ตอนที่ 395 สติวิปลาสตอนกลางค่ำกลางคืน
ณ ทิศใต้ของตำหนักท่านอ๋อง หลังจากไซ่เย่ว่่ได้รับบาดเจ็บก็ได้พักฟื้นตนเองอยู่แต่ในห้อง โล่หวินหลานเคยบอกเขาว่าจะไปเยี่ยมไซ่เย่ว่ วันนี้นางน่าจะไปห้องทิศใต้ของตำหนัก
ทั้งสองเดินผ่านลำธารและภูเขาจำลอง และเหยียบลงบนพื้นหิมะที่เหน็บหนาว ผ่านไปสักพักก็ได้ไปถึงที่หมาย
เหล่าบรรดาบ่าวได้ออกมาจากสวน และได้เอายาเข้าไปอย่างเร่งเร็วและว่องไว
โม่ฉีหมิงผลักประตูเข้าไปก่อน แสงที่อยู่นอกหน้าต่างค่อยๆสอดส่องเข้าไปในห้องนี้ เขาอยู่ตรงข้างนอกห้องโถงหลัก แต่กลับเห็นโล่หวินหลานกำลังเขียนอะไรอยู่ไม่รู้
นางเห็นตนเองแล้วเหมือนจะตกใจ แต่ว่าหน้าที่ดูตกใจได้เปลี่ยนไปเป็นหน้าที่เจ้าเล่ห์ นางตาหยีและเหมือนกำลังจะวางแผนทำอะไรบางอย่าง และสุดท้ายก็กลายเป็นสีหน้าที่ยิ้มแย้มรับแขก
แค่เขาเห็นนัยน์ตาของนาง ก็รู้แล้วว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ทุกอย่างของนางไม่มีทางปิดบังเขาไว้อยู่
“เจ้ามาแล้วหรือ ข้าได้เขียนจ่ายยาให้กับไซ่เย่ว่ เพื่อแผลนางจะหายไวขึ้น” โล่หวินหลานยิ้มให้เขา
นานๆทีที่นางจะยิ้มแบบนี้ให้เขา ทำให้รู้สึกแยงตามากๆ แม้กระทั่งเขาไม่อยากให้คนอื่นให้เห็นรอยยิ้มนี้ของนางเลย
สีหน้าของเขาดูแย่หน่อยๆ และตัวเขาก็รีบเดินไปอยู่ต่อหน้านางอย่างควบคุมไม่อยู่
“ไม่พักอยู่ในห้องดีๆ จะเขียนจ่ายยาก็เขียนในห้องแล้วค่อยให้คนส่งมาก็ได้”เขาทำเสียงไม่พอใจและอยากด่านางเล่นๆ
“ยาของหมอสวินนี่เยี่ยมจริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานที่นางห่อยานี้ มือของนางก็ขยับและซนได้ดั่งกระต่าย มือทั้งห้านิ้วขยับได้อย่างมีชีวิตชีวา เจ้าดูสิ” โล่หวินหานยื่นมือไปให้เขาดู และพลิกไปพลิกมา
ดูมือที่นางถูกทำร้ายอย่างทรมาน เหมือนก้านแฝกที่ผ่านตาเขาไป เขาทนไม่ได้ที่จะเอามันมากุมไว้กลางอก
สวินโม่ที่อยู่ข้างๆรู้สึกสนใจในกระดาษจ่ายยาของนางมาก เลยรีบกระชากไปดู สายตาจดจ่ออยู่ข้างบน เขาค่อยๆทำหน้าทึ่งขึ้นมา
“เจ้า นี่เจ้าเขีนยจ่ายยาเองหรือ?” สวินโม่จับกระดาษที่อยู่บนมือไว้ และทำท่าทางตกใจ
พอโล่หวินหลานได้ยิน และรีบหันหลังไป เขาอ่านยาที่นางจ่าย จะสงสัยอะไรบ้างหรือไม่?
นางกำลังคิดอยู่ว่าจะตอบเยี่ยงไร ทางสวินโม่เองนั้นก็ได้พยักหน้าแล้วชมว่าดี “ยาที่จ่ายออกมานั้นเหมือนวิธีของคนที่เขารู้จัก เจ้ากับนางใช้ยาเหมือนกันมาก เป็นยาที่พวกข้าไม่กล้าใช้ กลัวว่าน่ายามันแรงเกินไปจะยิ่งทำให้แผลของผู้ป่วยอาการหนักมากขึ้น แต่ว่ายาที่จัดมาเยี่ยงนี้ได้ผลต่อผู้ป่วยเป็นมาก”
ตอนแรกที่เขาเห็นแผลของไซ่เย่ว่ ยังนึกไม่ถึงว่าจะใช้ยาพวกนี้ แต่ว่าตอนนี้พอดูนี่แล้ว รู้สึกมันช่างน่าทึ่งเป็นอย่างมาก
หมอเทวดาเยี่ยงนี้ วันนี้ยังเจอน้อย นอกจากโล่หวินหลาน เขาไม่เคยเห็นใครที่จะเอาชนะตนเองได้
ตอนนี้ กลับตกใจในความสามารถขององค์หญิงที่อยู่ต่อหน้าตน วิชาการแพทย์ของนางเหนือกว่าเขาจริงๆ
พอฟังเขาอธิบายอย่างมีเหตุผล โล่หวินหลานรู้ว่าวุ่นวายในใจมากๆ นึกไม่ถึงว่าเขาจะจดจำวิชาการแพทย์ของนางได้ละเอียดเยี่ยงนี้
นางหันไปมองสวินโม่ มุมปากของตนค่อยๆเผยยิ้มออกมา นัยน์ตากลับกำลังคิดอยู่ว่าจะตอบเขาเยี่ยงไร?
โม่ฉีหมิงได้แอบจับมือของนางไว้ และหันไปพูดกับสวินโม่ “เจ้ามาเพื่อที่จะห่อยาให้นางไม่ใช่หรือ? นั้นก็รีบๆสิ”
มองจากทั้งสองที่ไม่ได้ไขความสงสัยของตนเอง ในใจของสวินโม่คิดอยู่ว่าเขาคงไม่เข้าไปในเขตหวงห้ามของทั้งสอง เลยไม่ได้ถามต่อ
“ใช่แล้ว ควรทายาได้แล้ว” สวินโม่ยกยาที่อยู่บรมือแล้วพูดขึ้น
โล่หวินหลานเอากระดาษที่อยู่บนมือยื่นไปให้บ่าวที่ดูแลไซ่เย่ว่ ให้พวกนางไปหาจัดยาเองกับมือ ตนเองก็หันไปให้สวินโม่ทายาให้
ออกจากตำหนักใต้ และเดินไปถึงตำหนักหลัก จริงๆมือของโล่หวินหลานหายดีพอสมควรแล้ว ทีแรกมันก็ไม่ได้เป็นอาการที่ร้ายแรง แค่ตัวนางเองขยับมือดึงเส้นเอ็นสักหน่อย ก็จะหายเร็วมาก
“องค์หญิง มือของท่านหายเร็วมาก แค่ลงยาอีกสองครั้งก็คงหายขาดแล้ว”ตอนที่สวินโม่พูดคำๆนี้ออกมา สายตาของเขาจะสบตากับนางไว้ คงอยากเห็นความรู้สึกที่แท้จริงของนาง
แต่ว่าโล่หวินหลานไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ แค่พูดคำว่าขอบคุณ และไม่ได้ต่อด้วยอะไร
แค่ทายามันเป็นอะไรที่มันรวดเร็วมาก สวินโม่จึงออกจากที่นั่นแล้วไปห้องของไซ่เย่ว่ ช่วยนางดูอาการ
โม่ฉีหมิงนั่งอยู่ข้างๆนาง และได้จับนิ้วของนางไว้ นิ้วของนางนอกจากมีร่องรอยยาที่ทาไว้ ก็ไม่มีแผลอื่นใดอีกเลย
มือขาวๆนุ่มๆของนางถูกมือใหญ่ๆห่อหุ้มไว้ เหมือนดักแด้ตัวน้อยที่อ่อนแอถูกห่อหุ้มอยู่ ดูเหมือนจะได้รับการช่วยเหลือ และรู้สึกอบอุ่นมากๆ
“ครั้งนี้สวินโม่ช่วยข้ารักษานิ้วมือ ข้าได้เอ่ยถึงหรูซูกับยี่ย่างอย่างไม่ตั้งใจ เหมือนเขากำลังสงสัยตัวตนที่แท้จริงของข้า เมื่อครู่ได้เห็นยาที่ข้าเขียนจ่าย เหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง” โล่หวินหลานมองการตอบสนองของสวินโม่ รู้สึกกังวลเล็กน้อย
โม่ฉีหมิงยังคงจดจ่ออยู่บนมือของนาง ไม่ได้ทำสีหน้าอะไรใดๆและอยู่อย่างเฉยๆ
“ดูออกก็ดูออกสิ ความช่างสังเกตของสวินโม่ดีกว่าผู้อื่นเยอะ สิ่งที่เขาสังเกตเห็น คนอื่นอาจจะไม่เห็นเลย” โม่ฉีหมิงพูดขึ้นเสียงเบา
“นั้นทำไมไม่บอกเขาตรงๆไปเลย ปล่อยให้เขาเดาไปทำไม?” โล่หวินหลานเงยหน้าขึ้น
“ข้ายังไม่ได้จะบอกพวกเขาตอนนี้” โม่ฉีหมิงกำลังเล่นนิ้วของนาง ในใจของเขาได้วางแผนไว้แล้ว
ยังไม่กะจะบอกพวกเขา? นั้นแปลว่าเขาจะบอกเรื่องนี้ออกมาทีหลัง?
โล่หวินหลานยิ้มแห้งไปสักพัก “ถ้าข้าบอกว่าข้าฟื้นขึ้นมาจากความตาย ไม่เพียงแต่ว่าไม่มีคนเชื่อ ยังจะมีคนหาว่าเจ้าบ้าไปแล้ว เจ้าจะบอกพวกเขาว่าเยี่ยงไร?”
โม่ฉีหมิงพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ “ข้าบอกว่าเจ้าใช่ เจ้าก็ต้องใช่ ไม่มีใครสงสัยหรอก”
ไม่ต้องไปอธิบายให้ใครฟังทั้งนั้น บอกพวกเขาก็แค่จะแบ่งปันความสุขของเขาให้พวกเขาได้รับรู้ จะให้อวยพรเขาเท่านั้น
เขาไม่เคยสนใจสายตาของผู้อื่น ในใจของเขามีเพียงโล่หวินหลานเท่านั้น เขาสนใจแค่ความรู้สึกของนางเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก