ตอนที่61เริ่มสงคราม
วินาทีที่เดินออกจากห้องลับแสงแดดจากข้างนอกกำลังจ้าสาดแสงส่องโต๊ะเก้าอี้ศิลาในสวนหย่อมสะท้อนแสงอ่อนๆเป็นชั้นๆ
ทุกคนต่างยืนรอกันอยู่ด้านนอกต่างจดจ้องจดจ่ออยู่กับโม่ฉีหมิงโดยเฉพาะเย่หวินกับฉินหยิ่น
“ท่านอ๋องหน้าของท่านดีขึ้นแล้วดีขึ้นแล้วจริงๆ!เยี่ยมไปเลย!”เย่หวินเปิดปากพูดเป็นคนแรกในประโยคเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตื้นตัน
ใบหน้าของฉินหยิ่นก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่นเช่นกันเสียงถามตะกุกตะกัก“ทะท่านท่านอ๋องหน้าของท่านกลับมาเหมือนเดิมแล้วหล่อเหล้เลยขอรับหวังเฟยเก่งกาจยอดเยี่ยมที่สุด”
แสงแดดจ้าข้างนอกส่องสะท้อนมาที่ใบหน้าของโม่ฉีหมิงผิวพรรณละเอียดลออไม่มีแม้แต่รูขุมขนไม่แปลกใจเลยที่ใบหน้าหน้าอันหล่อเหลาเกิดมาจากแม่ของเขาใบหน้าขาวสะอาดหมดจดนี้ทำให้หลายคนต่างพากันอิจฉา
ได้ยินเสียงชื่นชมจากพวกเขาสีหน้าของโม่ฉีหมิงยังคงเรียบเฉยสายตายังคงมองไปที่ทั้งสองคนเหมือนกับไม่ใส่คำชื่นชมจากพวกเขาเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
“ถ้าเสร็จแล้วก็รีบไปจัดการเรื่องของพวกเจ้าซะ”โม่ฉีหมิงกวาดสายตาเรียบเฉยไปที่ทั้งสองแล้วก็หมุนล้อรถเข็นจากไป
เหลือแค่เย่หวินที่ยืนอยู่กับที่มองดูหลังของโม่ฉีหมิงจากไปต่างคนต่างมองหน้ากันไม่พูด
“ข้าว่าแล้วว่าหวังเฟยเก่งกาจที่สุดใบหน้าที่โดนแผลไฟไหม้มานานหลายปียังสามารถรักษาให้หายได้หวังเฟยเป็นเทพธิดาเซียนอะไรกันแน่?”เยาหวินมองหลังของพวกเขาจากไปมีความตกตะลึงไปบ้าง
ฉินหยิ่นเดินมาหยุดยืนข้างนางเสียงมีความลากยานยาวมากับเสียงเอ่ยอย่างสงสัย“ช่างสิว่านางจะเป็นเทพธิดาหรือเซียนอะไรฟ้ากำหนดโชคชะตาให้นางมาอยู่เคียงคู่กับท่านอ๋องก็ต้องไม่จากไปไหนแน่นอน”
พวกเขาพึ่งรู้ว่าที่แท้โล่หวินหลานถึงเป็นความสุขใจของโม่ฉีหมิงนางทำให้ทั้งจวนตกตะลึงฝีมือการแพทย์ของนางไม่เคยมีใครทำมาก่อนได้ประจักษ์แก่สายตารักษาการป่วยที่ไม่มีแพทย์คนไหนสามารถรักษาให้หายได้
เย่หวินเหล่ตามองไปทางเขาใช้มือตีไปที่แขนของเขาน้ำเสียงตอบอย่างไม่สบอารมณ์“ข้าพูดเมื่อไหร่ว่าหวังเฟยจะจากไป?ถึงหวังจากจะจากไปพวกเราก็ไม่ให้นางไปไหนหรอก
ไม่ว่าจะเพื่อใครก็ตามก็ให้นางไปไหนไม่ได้
อากาศตอนยามบ่ายของฤดูใบไม้ร่วงมีความเย็นสบายโล่หวินหลานเข็นเก้าอี้ไปยืนอยู่ตรงสวนนานทีเดียวต้นแอปริคอทข้างๆกำลังออกผลบนต้นเต็มไปด้วยลูกแอปริคอทห้อยอยู่เต็มไปหมด
“เมื่อก่อนใส่หน้ากากคุยกับคนอื่นคนอื่นคาดเดาความคิดเจ้าไม่ออกตอนนี้ถอดหน้ากากแล้วความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าทุกคนเห็นได้ชัดเหมือนกับจะสามารถทำให้คนอื่นรู้สีหน้าที่แท้จริง”สายตาทอดยาวของโม่ฉีหมิงมองตรงไปที่กำแพงในสวนพึ่งพำเสียงค่อยกับตัวเอง
ที่แท้ก็กลัวสิ่งนี้นี่เองโล่หวินหลานเข้าใจแล้วทุกสิ่งนับตั้งตาที่ถอดผ้าพันแผลออกใบหน้าของเขาทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงกับความรูปงามของเขาทุกคนต่างสงสัยแต่เขากลับไม่ใส่ใจอะไรเลยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆเกี่ยวกับคำชมของทุกคน
