ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล นิยาย บท 11

เรือนดอกเหมย

หลังจากที่มู่จิ่งซีทานอาหารเย็นและดื่มชาหนึ่งถ้วยแล้ว นางก็เดินย่อยอาหารรอบๆ ในเรือน

รอจนท้องฟ้ามืดมิด เมื่อพระจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้า นางกับหงหลิงก็กลับมาถึงห้อง

“พระชายา ถึงเวลาที่จะรับสาวใช้สองคนแล้วหรือไม่เพคะ?” หลังจากจัดที่นอนแล้ว หงหลิงก็พูดกับมู่จิ่งซีเบาๆ

รับสาวใช้?

มู่จิ่งซีกะพริบตา ปกติแล้วข้างกายของพระชายาควรจะมีสาวใช้คอยปรนนิบัติรับใช้สี่คน

ในสองปีที่เข้ามาอยู่ในจวน เป็นเพราะมู่จิ่งซีอิจฉารูปลักษณ์ของสาวใช้อีกสามคน กลัวว่ามาอยู่ในเรือนแล้วจะยั่วยวนฉู่เทียนฉือ จึงคิดหาวิธีไล่ออกจากจวน หลังจากนั้นก็ไม่เคยรับสาวใช้อีกเลย มีเพียงหงหลิงคนเดียวที่คอยรับใช้

ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ถึงอย่างไรความสามารถของหงหลิงคนเดียวก็มีจำกัด หลายๆ เรื่องนางก็ยุ่งเกินไป และตอนนี้นางยังต้องดูแลห้องครัวเล็กชั่วคราวด้วย

หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ตอบว่า “สาวใช้หลายคนข้างนอก เจ้าน่าจะรู้ดีกว่าข้า รับสาวใช้ที่มีความประพฤติดีและสามารถไว้ใจได้มาสามคนเถอะ”

“สาวใช้เหล่านี้ล้วนหน้าตาดี พระชายา……” หงหลิงลังเล

สาวใช้ทั้งสามคนที่ถูกไล่ออกจากจวนก่อนหน้านี้ก็หน้าตางดงาม จนกลายเป็นความหนักใจของพระชายา ดังนั้นเกรงว่าการเลือกสาวใช้คราวนี้จะสะเพร่าไม่ได้

หากทำให้พระชายาไม่พอใจ แม่นางหลายคนจะเป็นอันตราย

เมื่อได้ยินมู่จิ่งซีก็อดไม่ได้ที่จะขบขันเล็กน้อย นางพยักหน้าพร้อมกับตอบว่า “รูปลักษณ์หน้าตาไม่เป็นไร ขอแค่เป็นคนที่รู้จักสงบเงียบก็พอ อย่ารับคนที่ก่อเรื่องวุ่นวาย”

“หากเจ้าลำบากใจ พรุ่งนี้หลังจากจัดการร้านค้าต่างๆ แล้ว ให้สาวใช้เหล่านั้นเข้ามาในเรือน แล้วข้าจะเป็นคนเลือกเอง”

เรื่องในอดีตเหล่านั้น เกรงว่าจะยังเป็นเงาในใจของหงหลิง

แต่ก่อนมู่จิ่งซีโศกเศร้าเกินไป หากบุรุษคนหนึ่งอยากจะแอบกิน เจ้าจะห้ามได้หรือ? เหนื่อยเปล่า!

“พระชายาไม่กลัวว่าสาวใช้เหล่านี้จะมีความคิดอื่นหรือเพคะ?” มือที่ห่มผ้าห่มของหงหลิงหยุดชะงัก และพูดความสงสัยในใจออกมา

นางก็แค่เป็นกังวลแทนพระชายา ถึงเวลานั้นหากสาวใช้ในห้องของพระชายาปีนขึ้นไปบนเตียงของท่านอ๋อง จะต้องมีเรื่องซุบซิบนินทาไม่น้อยอย่างแน่นอน

มู่จิ่งซีหัวเราะออกมา ส่ายหัวแล้วยิ้มเบาๆ “หากมี แล้วข้าจะห้ามได้หรือ? ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ข้าไม่สามารถตัดสินใจเองได้! ท่านอ๋องทรงต้องการสตรีนางใด ข้าจะขัดขวางได้หรือ?” ต่อให้ท่านอ๋องต้องการเจ้า ข้าก็ต้องยกให้!”

“พระชายา! บ่าวไม่ได้มีความคิดเช่นนั้นเพคะ!” หงหลิงคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อแสดงความจริงใจอย่างตื่นตกใจในทันที นางไม่ได้คิดอะไรกับท่านอ๋องเลยแม้แต่น้อย

นางคิดเพียงว่าวันข้างหน้าจะได้แต่งงานเป็นภรรยาของคนธรรมดา แม้ว่าจะอยู่อย่างยากไร้ แต่ก็ดีกว่าเป็นนางบำเรอในจวนอ๋องมากนัก

“บ่าวเป็นคนที่รู้หน้าที่ของตนเอง เพียงแค่ต้องการรับใช้พระชายาให้ดี ไม่มีความคิดอื่นใดเพคะ”

“เจ้าเด็กโง่ เจ้าเป็นคนอย่างไร ข้าจะไม่รู้เชียวหรือ? เจ้าไม่คิดที่จะเป็นหนึ่งในดอกไม้มากมายในจวนอ๋อง ข้าจะช่วยสนับสนุนเจ้าเอง”

“หลายปีที่ผ่านมา เจ้ารับใช้ข้าอย่างเต็มที่ ข้าล้วนจดจำไว้ในใจ ต่อไปจะเก็บสินเดิมไว้ให้เจ้ามากๆ และจะมองหาการแต่งงานที่ดีให้กับเจ้า”

“ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าเป็นคนจิตใจดีงาม น่าจะรู้ดีว่าการแบ่งปันบุรุษคนหนึ่งกับสตรีหลายคน ยากที่จะหลีกเลี่ยงความทุกข์และความขมขื่น วันข้างหน้าสินเดิมที่ข้าให้เจ้าจะทำให้เจ้าอยู่บ้านสามีได้อย่างสง่าผ่าเผย” มู่จิ่งซีพูดด้วยเสียงอ่อนโยน

ในช่วงเวลานี้เป็นหงหลิงที่อยู่เคียงข้างนางมาโดยตลอด ช่วยนางจัดการเรื่องยุ่งยากมากมาย อีกทั้งยังช่วยคิดเรื่องต่างๆ แทนนาง

นางปฏิบัติต่อศัตรูอย่างไร้ความปรานี แต่สำหรับคนของตนเอง หากสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดได้ก็จะให้สิ่งที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน!

หงหลิงเบ้าตาแดงก่ำ ไม่คิดเลยว่าในใจของพระชายาตนเองจะมีความสำคัญมากขนาดนี้

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าบางครั้งพระชายาจะพูดจารุนแรงกับนาง แต่ก็ไว้ใจนาง

ตอนนี้ก็กำลังแอบทำสิ่งเหล่านี้เพื่อนาง แล้วนางจะไม่ซาบซึ้งใจได้อย่างไร

นางแอบตัดสินใจว่าต่อไปจะต้องจงรักภักดีต่อพระชายาให้มากขึ้น จึงจะไม่ละอายใจต่อพระชายา

“พระชายาทรงเป็นคนดีเช่นนี้ ทำไมถึงไม่ถูกตาต้องใจท่านอ๋อง?” หงหลิงเช็ดน้ำตาบนใบหน้า และถอนหายใจเบาๆ

“นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบังคับได้” มู่จิ่งซีตอบด้วยรอยยิ้ม

นางไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉู่เทียนฉือ เขาอยากจะทำอะไรก็ทำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล