ตอนที่169ซุ่มโจมตี
เนื่องจากมีทหารสิบนายดังนั้นหัวหน้าแซ่โจวจึงแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มห้าคนเป็นกลุ่มที่เหลือเอาไว้เฝ้ายามอีกห้าคนที่นั่งล้อมกองไฟไปหยิบเอาเสบียงอาหารแห้งที่นำตัดตัวมาได้ดื่มเหล้าขาวพวกเขาก็ถือว่าจัดการปัญหาอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว
หลินซินเยียนเหลือบมองไปทางคนพวกนั้นหนึ่งแวบเห็นไม่กี่คนราวกับไม่มีทีท่าจะแบ่งปันอาหารให้แก่ตนจึงพ่นลมหายใจหนึ่งเฮือกยันกายลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปป่าเล็กที่อยู่ข้างๆ
“ท่านจะทำอันใด”นายพลโจวเห็นนางลุกออกไปจึงรีบกระชากแขนนางกลับมา
พละกำลังของนายพลโจวนั้นมีมากการกระชากครั้งนี้ทำเอาหลินซินเยียนถลาล้มลงพื้นอย่างทุลักทุเล
หลินซินเยียนเงยหน้าจ้องเขาเขม็งจากนั้นจึงยัดกายปัดป่ายใบไม้ที่เกาะตามร่างกายออก“ท่านอ๋องของเจ้าให้เจ้าคุ้มกันข้าแต่มิได้บอกให้พวกเจ้าปล่อยให้ข้าทนหิวเอาล่ะพวกเจ้ามิเอาอาหารให้ข้า ข้าจะไปเก็บผลไม้ในป่าด้วยตัวเองยังจะมิได้หรือ”
หากว่าเปลี่ยนเป็นเวลาปกตินางก็ยินยอมที่จะอดอาหารไม่กี่มื้อโดยไม่ต้องออกหาอาหารเองในเวลาแบบนี้แต่ว่ายามนี้ในท้องของนางยังมีสุดที่รักอยู่อีกหนึ่งในช่วงเดือนแรกๆของทารกนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้ต้องการโภชนาการมากมายแต่ว่าปัจจัยและองค์ประกอบหลายอย่างกลับขาดตกบกพร่องมิได้เลยนางมิอาจให้ความเลินเล่อของตนส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้อุบัติเหตุต่อทารกในครรภ์มารดานั้นอาจส่งผลกระทบต่อชะตาทั้งชีวิตของทารกก็เป็นได้
นางมิเต็มใจผจญภยันตรายอีกอย่างนางมิได้ตั้งใจจะเดินไปไกลนักนางเพียงแค่อยากหาของกินรองท้องรอบๆบริเวณนี้เท่านั้นหากว่าไม่เดินไกลแล้วล่ะก็เสียงตะโกนของนางประเมินจากความสามารถของคนเหล่านี้แล้วคงจะรีบตามมาช่วยได้ทันการณ์
ทหารแซ่โจวผู้นั้นเอ่ยเสียงเย็น“ท่านอ๋องสั่งว่าให้พวกข้าดูแลความปลอดภัยของท่านแต่มิได้ตรัสให้พวกเรายกท่านเป็นนายที่จะออกคำสั่งเสบียงที่พวกเรานำมาไม่เพียงพอคงจะเลี้ยงแม่นางที่อ้อนแอ้นเช่นท่านมิพออีกอย่างหากท่านหนีพวกเราทั้งหมดคงรับผิดชอบทั้งหมดไม่ไหวแต่ว่าท่านจะเข้าไปในป่ารึก็มิใช่ว่าไม่ได้ถึงอย่างไรพวกเราก็แค่รับผิดชอบความปลอดภัยของท่านเรื่องอื่นพวกข้าไม่สน”
นายพลโจวพูดจบก็ชี้ไปยังทหารนายหนึ่งซึ่งกำลังดื่มน้ำอยู่พร้อมออกคำสั่ง“เจ้าไปกับนางอย่าให้นางหนีและอย่าให้นางบาดเจ็บส่วนเรื่องอื่นนั้นเจ้าไม่ต้องสน”แค่หผู้หญิงจากหอนางโลมคนเดียวเท่านั้นเขาไม่คิดว่าท่านอ๋องจะลงโทษพี่น้องกองทัพอุทัยเพื่อผู้หญิงคนเดียวหรอก
“ขอรับ”นายทหารวางกาน้ำลงพร้อมวิ่งมาหยุดตรงหน้าหลินซินเยียนแววเฉือดเฉือนบนใบหน้าไม่ได้มีการปิดบังแต่อย่างใด
หลินซินเยียนลูบข้อมือที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่ไม่ได้เหลือบมองคนเหล่านั้นอีกหันหน้ามุ่งตรงไปทางป้าข้างๆนายทหารเล็กผู้นั้นรีบวิ่งตามไปฉับพลัน
ภายในป่ามืดสนิทหลินซินเยียนมิได้รับการเลี้ยงดูฝึกสอนมาให้ใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบันเดินบนหนทางอย่างสะบัดสะเป๋เดินมาระยะทางเพียงกว่าสิบเมตรก็ถูกกิ่งไม้บาดแขนจนแสบร้าวเมื่อมองนายทหารเล็กผู้นั้นยามก้าวเดินผ่านระหว่างกิ่งไม้ระโยงระยางกลับไม่ได้เป็นอันใดแม้แต่น้อย
หลินซินเยียนเดินไปสักพักเท้าของนางไปเหยียบเอาช่องว่างจนทรุดลงไปโชคดีที่หลุมนั้นลึกเพียงแค่ครึ่งฟุตข้อเท้าของนางบิดแต่มิได้หักเพียงแต่ความเจ็บปวดบริเวณข้อเท้ายังทำให้นางเหงื่อแตกเย็นซิก
“ช่างเป็นหญิงที่ปวกเปียกเสียจริง!”นายทหารเล็กหัวเราะหยันได้มีกะใจจะยื่นมือมาช่วยสักน้อย
หลินซินเยียนกดกรามแน่นไม่ส่งเสียงเล็ดลอดออกมาอาศัยแสงสลัวๆของจันทรามองเห็นสิ่งแทนเครื่องค้ำตัวเป็นต้นไม้บิดเบี้ยวต้นหนึ่งพินิจดูถี่ถ้วนแล้วมันคือต้นสาลี่นางกระเผลกเท้าที่ได้รับบาดเจ็บเดินไปข้างหน้ามาถึงใต้ต้นไม้ก็เอื้อมมือปลิดผลสาลี่ทว่าความสูงนางไม่ถึงขาดเพียงระยะห่างแค่ครึ่งฟุตเท่านั้น
หลินซินเยียนก้าวถอยหลังทีละก้าวถอยเท้าพลางเอ่ยไปพลาง“พวกข้ามิใช่คนในหุบเขาพวกข้าเพียงแค่ผ่านทางมาท่านดูเถิดพวกข้ามิได้เข้าไปในหุบเขาแม้สักนิดพี่ใหญ่ท่านนี้...ท่านจะสังหารพวกเราไปเพื่อการใด”
นี่ก็เป็นสิ่งที่นางกังขาหากว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคือคนในหุบเขาเช่นนั้นทำไมไม่ไปซุ่มโจมตีพวกนางที่กลางหุบเขาหากว่าเป็นนักฆ่าที่มากำจัดโม่จื่อเฟิงเช่นนั้นโม่จื่อเฟิงได้เข้าไปในหุบเขาแล้วทหารไม่กี่นายยังไม่เพียงต่อทั้งยังทำให้พวกเขาสิ้นเปลืองแรงงานตั้งมากมายขนาดนั้นแต่ว่านางเป็นเพียงหญิงที่ไม่โดดเด่นข้างกายโม่จื่อเฟิงเท่านั้นนางมิสร้างศัตรูกับใครคนพวกนี้ก็ควรจะไม่ได้มาเพราะนาง
“ไม่สนใจว่าเจ้าจะแค่ผ่านทางหรือไม่เจ้าจะต้องตาย”ประโยคเดียวของชายชุดดำทำให้กลางใจของหลินซินเยียนสะทกสะท้าน
สดับฟังน้ำเสียงของชายชุดดำเป้าหมายของเขาคือนาง?
แรกเริ่มหลินซินเยียนมิปักใจเชื่อทว่าคิดอย่างถี่ถ้วนกลับรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงเนื่องจากตอนที่ชายชุดดำผู้นี้ลงมือสังหารนายทหารเล็กมิได้ลังเลหรือยึกยักแม้สักนิดยิ่งยามที่จะสังหารนางนั้นยังมีกะใจพูดคัยกับนางวิธีการแห่งช่วงเวลาที่ยืดยาดนี้นอกเสียจากว่านางเป็นเหยื่อของเขาก็นับว่าคุ้มค่าที่จะเสียเวลา
“เจ้าเป็นใครกันแน่เหตุใดจึงจะฆ่าข้า”คิดไม่ออกจริงๆลำคอหลินซินเยียนเฝื่อนขมนึกไม่ออกจริงๆว่าชายชุดดำผู้นี้สรุปแล้วเป็นขั้นอำนาจใดไม่นับว่าการหลบหนีลี้เร้นของนางครั้งนี้แม้แต่โม่จื่อเฟิงยังเปลืองเวลาตั้งมากมายในการไล่ล่าตามตัวนางส่วนผู้อื่นนั้นต่อให้นางมีศัตรูคู่แค้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามมาอย่างง่ายดายเพียงนี้!
น่าเสียดายครั้งนี้ชายชุดดำกลับมิได้ให้คำอธิบายใดๆแก่นางแล้วทำเพียงชูกริชขึ้นพร้อมเดินเข้ามาทางนาง“ข้าคนนี้ยามสังหารคนมีนิสัยอย่างหนึ่งขอเพียงแค่บรรลุหน้าที่ของข้าข้าล้วนให้นางเลือกวิธีตายได้เองเจ้าว่ามาเจ้าอยากถูกเชือดคอหรือแทงหัวใจหรือไม่ก็...เจ้ายังเลือกปลิดชีพตัวเองได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...