โล่หวินหลานกลั้นยิ้มเห็นใบหน้าคร่ำเคร่งจึงตั้งใจถาม“คนอื่นสามารถรับรู้สัมผัสถึงความรู้สึกนึกคิดของเราไม่ใช่อาศัยลักษณะท่าทางภายนอกคาดเดาแต่ใช้ใจต่างหากทุกคนต่างรู้จักเสแสร้งแกล้งทำกันได้เพราะฉะนั้นถึงได้มีคำโกหกหลอกลวงมากมายจึงไม่ควรไปหลงเชื่อคนอื่นง่ายๆ”
พอเห็นโม่ฉีหมิงค่อยๆมีความทำตัวไม่ถูกออกมานางจึงพูดต่อ“เจ้าที่เป็นอยู่ตอนนี้ดีมากเลยนะ”
ไม่รู้ว่าคำปลอบของนางมีผลรึป่าวมือที่กำล้อรถเข็นแน่นของโม่ฉีหมิงค่อยๆคลายออกมาสายตาทอดยาวมองไปที่โล่หวินหลานที่ยืนยิ้นๆอยู่เขายื่นมือค่อยๆบีบมือนางเบาๆ
ในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่งสิ่งโล่หวินหลานให้ความสำคัญที่สุดคือกำลังใจตอนที่นางอย่ในโลกอนาคตไม่เพียงแต่ต้องพบเจอกับผู้คนที่ต้องเกิดแก่เจ็บตายยังต้องพบกับญาติผู้ป่วยมันไม่ใช่การเจ็บปวดแค่ภายนอกนางไม่ชอบการที่ต้องมานั่งคอยให้กำลังใจยังต้องให้กำลังใจญาติผู้ป่วยอีกด้วยทำให้พวกเขาพึงพอใจกับความต้องการ
“ลมแรงพวกเราเข้าไปกันเถอะ”โล่หวินหลานเตือนเสียงเบาดันรถเข็นของโม่ฉีหมิงกำลังเข้าไปก็มีเงาดำหนึ่งกระโดดข้ามกำแพงเข้ามานางได้สติกำลังจะเรียกคนแต่โม่ฉีหมิงก็แตะมือนางเบาๆ
คนที่มาคือเย่เฟิงมักจะมาไม่บอกไม่กล่าวผลุบๆโผล่ๆเหมือนผีเขาชินแล้วกับการใช้วิธีกระโดดข้ามกำแพงเข้ามาจวนหมิงอ๋องคนรับใช้ในจวนตกใจไปก่อนหน้านั้นนานแล้วตะโกนเสียงดังเปลี่ยนเป็นไร้เสียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนที่เคยพบเห็นกับเย่เฟิงไม่มากเขาคือองครักษ์ลับที่มักจะซ่อนตัวคอยช่วยเหลือโม่ฉีหมิงอยู่ตลอดปรากฏตัวครั้งนี้ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“ยินดีที่ได้พบหวังเฟยทะท่านอ๋อง.......”ใบหน้าเย็นชาของเย่เฟิงยังมีความตกตะลึงและทำตัวไม่ถูกมองอย่างเหลือเชื่อไปที่โม่ฉีหมิง
“ทะท่านหวังท่านคือหมิงอ๋อง?”เย่เฟิงพูดอะไรไม่ถูก
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาคุ้นชินกับสายเย็นชาแหลมคมดั่งใบมีดของโม่ฉีหมิงเขาคงไม่กล้าเชื่อว่านี่คือโม่ฉีหมิงไม่เห็นมาหลายวันรอยแผลบนหน้าดีขึ้นแล้ว?
“มีเรื่องอะไรไปคุยในห้องหนังสือ”โม่ฉีหมิงกวาดตามองไปที่เย่เฟิงตามคมเรียวยาวสองคู่ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกเข็นรถเข็นเข้าไปในห้องหนังสือ
“ขอรับ”เย่เฟิงได้ยินคำสั่งจากเขาถึงรู้สึกตัวขึ้นมารีบตามเงาเขาไปทันที
การแพทย์เก่งกล้าสามารถขนาดไหนเชียวสามารถรักษาแผลไฟไหม้มานานนับสิบปีให้หายได้?หมอคนนี้เป็นหมอเทวดาจากแห่งหนใดกันแน่
เย่เฟิงยังคงไม่อยากเชื่อสายตาสวินโม่ที่ฝีมือการแพทย์เก่งกาจขนาดนั้นยังไม่สามารถรักษาได้เลยมาวันนี้กลับดีขึ้นอย่างกะทันหัน!
พอเข้ามาในห้องหนังสือเย่หวินเก็บความอยากรู้เอาไว้รีบรายงานเรื่องด่วนทันที“ท่านอ๋องข้าน้อยได้ให้คนไปจัดการเรื่องจัดฉากใต้เท้าฉินเจี้ยนฆ่าตัวตายฮ่องเต้ก็รับรู้ไม่ได้ให้คนไปสืบหาเบาะแสแต่ข้าน้อยขณะที่ข้าน้อยกำลังตรวจสอบหาเบาะแสอยู่กลับหาอะไรไม่พบเลยแม้แต่ร่างยังหาไม่เจอ”เย่เฟิงรู้ความเป็นมาทั้งหมด
ยังมีเรื่องที่เย่เฟิงสืบไม่ได้อีกหรอโม่ฉีหมิงนัยน์ตาเย็นขึ้นสายตามีความเย็นยะเยือกดุจดั่งหิมะท่ามกลางฤดูหนาวหากหลักฐานข้อมูลถูกขโมยออกไปก็เท่ากับกุมความลับเขาอยู่หากใช้จุดนี้มาขู่เขาขึ้นมาถ้าอย่างงั้นแม้แต่ทางเลือกก็จะไม่เหลือให้เขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก