ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล นิยาย บท 22

สรุปบท บทที่ 22 มาส่งของขวัญ: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล

สรุปเนื้อหา บทที่ 22 มาส่งของขวัญ – ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล โดย ซูเกอ

บท บทที่ 22 มาส่งของขวัญ ของ ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล ในหมวดนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ซูเกอ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฉู่เทียนฉือขมวดคิ้ว ตอนที่กำลังจะพูดอะไรอีกนั้น ข้างหูก็มีเสียงเย็นชาและห่างเหินของมู่จิ่งซีดังขึ้น: “หงหลิง ชิงผิง ทิ้งอาหารพวกนี้ให้หมด ต่อไปเตือนข้าด้วยว่า อย่าเข้าครัวโดยพลการ อาหารพวกนี้ช่างกินยากจริงๆ ทำไมถึงทำให้ท่านอ๋องไม่พอใจได้? เก็บกวาดทิ้งไปให้หมด!”

“เจ้าค่ะ!” หงหลิงกับชิงผิงรีบเดินเข้ามา เก็บจานบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว

ต่อมา มู่จิ่งซีก็สั่งกับหยุนเหมยว่า: “หยุนเหมยไปเทน้ำชามา”

“เจ้าค่ะ พระชายา”

ฉู่เทียนฉือลุกขึ้นยืนช้าๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองมู่จิ่งซี

นางเปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่รู้ว่าตัดใจไปแล้วจริงๆหรือยัง

หากเป็นกลอุบายปล่อยเสแสร้งเพื่อจับเขา งั้นนางก็ทำสำเร็จแล้วล่ะ เพราะนางดึงดูดความสนใจจากเขาได้จริงๆ

แต่เพราะแบบนี้ น่าจะคิดหาทางหยุดความคิดแบบนี้ของนางเสีย

เขาครุ่นคิดอยู่แบบนั้นแล้วลุกขึ้นเดินไปยังหน้าประตู จนลืมบอกมู่จิ่งซี

ในตอนที่ชิวจวี๋เปิดประตูให้เขา และเขาก็ก้าวเท้าออกไปด้านนอก ด้านหลังก็มีเสียงของนางดังขึ้น “ขอน้อมส่งท่านอ๋อง”

ฉู่เทียนฉือชะงักฝีเท้า หันหน้าพยักหน้ากับมู่จิ่งซี ต่อมาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับไปมองอีก

รอฉู่เทียนฉือออกไปแล้ว ตอนกลางคืนที่หงหลิงปูเตียงให้มู่จิ่งซี ก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า: “พระชายา ครั้งนี้พวกเรากลับจวนแม่ทัพ คุณชายใหญ่กับคุณหนูรองต้องคิดกลอุบายอะไรอีกแน่”

“ถึงเวลา หากไม่มีการช่วยเหลือจากท่านอ๋อง อาจจะสร้างเรื่องเดือดร้อนและข่าวลือด้านลบให้พระชายาได้ วันนี้พระชายา……”

นางยังพูดไม่ทันจบ มู่จิ่งซีก็ยิ้มแล้วพูดตัดจบนาง: “ไม่เป็นไร ในใจของท่านอ๋องไม่ได้มีข้าอยู่แล้ว ทำไมถึงต้องบังคับจิตใจด้วยล่ะ”

“อีกอย่าง จวนแม่ทัพกว้างใหญ่ ข้าเป็นลูกในสมรสที่เกิดจากภรรยาเอกเพียงคนเดียว สองคนนั้นเป็นแค่ลูกนอกสมรส จะมาเบ่งอำนาจถึงหัวข้าได้อย่างไร?”

หงหลิงอ้าปากค้าง สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองลงท้องไป

คุณชายใหญ่กับคุณหนูรองเป็นพวกชอบก่อเรื่อง ไม่รู้ว่าพระชายาจะรับไหวไหม และไม่รู้ว่าชีวิตในจวนแม่ทัพของฮูหยินจะเป็นอย่างไรบ้าง!

อี๋เหนียงพวกนั้นก็เป็นตัวปัญหาเหมือนกัน!

มู่จิ่งซีรู้ว่าหงหลิงกังวลเรื่องอะไร แต่ให้นางไปประจบฉู่เทียนฉือน่ะเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก

กินอาหารที่นางทำ นางก็รู้สึกเสียดายมากแล้ว อย่าให้นางเสียเวลาไปประจบใครเลย

ถึงแม้ว่าพวกคนในจวนแม่ทัพจะเป็นตัวปัญหา แต่มู่จิ่งซีในตอนนี้ไม่ใช่มู่จิ่งซีในอดีตอีกต่อไป

เห็นหงหลิงมีสีหน้าเป็นห่วง นางก็พูดปลอบใจด้วยรอยยิ้มว่า: “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เรื่องพวกนี้ ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกทีเถอะ”

หงหลิงตอบรับ ปูเตียงเสร็จแล้วก็เดินออกไป

คืนนี้ มู่จิ่งซีหลับสนิททั้งคืน

หลังจากที่ฉู่เทียนฉือกลับเรือนไผ่แล้ว ก็มาเล่าเรื่องให้รองพระชายาเสิ่นฟัง

รองพระชายาเสิ่นได้ยินข่าวแล้ว ฉู่เทียนฉือก็กินอะไรที่เรือนดอกเหมยอีกนิดหน่อย

รองพระชายาเสิ่นอดไม่ได้ที่จะคิด หรือว่าช่วงนี้เขาไม่ชอบอาหารที่ในครัวทำแล้ว?

ได้ยินว่า วันนี้มู่จิ่งซีเข้าครัวเอง

ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ไม่ค่อยมีคนชอบนิสัย จะเข้าครัวเป็นกับเขาด้วย

หลังจากนอนบนเตียง นางก็ไม่หลับทั้งคืนเลย

บนถาดมีพระพุทธรูปหยกขาวเนียน งานประณีต แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา ราคาประเมินค่าไม่ได้แน่นอน

ไม่คิดว่าอนุภรรยาจะใจกว้างขนาดนี้

“บ่าวขอให้พระชายามีลูกกับท่านอ๋องเร็วๆนะเจ้าคะ พระแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ แม่ของบ่าวให้บ่าวมากับมือ ไปปลุกเสกมาจากวัดชิงเฟิงเจ้าค่ะ” ฮูหยินใหญ่เห็นมู่จิ่งซีมองไปยังพระแม่กวนอิม นางก็กะพริบตาแล้วพูดอย่างจริงใจมากที่สุด

“งั้นข้าก็ขอบใจเจ้ามาก แต่ว่า หากพระแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้เคยได้รับการปลุกเสกมากจริงๆ และหากเห็นผลจริงอย่างที่เจ้าว่า ทำไมอยู่กับเจ้ามาจะสองปีแล้ว ท้องของเจ้าถึงไม่มีข่าวคราวอะไรเลยล่ะ?” มู่จิ่งซีถามกลับด้วยรอยยิ้ม โบกมือให้หงหลิงเก็บพระแม่กวนอิมหยกขาวนี้ไว้

ฮูหยินใหญ่พูดไม่ออก กะพริบตา สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น มู่จิ่งซีกำลังประชดนางอยู่งั้นเรอะ! น่าโมโหจริงๆ!

กลอกตาไปมา สายตาหันไปมองหงหลิง

“เหอะๆๆ……” เสียงหัวเราะของฮูหยินสามดังขึ้นราวกับเสียงระฆัง ต่อมาก็เรียกสาวรับใช้ด้านหลังนางให้ยกของขึ้นมา: “ของที่บ่าวนำมาไม่ได้ล้ำค่าเหมือนกับพี่ตู้ ดังนั้นของที่จะให้ท่านแม่ทัพก็มีแค่รูปภาพเท่านั้น”

มู่จิ่งซีเอียงหน้ามองรูปที่สาวรับใช้คนนั้นเปิดออก ภาพนั้นคือสองแม่ทัพที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในสงคราม

วาดได้ราวกับว่าบุคคลในภาพมีชีวิตจริงๆ เป็นของที่ไม่เลวเลย! พอมองลงไปเรื่อยๆ มองเห็นตัวอักษรที่เขียนตวัดอยู่ด้านล่าง ดวงตาเบิกโพลง บุคคลในภาพวาดนั้นกลับเป็นแม่ทัพซือถูที่ก่อกบฎจากราชวงศ์ก่อน!

ผู้ที่ต่อสู้กับแม่ทัพซือถูนั้นคือแม่ทัพจากแคว้นอื่น!

นี่คือภาพต้องห้าม! ผู้ที่เก็บภาพนี้ไว้ หากถูกคนอื่นพบเห็น จะต้องถูกประหารแน่!

ฮูหยินสามยังคงยิ้มอย่างไร้เดียงสาอยู่

“ฟางหรงเหมย เจ้าบังอาจนัก!” มู่จิ่งซีตบโต๊ะไม้ตรงหน้าอย่างแรง แก้วน้ำชาก็สั่นสะเทือนไปด้วย น้ำเสียงโกรธเคืองนั้นทำเอาฮูหยินสามหัวใจสั่นรัว รีบคุกเข่าลงพื้นอย่างรวดเร็ว

ฮูหยินใหญ่กับฮูหยินสี่ไม่เข้าใจ ทุกคนในห้องส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ฮูหยินสามเงยหน้าแล้วถามอย่างไม่เข้าใจว่า: “พระชายา เพราะเหตุใดกัน? ทำไมท่านถึง……”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล