สรุปเนื้อหา ตอนที่ 146 ความโลภของผู้หญิง – ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง
บท ตอนที่ 146 ความโลภของผู้หญิง ของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 146 ความโลภของผู้หญิง
ในชั่วพริบตานั้น หลินซินเยียนรู้สึกเกลียดระบบความคิดที่หัวโบราณเช่นนี้ เกลียดแนวคิดสังคมที่ผู้หญิงถูกดูถูก เกลียดสังคมที่เห็นอยู่ชัดๆว่ามีข้อผิดพลาด แต่ความจริงคนก็ยังให้ความเชื่อมั่นอยู่
โม่จื่อเฟิงไม่รู้ว่าความโกรธของนางมากจากไหน “เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ เป็นผู้หญิง เจ้าคงจะรู้ว่า มีทายาทให้กับข้านั้นเป็นเรื่องโชคดีที่ผู้หญิงทั้งหลายใฝ่ฝัน”
“เรื่องโชคดีหรือ” ครั้งนี้หลินซินเยียนตระหนักอย่างลึกซึ้งแล้ว “ไม่มีทางเชื่อมโยงเข้าหากัน” สี่คำนี้ สำหรับโม่จื่อเฟิงแล้วเขาเองก็ถอยให้นางก้าวใหญ่ๆแล้ว แต่สำหรับหลินซินเยียนนั้น การถอยเช่นนี้นั้นยังถือว่าไม่เพียงพอ
ดังนั้น แต่เดิมนางไม่ควรที่จะฝากความหวังไว้กับชายที่อยู่ในสังคมแบบนี้ ทุกคนเหมือนเมาแต่ข้าตื่นอยู่คนเดียว ความรู้สึกนี้ มันโดดเดี่ยวและเงียบเหงาเหลือเกิน
นางถอนหายใจยาว หมุนตัวหันหลังให้เขาแล้วไม่พูดอะไรอีก
นางไม่มีวิธีที่จะนำความคิดแบบปัจจุบันยัดเยียดเขาได้ และเขาเองก็ไม่สามารถเข้าใจความคิดของนางได้ ต้องเป็นอย่างนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ จะมีอะไรให้พูดได้อีกเล่า
“แล้วไปสิ” โม่จื่อเฟิงลงจากเตียง สวมรองเท้าเสร็จก็ออกจากห้องไป
หลินซินเยียนไม่หันกลับมามอง ทำแค่เพียงฟังเสียงประตูปิดลง น้ำตาก็ไหลลงอาบแก้ม
นอกห้อง อู๋อี้ยืนอยู่ใต้ต้นมะเดื่อมองมาทางห้องของนาง หลังจากเห็นโม่จื่อเฟิงเดินออกมาจากห้องของหลินซินเยียน เขาถึงได้รีบเดินเข้ามาหา เขาไม่ได้ทำความเคารพแล้วถามตรงๆเลยว่า “ท่านอ๋อง ท่านสามารถมอบเกียรติให้นางได้หรือไม่”
“เกียรติหรือ” โม่จื่อเฟิงคำรามเสียงเบา หันกลับมามองอย่างตำหนิไร้สาระ แล้วหัวเราะ “นี่คือสิ่งที่นางให้เจ้ามาถามหรือ”
อู๋อี้ส่ายหน้า “ไม่ ศิษย์น้องไม่เคยบอกว่าต้องการให้ท่านมอบเกียรติให้นาง ข้าแค่ถามในฐานะของศิษย์พี่ของนาง ก่อนที่ท่านอาจารย์จะจากไปท่านฝากฝังให้ศิษย์อย่างพวกข้าดูแลนาง พวกเราไม่สามารถปล่อยให้นางน้อยเนื้อต่ำใจได้ ข้าไม่สามารถบังคับให้ท่านอ๋องมอบเกียรติให้กับนางได้ ข้าแค่ต้องการได้รับคำมั่นสัญญาจากท่าน ถ้าหาก.....ท่านอ๋องไม่สามารถมอบเกียรติให้นางได้ ไม่เช่นนั้นก็ให้นางแต่งให้ข้าเถอะ”
“เจ้ากำลังพูดอะไรอยู่ จะขอผู้หญิงของข้ารึ” สีหน้าของโม่จื่อเฟิงเข้มขึ้น แววตาของเขามองไปยังอู๋อี้นั้นเต็มไปด้วยสายตาประหัตประหาร เวลานั้น ชุดตัวยาวของเขาไม่มีลมพัดผ่านเข้าไปได้อย่างพิลึก
อู๋อี้ถูกพลังของเขาขู่จนถอยไปหนึ่งก้าว แต่ก็ยังเการังแคพยักหน้า “ใช่ ข้าอยากจะขอนาง ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรักใคร่ ข้าเพียงแค่ต้องการที่จะมอบเกียรติที่ถูกต้องให้กับนาง นางกำลังตั้งครรภ์ ถ้าหากว่านางยังเป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้ออกเรือนดูแล้วนางเกรงว่านางจะต้องได้รับการประณามมากมายแน่ ข้าไม่ยินยอมที่จะเห็นนางตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น ข้าสามารถเป็นสามีภรรยาของนางได้แค่ในนาม ขอเพียงแค่นางและลูกสามารถมีชีวิตที่มั่นคงเท่านั้น”
โม่จื่อเฟิงยิ้มเย็น เพียงแต่ยิ้มเย็นนั้นไม่ได้ยิ้มไปถึงตา เห็นชัดๆอยู่ว่าเขากำลังยิ้ม แต่ก็ทำให้ใจของคนนั้นหวาดหวั่นพรั่นพรึงได้
เห็นเขาไม่พูดอะไร อู๋อี้ก็กัดฟันคุกเข่าลง “ท่านอ๋อง ข้าขอร้องท่านด้วยความจริงใจ ถ้าหากท่านอ๋องตกลง ข้าอู๋อี้จะมอบทุกอย่างที่ร่ำเรียนมาให้ท่านอ๋องได้ใช้งานแน่”
โม่จื่อเฟิงยิ่งหัวเราะดังเข้าไปใหญ่ หัวเราะไปสักพัก ถึงได้หยุดแล้วพูดเสียงเย็น “ผู้หญิงของข้าอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..... ผู้หญิงของข้า ใต้ฟ้านี้ยังจะมีใครกล้าพูดได้อีกรึ”
เมื่อพูดประโยคนี้จบ โม่จื่อเฟิงก็เดินออกจากห้องไป ราวกับว่าเขากำลังเดือดดาลมาก ขนาดจินมู่เรียกเขาหลายครั้งเขายังไม่ตอบรับเลยสักคำ
อู๋อี้เห็นโม่จื่อเฟิงเดินจากไป กำมือแน่น ในตาของเขามีความเกลียดชัง แต่ที่มากกว่านั้นคือปวดใจ
เช่นเดียวกับโม่จื่อเฟิง เขาไม่ใช่แค่ชายคนหนึ่ง เขายิ่งเป็นถึงท่านอ๋องแห่งอาณาจักรหนานเยว่ เป็นพี่น้องกับจักรพรรดิ ตัวของเขาวางไว้ที่นั่น ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่สามารถให้ผู้หญิงซ่องนางโลมเข้ามาได้ เขายอมได้แต่จักรพรรดิเล่า เขาเป็นตัวแทนของทายาทกษัตริย์ เป็นศักดิ์ศรีของราชสำนัก
บางที เขามีความคิดเช่นนั้น ก็ตอนที่คนเหล่านั้นขายหลินซินเยียน
จินมู่รู้สึกเป็นห่วง สุดท้ายก็ได้แค่ถอนหายใจยาวยาวออกมา
ในห้องครัว หม้อเล็กใบหนึ่งกำลังมีเสียงน้ำเดือดปุดปุด ในหม้อต้มนั้น เครื่องยาจีนผสมรวมกัน ถูกต้มจนมีกลิ่นยาเข้มข้น
หมอหลวงเฉินนั่งอยู่หน้าหม้อ มองไปอย่างระมัดระวัง ไม่กล้ากระพริบตา
อู๋อี้เข้ามาในห้องครัวเตรียมจะต้มน้ำทำกับข้าว เมื่อเห็นหมอหลวงเฉินกำลังตั้งใจมากก็อดไม่ได้ที่จะเลื่อมใส เขารู้สึกว่าอยู่ด้วยกันสองคนนั้นวางตัวไม่ถูกเล็กน้อย เขาจึงเริ่มหาประโยคมาคุยเล่น “ท่านเป็นหมอในวังหลวงหรือ”
หมอหลวงเฉินกลอกตาขาว “ยังจะมีเรื่องโกหกอีกหรือ ท่านดูไม่เชื่อข้าก็ควรจะเชื่ออู่เซวียนอ๋องนะ”
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแค่รู้สึกว่าหมอหลวงที่ดูภูมิฐานอยู่ที่นี่ช่วยต้มยาให้ศิษย์น้องของข้า นั้นช่างเป็นเรื่องชมชอบที่น่าตกตะลึงก็เท่านั้น” อู๋อี้ต้มน้ำ ซาวข้าวแล้วนำใส่หม้อ
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ หมอหลวงเฉินก็จนปัญญาจนอยากจะร้องไห้ “จริงดังว่า แม้แต่ข้ารู้สึกเช่นนั้นไม่ได้ ข้านั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็เป็นหมอแนวหน้าของหมอหลวง ทุกวันนางสนมป่วยข้าเองก็อาจจะไม่ได้ไปรักษา ไม่คิดเลยว่าจะถูกท่านอู่เซวียนอ๋องพามาเป็นเด็กต้มยาเสียแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...