ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 104

สรุปบท ตอนที่ 104 อยากไปเอง: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่ 104 อยากไปเอง – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนนี้ของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 104 อยากไปเอง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 104 อยากไปเอง

“เจ้าสาวใช้คนนี้เป็นพวกนักต้มตุ๋นใช่หรือไม่ รถม้าของพวกเราวิ่งมาตรงตามถนนแล้ว อยู่ดีๆเจ้าก็โผล่มากะทันหันเช่นนี้ ข้าไม่ผิด เจ้าทำให้ม้าของข้าตกใจดังนั้นเจ้าผิด เจ้าคนชั่วยังจะมากล่าวหาก่อนอีกหรือ” คนขับรถม้ายังคงโกรธมาก เขายกแซ่ม้าขึ้นหมายจะตีเอ่อร์ยา

“แล้วกันไปเถอะ” เสียงดังก้องอย่างมีอำนาจดังออกมาจากในรถม้า “พวกเราเพิ่งจะมาถึงเมืองเฟิ่งซี อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่สิ อีกอย่าง เราไม่มีเวลามากพอจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่นะ”

เมื่อคนรถได้ยินเช่นนั้น ถึงจะวางแซ่ม้าลงอย่างแค้นใจ “ถือว่าเจ้าสาวใช้นี่โชคดีบังเอิญว่านายท่านของข้ามีจิตใจเมตตา ถ้าเป็นเวลาปกติเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานแล้ว”

คนรถรีบบังคับรถม้าไปด้านหน้า หลังจากนั้นก็มีรถม้าหลายคันค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านเอ่อร์ยาไป

เอ่อร์ยายังคงโกรธอยู่ เมื่อหันสายตาไปกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของหลินซินเยียน ก็ร้อนใจ ท้ายที่สุดก็เห็นหลินซินเยียนเดินออกมาจากหลังฝูงชน แต่สายตาของนางยังคงทอดยาวไปถึงรถม้าที่วิ่งไปไกลแล้ว

“แม่นาง ท่านรู้จักคนพวกนั้นหรือ” เอ่อร์ยารู้สึกว่าแววตาของนางมีบางอย่างแปลกๆเลยอดไม่ได้ที่จะถาม

หลินซินเยียนยิ้มบางแล้วส่ายหัว “ไม่รู้จัก”

จะไม่รู้จักได้อย่างไร ผู้อาวุโสคนนั้นที่อยู่ในรถครั้งหนึ่งเคยไม่ดูแคลนนาง เพียงแต่ หลินโสงฉีถูกย้ายกลับมาเมืองหลวงแล้วหรือ โชคชะตาที่เป็นแบบนี้ที่แท้ทำให้มีความคาดหวังของหลินซินเยียนในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ในที่สุด นางเป็นคนอาฆาตคนหนึ่ง ตนเองและเสี่ยวอวี่เกือบจะตายในมือของฮูหยินนายพล ความแค้นครั้งนี้ถ้ามีโอกาสจะต้องชำระให้ได้ถึงจะพอใจ

ทั้งสองคนเช่ารถม้าที่อยู่หน้าประตูเมืองสองคัน ล้อรถหมุน รถม้าก็ค่อยๆออกจากเมืองเฟิ่งซีไกลขึ้นเรื่อยๆ ในรถม้า หลินซินเยียนทนไม่ไหวต้องเปิดหน้าต่างของรถม้าแล้วหันหลังกลับไปมอง เมืองเฟิ่งซีที่เจริญรุ่งเรือง หลังจากครึ่งปีที่นางจะกลับมา จะเปลี่ยนแปลงสภาพไปเป็นอย่างไรบ้างนะ

ในจวนอู่เซวียนอ๋อง มีคนส่งเสือขาวมา เสือขาวถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก สายตามองคนที่อยู่รอบๆอย่างโหดร้าย

ในมือโม่จื่อเฟิงมีเนื้อที่มีเลือดสดอยู่ชิ้นหนึ่งที่ได้รับมาจากผู้ติดตามข้างกาย หลังจากนั้นก็โยนเนื้อชิ้นนั้นเข้าไปในกรง เสือตัวนั้นงับเนื้อสดชิ้นนั้นเอาไว้แล้วกินเนื้อชิ้นนั้นเต็มปากเต็มคำ

“ท่านอ๋อง แม่นางหลินออกจากเมืองหลวงไปแล้ว” จินมู่เดินเข้ามาจากด้านนอกห้อง มองเห็นเสือขาวตัวนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

โม่จื่อเฟิงเค้นเสียงเย็น “นางอดใจรอที่จะไปไม่ไหวแล้ว”

“แม่นางหลินไปแค่ครึ่งปีเท่านั้น ไม่นานก็กลับมาแล้ว” จินมู่เลียนแบบจากที่โม่จื่อเฟิงทำเขานำเนื้อสดโยนเข้าไปในกรงเหล็ก แต่คาดไม่ถึงว่าเสือขาวตัวนั้นไม่ได้มอง กลับเดินตรงไปทางอีกฝั่งหนึ่งของกรง “ ย๊า เจ้าสัตว์ตัวนี้นี่มันมีสติปัญญาดีรึไม่”

“ธรรมชาตินะ ไม่เช่นนั้นข้าจะรับมันมาหรือ” โม่จื่อเฟิงสั่งคนให้เก็บกวาดเนื้อที่เสือไม่กินชิ้นนั้น แล้วนำผ้าดิบมาเช็ดมือ “ครึ่งปีค่อยกลับมาหรือ เจ้าคิดว่าข้าจะรอถึงครึ่งปีได้ไหม”

“เช่นนั้นท่านอ๋องให้แม่นางหลินไปนั้นหมายถึงอะไร” จินมู่สงสัยมากยิ่งขึ้นแล้ว

พวกนางไปที่โรงเตี๊ยมหลายแห่ง โรงเตี๊ยมทั้งหมดบอกว่าที่พักเต็มแล้ว ทำให้หลินซินเยียนประหลาดใจ โรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็ไม่ใช่โรงเตี๊ยมที่มีชื่อเสียงอะไรมากจู่ๆก็เต็มขึ้นมา หรือว่าในเมืองจะมีงานอะไรหรือเปล่า

กว่าจะหาโรงเตี๊ยมที่มีห้องว่างให้พักได้นั้นไม่ง่ายเลย หลินซินเยียนและเอ่อร์ยาเหนื่อยจนแทบจะหลับ ระหว่างที่พวกเขารอเสี่ยวเอ่อร์นำน้ำร้อนมาส่ง หลินซินเยียนก็ถือโอกาสถามคำถามที่อยู่ในใจออกมา

“พี่ชาย วันนี้ในเมืองมีงานอะไรหรือไม่ เหตุใดเกือบทุกโรงเตี๊ยมห้องพักจึงได้เต็ม”

เสี่ยวเอ่อร์นำน้ำร้อนวางลง ยิ้มแป้นแล้วตอบ “ดูแล้วแม่นางสองคนคงมาไม่เคยมาที่เมืองหยู่แห่งนี้ แต่ว่าพวกท่านเคยได้ยินเรื่องของศาลาความลับแห่งสวรรค์บ้างหรือไม่ นั่นก็คือศาลาความลับแห่งสวรรค์ที่มีชื่อเสียงเรื่องการออกแบบเล่ห์กลและผลิตอาวุธอย่างไรเล่า”

“ศาลาความลับแห่งสวรรค์หรือ แน่นอนว่าเคยได้ยินมาก่อน ทำไมหรือ งานนี้เกี่ยวกับศาลาความลับแห่งสวรรค์หรือ” หลินซินเยียนถามอีกครั้งอย่างไม่มีชีวิตชีวา

“ไม่ใช่หรอก ทุกๆสามปีศาลาความลับแห่งสวรรค์จะรับลูกศิษย์จากข้างนอก อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ศาลาความลับแห่งสวรรค์เปิดรับลูกศิษย์แล้ว ดังนั้นคนจากทั่วทุกสารทิศจำนวนมากก็จะเดินทางมาเข้าร่วมเป็นธรรมดา ช่างฝีมือที่มาจากศาลาความลับแห่งสวรรค์นั้น ถ้าหากว่าข้าอยากเป็นช่างฝีมือละก็ข้าก็จะไปลองดู วันนี้ศาลาความลับแห่งสวรรค์กำลังรุ่งโรจน์ เช่นนั้นก็คงอยู่ห่างจากการควบอาชาทะยานฟ้าไม่ไกลหรอก ”

ใบหน้าของเสี่ยวเอ่อร์เต็มไปด้วยความอิจฉา แล้วก็ส่ายหัว “น่าเสียดาย เรื่องแบบนี้สำหรับข้าแล้วเป็นเรื่องที่ไม่เชี่ยวชาญเอาเสียเลย และยังไม่รู้ว่าปีนี้จะมีผู้โชคดีพวกนั้นได้เข้าไปในศาลาความลับแห่งสวรรค์”

เสี่ยวเอ่อร์ส่ายหัวแล้วเดินออกไป เอ่อร์ยาเทน้ำร้อนลงไปในอ่างเพื่อเตรียมปรนนิบัติหลินซินเยียนให้ล้างหน้าบ้วนปาก แล้วก็หันไปเป็นหลินซินเยียนกำลังสติล่องลอย “แม่นาง ท่านคิดอะไรอยู่หรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต