ตอนที่ 148 หนึ่งคู่เคียงคู่กันตลอดไป
อู๋อี้ดื่มน้ำชาจับเลี้ยง แต่กลับอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงเย็น ศิษย์น้องของเขานอนอยู่บนเตียงรับความทุกข์ยากลำบาก แต่อู่เซวียนอ๋องกลับใส่ชุดสีแดงแต่งเจ้าสาว
การเปรียบเทียบเช่นนี้ ทำให้เขานั้นกลืนโทสะลงไปได้อย่างยากลำบาก
เขารอไปแล้วหนึ่งชั่วยาม สุดท้ายเขาก็พบคนจำนวนหนึ่งที่ประเมินแล้วสวมเสื้อผ้าไม่เหมือนคนของอาณาจักรหนานเยว่ น่าจะมาจากแดนไกล อู๋อี้รีบชำระเงินค่าจับเลี้ยงแล้วเดินไปทางคนเหล่านั้น
ภายในห้องนั้นเงียบมาก โดยเฉพาะเมื่ออู๋อี้จากไป ยิ่งไปกว่านั้นแล้วไม่มีเสียงใดใดเกิดขึ้นเลย
หลินซินเยียนนอนอยู่บนเตียง หันหัวไปมองทางหน้าต่างที่มีสายรุ้งทอดอยู่บนท้องฟ้า สายรุ้งนั้นถูกแสงของดวงอาทิตย์สาดย้อมจนกลายเป็นแผ่นสีแดงสดใส
เป็นเพราะวันนี้เป็นวันมงคลใหญ่ของเขาดังนั้นแม้แต่ท้องฟ้าก็ยังเปลี่ยนกลายเป็นมีความปิติยินดีเช่นกันหรือ
นางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงประโยคในคัมภีร์นั้นว่า คลื่นลูกใหม่แต่งงานแล้ว เจ้าสาวกลับไม่ใช่ฉัน เมื่อก่อนเพียงแค่คิดว่าเป็นเรื่องหนึ่งของศิลปะแสดงพื้นบ้านเท่านั้น เมื่อได้ยินแล้วก็จบไป ตอนนี้ เมื่อสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง นางถึงได้รู้ว่าเรื่องเศร้ารันทดนี้ไม่ใช่เรื่องที่คนจะรับได้
ขณะที่ใจลอยอยู่ นางก็ได้ยินเสียงฆ้องและกลองดังขึ้น ขบวนงานสมรสนั้นเคลื่อนผ่านถนนยาวแล้วหรือ นางนึกถึงวันนั้นที่พนักงานร้านขายเสื้อพูด แม้แต่พนักงานร้านขายเสื้อยังตื่นเต้นที่จะไปดูเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เช่นนั้นทั้งสองข้างของถนนคงจะคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน
นางคิดว่า ครั้งนี้ที่ตนเองได้รับบาดเจ็บนั้นก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็เป็นการบังคับให้ตัวนางนั้นไม่ต้องไปบนถนนที่คึกคักนั้น ไม่จำเป็นต้องไปดูเขาสวมชุดมงคลขี่ม้าไปด้านหน้า ปกป้องเจ้าสาวที่งามหยดย้อยของเขาเข้าไปในวัง
เพียงแต่ ไม่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่เหตุใดในสมองของนางนั้นกลับเต็มไปด้วยจินตนาการถึงภาพเหล่านั้นเล่า
เล็บมือของนางจิกเข้าไปในเนื้อ นางกลับไม่รับรู้ความรู้สึกได้ นางคลุมผ้าห่มอยู่แต่กลับรู้สึกหนาวเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คุณหนู” เสียงของเอ้อร์ยาดังขึ้นภายในห้อง เมื่อหลินซินเยียนตอบสนองได้แล้วก็เห็นคนวิ่งถลาเข้ามาในห้อง
คนที่เข้ามา คือเอ้อร์ยาที่เดินทางมาอย่างลำบากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแน่ เมื่อนางได้รับจดหมายก็รีบเดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อกลับมา
เมื่อเอ้อร์ยาเห็นหลินซินเยียนนอนอยู่บนเตียงก็หน้าซีด หัวใจเจ็บแปลบ ล้มไปข้างเตียงร้องไห้ออกมา “คุณหนู เอ้อร์ยากลับมาแล้ว เอ้อร์ยาเพิ่งจะเห็น เพิ่งเห็น.....”
หลินซินเยียนยกมือขึ้นลูบหัวนาง พูดเรียบๆ “เห็นงานสมรสของอู่เซวียนอ๋องใช่หรือไม่”
เอ้อร์ยากัดริมฝีปากล่างแล้วพยักหน้า น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา มองแล้วเห็นหลินซินเยียนเสียใจ นางร้องไห้ไปคำรามไป “คุณหนู อู่เซวียนอ๋องสมรสแล้ว คุณหนูจะทำเช่นไรได้ จะทำเช่นไรเล่าได้......”
“เอ้อร์ยาเด็กโง่ เขาสมรสก็คือสมรส ไม่มีผู้ชายคุณหนูของเจ้าก็อยู่ไม่ได้แล้วหรือ” หลินซินเยียนเช็ดน้ำตาให้เอ้อร์ยา แล้วพูดอีกว่า “เอาละ ไม่ต้องร้องแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะรู้ว่าเขาจะแต่งงาน ไม่ใช่ว่ารู้เรื่องวันนี้ตั้งแต่เมื่อปีกลายหรอกรึ”
“แต่ว่ารู้ทั้งรู้ เมื่อได้เห็นด้วยตาตัวเองมันรู้สึกรับไม่ได้อย่างไรก็ไม่รู้” เอ่อยาสูดจมูก ยังหยุดน้ำตาไม่อยู่ “คุณหนู ท่านเสียใจก็ไม่ต้องปลอบแล้ว กลุ้มอกกลุ้มใจเช่นนี้ให้ตัวเองเสียใจไปทำไม”
มือของหลินซินเยียนลูบหัวนางไปเบาๆ สายตาของนางมองไปยังนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว เมฆที่อยู่บนท้องฟ้ายังคงมีสีสันเช่นเดิม นางกลับไม่มีความสนใจที่จะพูดอะไรอีก
ใช่แล้ว ปากของนางนั้นกำลังปลอบเอ้อร์ยา แต่ว่าใจของนางนั้นเจ็บเข้าไปจนถึงกระดูก นางกลุ้มอกกลุ้มใจไปเพื่อทำร้ายตัวเอง
นาง เสียใจจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...