ดังนั้นสำหรับหงหลิง หลังจากนางสังเกตด้วยตนเองมาครึ่งเดือนแล้ว นางคิดว่าสามารถไว้ใจได้
ส่วนเหล่าสาวใช้และหญิงชราคนอื่นๆ ในเรือนดอกเหมยก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ถึงอย่างไรก็มีดวงตามากมายเกินไป สุดท้ายดวงตาเหล่านี้เป็นของฝ่ายใด ตอนนี้นางก็ยังไม่แน่ใจ
ส่วนมู่จิ่งซีแต่ก่อน นางทำได้เพียงส่ายหัวยิ้มเยาะ ทำตัวล้มเหลวมากเกินไป และเป็นสตรีที่ยิ่งล้มเหลวมากขึ้นไปอีก!
มิน่าเล่าตั้งแต่ต้นจนจบฉู่เทียนฉือถึงไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลย เป็นตนเองที่ไม่เป็นที่รักเลยจริงๆ!
แต่......สำหรับฉู่เทียนฉือผู้นี้ นางไม่มีอะไรจะวิพากษ์วิจารณ์ สำหรับบุรุษที่มากชู้หลายเมีย ร่างกายและความคิดของนางมีความสามารถในการจัดการด้วยตนเอง และทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางร่างกายกับเขาให้มากที่สุด
ส่วนการพัวพันทางอารมณ์ก็ไม่ควรจะมีเหมือนกัน
แต่ด้วยสถานการณ์ในยามนี้ ดูเหมือนว่าหากนางต้องการยืนอยู่ในจวนอ๋อง นางต้องทำอะไรสักอย่าง!
ในขณะครุ่นคิด เสียงของหงหลิงก็ดังขึ้นข้างๆ หู “พระชายา ข้างหน้ามีศาลา สามารถนั่งพักผ่อนได้พอดี และในทะเลสาบแห่งนี้ก็ยังมีปลาทองแหวกว่ายไปมาด้วยเพคะ”
“อืม ไปดูสิ” มู่จิ่งซีพยักหน้า เงยหน้ามองไปที่ศาลาตรงหน้า ยิ่งเดินไปข้างหน้าก็ยิ่งรู้สึกถึงลมเย็นที่พัดผ่าน
นั่งอยู่ในศาลาก็สามารถมองเห็นน้ำในทะเลสาบเป็นคลื่นระยิบระยับได้
เป็นอย่างที่หงหลิงพูด ปลาทองในทะเลสาบกำลังแหวกว่ายมาตามริมน้ำ น้ำในทะเลสาบใสแจ๋ว ปลาสีทองเป็นประกาย นางยกมุมริมฝีปากขึ้น และรอยยิ้มอันสง่างามก็ปรากฏบนริมฝีปาก
หงหลิงยืนอยู่ในที่แห่งหนึ่งและมองอย่างงุนงง ในยามนี้พระชายาไม่อาจละสายตาทั้งคู่ได้
เห็นได้ชัดว่ายังคงเหมือนเดิม แต่สงบนิ่งและสง่างามมาจากภายใน อีกทั้งในยามนี้นางยังสวมชุดสีเขียวมรกต กระโปรงจีบรอบลายดอกไม้ละอองน้ำหญ้าสีเขียว ผ้าคลุมสีเขียวมรกตบางๆ ขับให้ผิวพรรณละเอียดเกลี้ยงเกลาเหมือนกับดอกกล้วยไม้ แถมยังมีเสน่ห์อ่อนโยนอีกด้วย
หงหลิงคิดว่าหากท่านอ๋องได้เห็นพระชายาในยามนี้ จะต้องชำเลืองมองอย่างแน่นอน
เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหงหลิง มู่จิ่งซีก็หันหน้าไปมอง ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “วันนี้ข้ามีอะไรผิดปกติหรือ?”
“วันนี้พระชายางดงามมากเพคะ” แก้มแดงระเรื่อ หงหลิงละสายตาทันที และตอบอย่างตรงไปตรงมา
มู่จิ่งซียิ้มเล็กน้อย นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหงหลิงกำลังคิดอะไรอยู่
ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่มู่จิ่งซีคนเดิม พฤติกรรม กิริยาท่าทาง และด้านอื่นจะเหมือนเดิมได้อย่างไร!
แต่ไม่ว่านางจะคิดอย่างไร ตอนนี้มู่จิ่งซีคือนาง นางก็คือมู่จิ่งซี เป็นความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ในเวลานี้มีสตรีที่งดงามดั่งบุปผาและแต่งตัวดีสามนางเดิมมาอยู่ไม่ไกล
ทั้งสามคนพูดไปยิ้มไป เสียงหัวเราะอันอ่อนหวานดังอย่างต่อเนื่อง สาวใช้ที่เดินตามหลังทั้งสามคนสวมชุดสีเขียวเข้ม
“พระชายา เป็นฮูหยินใหญ่ ฮูหยินสาม และฮูหยินสี่เพคะ” หงหลิงก้มลงกระซิบข้างหูของมู่จิ่งซี ความกังวลในดวงตาหายไปจนหมดสิ้น
ฮูหยินทั้งสามรับมือได้ยากยิ่งกว่าฮูหยินรองเสียอีก ปกติแล้วจะคอยแอบขัดขาพระชายาให้ล้มลง และพระชายาก็ไม่สามารถทำอะไรพวกนางได้
ถึงอย่างไรพวกนางทั้งสามคนก็เจ้าเล่ห์เกินไป พระชายาไม่มีกลอุบาย ท้ายที่สุดก็เป็นพระชายาที่ต้องเสียเปรียบ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่จิ่งซีก็ถอนสายตาออกจากทะเลสาบ หันหน้าไปมองสตรีทั้งสามคนที่งดงามไม่แพ้กัน และงดงามแตกต่างกันออกไป
คนหนึ่งอ่อนช้อยและเสียงไพเราะน่าฟังที่สุด
คนหนึ่งบริสุทธิ์ดุจหยกราวกับสาวพรหมจรรย์ ก้มหน้าและหลบสายตาของผู้อื่นอย่างเขินอาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล
รอตอนต่อไปจ้า...
รบกวนลงทุกวันลงทุกวันด้วยจ้า...
แอดเชื่อไหม ว่าจะหาที่คอมเม้นเจอคือนานมากกกกก เที่เห็นเม้นติดๆกันหลายวันคือเพิ่งหาเจอ 555...
ลงตอนเดียวเองหรออออ 😭...
ลงทุกวันน้า รออ่านค่ะ...