ่าวที่อยู่ข้างนอกจึงมาทูล กลางค่ำกลางคืนแล้วต้วนกุ้ยเฟยไม่หลับไม่นอน และร้องทุกข์อย่างทรมาน ไร้สติ นี่ทำเกิดเรื่องใด
เขากำลังอ่านตำราหนังสือจนเพลิน กลับต้องมาดูนาง ใครจะคาดถึงว่ามันเป็นเรื่องตลกๆที่นางตั้งใจทำขึ้น
บรรดาผู้หญิงของเขาที่อยู่ในวังในเดี๋ยวก็ป่วยเป็นโรคนี้ เดี๋ยวป่วยเป็นโรคนั้น ทำไมเขาต้องวุ่นเข้ามามาเห็นเรื่องไร้สาระที่เกิดขึ้น เขายังไม่ได้พูดอะไรใดๆ
ทำไมวันนี้กลับเป็นต้วนกุ้ยเฟนที่ดูไร้สติเยี่ยงนี้? กำลังจะเล่นเกมส์อะไรกันอยู่?
“ฮ่องเต้เจ้าค่ะ…… ฮ่องเต้ต้องช่วยข้านะเจ้าคะ!ข้าไม่ได้เป็นคนฆ่านางจริงๆ นางกลับมาตามข้าถึงที่ และกำลังจะเอาชีวิตข้า ฮ่องเต้ช่วยบอกนาง อย่าให้นางมาหาข้าอีก!”
ต้วนกุ้ยเฟยจับชุดของฮ่องเต้เจียเฉิงไว้แน่นๆ ชุดของเขาได้เดินผ่านหิมะมาจึงทำให้ชุดเปียกและหนาวเย็น มือของเขาก็เย็นจนชาและกลายเป็นสีแดง
ฮ่องเต้เจียเฉิงใช้หางตามองนาง และพูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งเครียด “ใครจะมาขอชีวิตกับเจ้า?”
“น้องเฉินเฟยเองเจ้าคะ!ฮ่องเต้ไม่รู้หรือเจ้าคะ? นางไม่ได้ไปหาท่านหรือเจ้าคะ?” ต้วนกุ้ยเฟยทำตาโต และถามขึ้นใสๆ
ทันใดนั้น สีหน้าของฮ่องเต้เจียเฉิงได้เปลี่ยนไป จ้าวกงกงที่อยู่ข้างหลังเขารู้เรื่องทุกอย่าง และรู้เรื่องของเฉินเฟยว่ามันเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของเขาก็ดูแย่มากด้วยเข่นกัน
เรื่องนี้มันผ่านไปนานเยี่ยงนั้นแล้ว กว่าที่ฮ่องเต้เจียเฉิงจะลืมความเจ็บปวดนั้นได้ก็ยากมากพอ วันนี้ต้วนกุ้ยเฟยกลับพูดถึงมันอีก ทำให้รู้สึกโศกเศร้าจริงๆ
ฮ่องเต้เจียเฉิงรู้ทันที และรีบผลักมือของนางออก สีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแย่ “มีเรื่องอะไร เจ้าบอกมาให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องก่อน พวกบ่าวเห็นเขาเดินเข้าไป เลยคุกเข่าลง หนึ่งในบ่าวที่อยู่ในห้องรู้สึกตกใจมากๆ ในอ้อมกอดของนางมีของหล่นออกมาตกอยู่บนพื้น
บ่าวผู้นั้นจึงรีบเอาแผ่นไม้นั้นมาซ่อนไว้ที่ตนเองอีกครั้ง แต่กลับล้มเหลว หรือเป็นเพราะว่าตื่นเต้นเกินไป มือทั้งสองข้างสั่นอย่างไม่หยุด
ฮ่องเต้เจียเฉิงสั่งจ้าวกงกง จ้าวกงกงจึงก้าวมาข้างหน้า ไปเก็บของนั้นขึ้นมา พอเห็นว่าเป็นอะไร จึงตกใจไปสักพัก
เขาทำหน้าขาวซี้ดยื่นของมาให้ฮ่องเต้เจีนเฉิง ก้มหัวลง “ฮ่องเต้ขอรับ……”
ฮ่องเต้กำลังจะรับมันไว้ ทันใดนั้นต้วนกุ้ยเฟยตะโกนขึ้นอย่างน่าตกใจ “นั่นคือน้องเฉินเฟย!ฮ่องเต้รีบวางลง!”
ทันใดนั้นทุกอย่างก็เงียบลง ฮ่องเต้ค่อยๆสัมผัสกับตัวอักษรที่แกะสลักไว้ เฉินเฟย นามที่อยู่แสนไกลยิ่งนัก
“ทหาร จับต้วนกุ้ยเฟยเอาไว้ และไตร่สวนนางให้ละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
พอทหารเหล่านั้นได้ยิน จึงรีบจับตัวต้วนกุ้ยเฟยไว้ และลากตัวไปอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง
“กุ้ยเฟย ข้าจะถามเจ้า ทำไมเจ้าถึงมีป้ายบูชาวิญญาณของต้วนกุ้ยเฟย?” ฮ่องเต้เจียเฉิงทำสายตาโกรธเคืองมากๆ
ต้วนกุ้ยเฟยชี้ไปยังแผ่นไม้นั้น แล้วพูดขึ้นอย่างหวาดกลัว “ฮ่องเต้เจ้าค่ะ ท่านรีบเอามันไปทิ้ง น้องเฉินเฟยจะมาหาข้า ของชิ้นนี้มันไม่ใช่ของดี สามารถทำร้ายคนได้!”
“พูดอะไรเรื่อยเปื่อย!”ฮ่องเต้เจียเฉิงพูดขึ้นอย่างโมโห “เจ้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเยี่ยงนี้? จะให้ข้าเรียกหมอหลวงมารักษาเจ้าหรือไม่?”
ต้วนกุ้ยเฟยที่ไร้สติตอนนี้แค่รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ตัวนางสั่นไม่หยุด ฟังไม่รู้เรื่องเลยว่าฮ่องเต้เจียเฉิงกำลังพูดอะไรอยู่
“ไม่เอาไม่เอาเจ้าค่ะ ข้าไม่เอาอะไรทั้งนั้น เจ้าไม่ต้องมาหาข้าอีก บอกเจ้าแล้วไงว่าให้ไปหาฮองเฮา นางเป็นคนเผาเจ้าให้ตายเอง…….ออกไป!”
ต้วนกุ้ยเฟยจับเสื้อของบ่าวไว้ และผลักนางออกอย่างรุนแรง ปากของนางบ่นอะไรไม่หยุด เหมือนคนที่บ้าไปแล้ว
พอเห็นนางเป็นสภาพเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้เจียเฉิงรู้สึกหนาวและชาไปทั้งตัว ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“พวกเจ้า ไปหาหมอหลวงมา ต้องรักษาต้วนกุ้ยเฟยให้หายให้ได้” ฮ่องเต้นเจียเฉิงมองต้วนกุ้ยเฟยด้วยความเกลียดชัง เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่
คืนนี้ไม่รู้ว่ามันจะผ่านไปได้เยี่ยงไร ในวังนอกจากตำหนักกุ้ยเฟยไม่สงบสุขแล้ว ตำหนักอื่นก็เช่นกัน
พอทุกๆตำหนักได้ข่าวของต้วนกุ้ยเฟยแล้ว ข่าวกระพือลือกันไปลือกันไป เล่าเป็นปากต่อปาก ทันใดนั้นเรื่องนี้ก็ถูกลือกันไปทั่ว
ที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครจะขัดขวางเรื่องนี้ให้หยุดแผร่กระจายออกไปเลย พอเย่ฮองเฮาได้ ก็แค่หลับตาแล้วส่ายหัวไปมา
“ข้าไม่มีกำลังจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้”
แค่พูดคำนี้ออกมา ก็ไม่มีคำพูดอื่นใดอีก
เรื่องนี้ลือไปถึงนอกวัง พอโม่ฉีหมิงได้ยินจึงคุมเสื้อคลุมเข้าวังอย่างรีรอไม่ได้
โล่หวินหลานก็สวมเสื้อคลุม ตามเขาอยู่ข้างหลังอย่างติดๆ
“เจ้าจะมาทำไม? กลับไป” โม่ฉีหมิงเห็นโล่หวินหลานเดินตามมาตลอดทาง จึงรีบหันหน้าไปหยุดกระทำของนาง
“ตอนนี้ต้วนกุ้ยเฟยเกิดเรื่องแล้ว เป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าวัง ถ้าสามารถฉวยโอกาสตอนที่นางไม่ได้สติให้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกมา มันไม่ดีหรือ?” โล่หวินหลานพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
ทางฉินหยิ่นก็ได้จูงมาเดินมา เรื่องมันมากะทันหัน ไม่ทันได้เตรียมรถม้า ขี่ม้าเข้าวังก็น่าจะเร็วกว่า
“เจ้ากลับไป ข้ารู้ว่าต้องทำเยี่ยงไร” โม่ฉีหมิงรีบปีนขึ้นม้า แล้วทำคิ้วขมวด
“ไม่กลับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าก็จะเข้าวัง” โล่หวินหลานยืนหยัดในความคิดนี้ ถ้านางกลับเข้าไปตอนนี้ กลัวแค่ว่าเรื่องนี้จะไม่สำเร็จ
ฉินหยิ่นที่อยู่ข้างๆกำลังจะเตรียมตัวขึ้นบนม้า โล่หวินหลานได้จับชุดของเขาไว้โดยด่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก