ตอนที่ 109 ลูกศิษย์ฝ่ายใน
ไน่เหอฮวนยื่นห่างจากคนที่อยู่ข้างๆอย่างเมินเฉยไปหนึ่งก้าว พูดเสียงเย็นว่า “ถ้าหากว่าเจ้าเป็นสาวสวยละก็ ถึงจะมายืนข้างกายข้าได้ ไม่อย่างนั้น ถ้าไม่หลีกก็ตาย”
หมอกภายในหมอกหนานั้น ไอน้ำเป็นน้ำแข็ง ไอน้ำที่เป็นน้ำแข็งนั้นยังเยือกเย็นไม่เท่ากับน้ำเสียงของเหอฮวนเลย
พริบตานั้น หลินซินเยียนและอู๋หมิงมึนงง ทั้งสองคนยังไม่ได้ตอบโต้อะไรเหอฮวนก็จูงหลินซินเยียนเดินไปข้างหน้าแล้ว
“เฮ้ย ท่านรับอะไรไม่ได้รึ ท่านปล่อยหลินซินเยียนนะ ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน” อู๋หมิงได้สติกลับมาก็วิ่งจนพื้นสั่นสะเทือนตามมา แต่ว่าท่าทีก็ยังไม่ค่อยดี
เพราะไน่เหอฮวนพูดเช่นนี้ ทำให้บรรยากาศที่แต่เดิมนั้นเคร่งเครียดความรู้สึกกดดันก็ลดลง ทั้งสามคนเดินตรงไปข้างหน้าไม่มีใครพูดอะไรตลอดทาง
ทันใดนั้น ไน่เหอฮวนก็ฉุดหลินซินเยียนให้ถอยหลังมาด้านขวาก้าวหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่อู๋หมิงตอบสนองไม่ทันจึงกลิ้งไปข้างหน้าแล้ว แต่เดิมด้านหน้านั้นเป็นเนินลาดชัน ทำได้เพียงฟังอู๋หมิงตะโกนร้องไปกลิ้งไป
“ทำอย่างไรดี” สำหรับสหายร่วมกลุ่มนั้น ไม่ว่าอย่างไรหลินซินเยียนก็ไม่สามารถนั่งดูอยู่เฉยๆได้
ไน่เหอฮวนกลับไม่รีบร้อน ดึงเขนของนางแล้วพูดเสียงเย็น “ไม่ต้องทำยังไงหรอก ความชันของเนินนี้เอาชีวิตคนไปไม่ได้หรอก เพียงแค่อดทนหน่อยก็เท่านั้นเอง”
เสียงของเขาเพิ่งจะร่วงลงไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของความเศร้าใจดังขึ้นมา “พวกเจ้าสองคนกำลังชักช้าอยู่ใย รีบลงมาเร็วที่นี่มีคนตาย”
หลินซินเยียนกับไน่เหอฮวนสบตากัน พวกเขาจึงประคองเดินกันลงเนินนั้นไป
สถานที่ที่มีบรรยากาศเช่นนี้ ไม่รู้เลยว่าไน่เหอฮวนจะมาสามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้ ในใจของหลินซินเยียนนั้นมีคำถาม แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าเลยสักนิด
ทั้งสองคนมาถึงจุดต่ำสุดของเนินแล้ว ก็เห็นอู๋หมิงนั่งกอดเข่าของตนนั่งอยู่บนพื้น เมื่อเห็นทั้งสองคนมาถึงแล้ว ก็หน้าซีดชี้โบ้ชี้เบ้ไปทางด้านข้าง
อู๋หมิงตะแคงตัวก็เห็นศพจำนวนมากที่นอนอยู่บ้าง ตั้งตรงบ้าง ศพเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะถูกอะไรบางอย่างโจมตีบนตัวของศพนั้นเหลือร่องรอยแผลฉีกขาดที่ดูน่ากลัวเอาไว้
ใจของทั้งสามคนหล่นวูบ คนเหล่านั้นเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นคนที่เย้ยหยั่นหลินซินเยียน ตอนนี้ คนที่มาก่อนหน้านี้ก็คงจะหนีรอดไปหมดแล้ว คนที่เหลืออยู่ที่นี่ก็คือคนที่ตายไปแล้ว มีช่างเงินที่มีคุณวุฒิเพียบพร้อมคนหนึ่งอยู่ในนี้ด้วย
“ที่แท้สิ่งใดกันที่ทำร้ายพวกเขา” อู๋หมิงเดินมาอยู่ข้างๆทั้งสองคนอย่างหวาดกลัว “ศาลาความลับแห่งสวรรค์นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ใช่เปิดรับศิษย์หรอกหรือ เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีคนตายเพราะเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์”
“จริงๆ ถึงแม้ว่าศาลาความลับแห่งสวรรค์จะไม่ได้มีชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์ แต่ว่าหลายปีมานี้ไม่เคยมีเรื่องที่โทษฟ้าแค้นเคืองมนุษย์มาก่อน คนเหล่านี้ที่ตายอย่างน่าเวทนาดูแล้วจะไม่ใช่รูปแบบของศาลาความลับแห่งสวรรค์”
หลินซินเยียนพยักหน้า ในฐานะที่เป็นคนที่ถูกเลือกจากภายในแล้วก็ไม่เห็นจะมีเหตุผลใดให้นางเข้าร่วมการคัดเลือกที่อันตรายเช่นนี้ ดูแล้วการคัดเลือกศิษย์ครั้งนี้ของศาลาความลับแห่งสวรรค์จะวุ่นวายมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มากเลยทีเดียว
“ตอนนี้พวกเราเดินไปข้างหน้าต่อเลยดีไหม” อู๋หมิงสอบถามความเห็นจากทุกคน แต่ดูจากสีหน้าของเขาแล้วไม่มีนัยยะว่าจะถอยเลยแม้แต่น้อย
หลินซินเยียนพูดอย่างลังเลใจ “ข้าจะเดินไปข้างหน้าต่อ สำหรับพวกท่านข้าไม่บังคับนะ”
ไน่เหอฮวนย่นคิ้ว และพูดว่า “ข้าก็ด้วย”
หลินซินเยียนหัวเราะอย่างผะอืดผะอมแต่ไม่ตอบกลับ แต่หันไปพูดกับบุรุษชุดดำ “ในป่านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
“พูดอย่างไม่ปิดบังท่านเลยนะ แต่เดิมหุบเขานี้นอกจากจะมีภูมิประเทศที่ซับซ้อนเล็กน้อยแล้วไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเลย แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น มีเสียงร้องอย่างน่าเวทนาดังมาจากหมอกหนาตลอด คนของพวกเราตามเสียงไปก็พบศพหลายศพ ถึงจะรู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรง แต่ว่าแท้จริงสิ่งที่จู่โจมพวกเขาคืออะไรนั้นตอนนี้พวกเรายังคงตรวจสอบอยู่ ข้ากลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับท่านดังนั้นจึงรีบพาคนมาตามหาท่าน”
บุรุษชุดดำอธิบายต้นสายปลายเหตุให้ฟังแล้ว จากสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้จริงด้วยว่าเรื่องนี้ศาลาความลับแห่งสวรรค์ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
“รบกวนพี่ชายแล้ว” หลินซินเยียนถอนสายบัวอย่างมีมารยาท
“มิกล้ามิกล้า แม่นางมาที่นี่เพื่อเป็นลูกศิษย์ของภายใน เมื่อโอกาสค่อยสนับสนุนให้คำแนะนำพวกข้าก็พอ” บุรุษชุดดำยิ้มให้ด้วยความชื่อตรงจริงใจ
หลินซินเยียนตะลึง พลันได้ยินอะไรบางอย่างที่อยู่ในคำพูดของเขา “ลูกศิษย์ในหรือ ลูกศิษย์ของศาลาความลับแห่งสวรรค์นั้นแบ่งเป็นนอกกับในด้วยหรือ”
ชายคนนั้นเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังพร้อมกับอธิบายไปด้วย “แน่นอนสิ ลูกศิษย์ในถึงจะมีคุณสมบัติในการผลิตอาวุธเล่ห์กล ลูกศิษย์นอกเป็นเพียงแค่คนช่วยลงมือและช่วยทำเรื่องเล็กๆน้อยๆก็เท่านั้น การคัดเลือกศิษย์ในวันนี้จะมีเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่ได้เป็นศิษย์ใน ส่วนคนที่เหลือนั้นจะได้เป็นศิษย์นอก ”
หลินซินเยียนคิดได้ทันทีว่า บุรุษชุดดำคนนี้ก็คงจะเป็นศิษย์นอกเช่นกัน ดังนั้นจึงเคารพและเกรงใจศิษย์ในมากขนาดนี้
อู๋หมิงได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนแล้วจึงได้เดินมาถามหลิงซินเยียนอย่างไม่พอใจข้างๆว่า “ดูเหมือนว่าท่านมาเข้าร่วมการคัดเลือกแต่ท่านผ่านการคัดเลือกแล้วหรือ”
หลินซินเยียนส่ายหัว “ไม่ ข้าก็พึ่งพาความสามารถของข้าเช่นกัน ข้าแค่ผ่านการประเมินผลจากเจ้าน้อยมาก่อนแล้วก็เท่านั้น” ในเรื่องนี้นั้นนางไม่ได้โกหก นางชนะเทียนหยุนจือเรื่องการประดิษฐ์อาวุธมาแล้ว เดิมแล้วตัวของนางก็มีคุณสมบัติเพรียมพร้อมที่จะเป็นศิษย์ในแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...