ตอนที่ 173 สรือโถว
“ให้ข้าดูแล?” ท่านโจวชี้ไปที่หน้าตนเองด้วยเข้าใจว่าตนฟังผิดไป “เจ้าหนุ่มนี่ล้อเล่นอะไรกัน เรือนข้าเดิมทีคนก็น้อยอยู่แล้ว มีงานเยอะมากทุกวัน จะมีเวลาว่างที่ไหนมาช่วยเจ้าดูแลแม่หนูคนนี้กันล่ะห๊า?”
“ท่านโจว….” อินฉีมองงเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิงวอน
หลินซินเยียนยากที่จะจินตนาการจริงๆ ว่าอินฉีผู้เย่อหยิ่งเองก็มีด้านที่ขอร้องคนด้วย ภายในใจเกิดความตื้นตัน จึงยอบกายคาราวะกับท่านโจวพลางกล่าวว่า “ท่านโจวเจ้าคะ ท่านโปรดวางใจ หากท่านรับข้าไว้ไม่เลี้ยงเสียข้าวสุกแน่นอน ถึงแม้ข้าจะไม่ถึงกับมีความสามารถ แต่หากเป็นงานทั่วๆไปข้าก็ยังสามารถจะจัดการได้เจ้าค่ะ”
ท่านโจวยังคงส่ายหน้า “ที่นี่คือโรงยาสมุนไพร งานที่นี่ล้วนต้องใช้ผู้ที่มีความสามารถจึงจะทำได้ เจ้าไม่เข้าใจในยาสมุนไพร อย่าได้สร้างความวุ่นว่ายเพิ่มก็นับว่าเมตตาแล้ว ยังหวังว่าเจ้าจะสามารถช่วยเหลือได้อีกหรือ? ไม่ได้ ไม่ได้ ยาสมุนไพรนั้นหากผิดพลาดแม้แต่นิดก็ฆ่าคนได้แล้ว”
หลินซินเยียนมองไปยังอินฉีด้วยความลำบากใจ อินฉีชะงักงัน จึงได้กล่าวบางอย่างที่ทำให้ทุกคนล้วนตกใจจนหน้าซีด
“ท่านโจว ซินเยียนได้ตั้งครรภ์ ให้นางไปอยู่ที่อื่นข้าไม่วางใจ อีกทั้งนางยังมีศัตรูตามไล่ล่าอีกด้วย มีเพียงที่แห่งนี้ของท่านที่มียาช่วยเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของนางได้”
“อะไรนะ?” ท่านโจวตกใจจนตาเบิกกว้าง “เจ้าบอกว่านางท้องอย่างงั้นรึ? นี่ นี่...คงไม่ใช่ลูกของเจ้าหรอกนะ”
หลินซินเยียนตั้งท่าขยับจะอธิบาย แต่เห็นอินฉีเอื้อมมือมากุมมือของนางไว้พลันแย่งนางพูด “ใช่ เป็นข้าเอง ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถให้นางไปอยู่ที่อื่น”
ท่านโจวเมื่อได้ยิน ทันใดนั้นใบหน้าก็กลายเป็นยับย่นเนื่องจากความลำบากใจ ดวงตาของเขามองไปที่อินฉีและหลินซินเยียนสลับไปมาตลอดเวลา ถอนหายใจพลาวส่ายศีรษะ “เจ้าหนุ่ม เจ้ามีลูกขึ้นมาได้อย่างไรเนี่ย เจ้าก็รู้ดีว่า...โธ่ จะทำอย่างไร จะทำอย่างไรดี สกุลอินของเจ้ามีสายเลือดสืบสกุลนี่ไม่ง่ายนัก แต่นี่มันยังไม่ใช่เวลานะ”
ถือโอกาสที่ท่านโจวยังลังเลสับสน อินฉีดูแลรินน้ำให้หลินซินเยียนด้วยตนเอง ถอดหมวกงอบของนางวางลง คนทั้งสองรออยู่สักพัก ท่านโจวจึงดูเหมือนค่อยบรรเทาลง
ท่านโจวเพิ่งสังเกตเห็นใบหน้าของหลินซินเยียนชัดๆ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอีกครั้ง พลันส่ายหน้าไม่หยุด “มิน่าล่ะเจ้าหนุ่มถึงถูกเจ้าล่อลวงจนหัวปักหัวปำ รูปงามขนาดนี้คงยากที่จะไม่หวั่นไหว เจ้าว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่เพียงยึดบ้านของข้า ยังต้องการยาอี้เหยียนตันของข้าอีก เจ้ารู้หรือไม่ว่ายาอี้เหยียนตันของข้านั้นหลอมยากขนาดไหน? ชั่วชีวิตของข้ายังหลอมออกมาได้ทั้งหมดเพียงสามเม็ดเท่านั้น!”
เห็นเขาตอบตกลงในที่สุด อินฉีจึงค่อยถอนหายใจเฮือกใหญ่และรินน้ำดื่มให้กับเขา พลางกล่าวปลอบใจว่า “ท่านโจว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ข้ารับปากท่าน ว่าจะหาสมุนไพรสำหรับหลอมยาอี้เหยียนตันให้ท่านสิบชุด”
“สิบชุด?” ท่านโจวมุมปากกระตุก “ที่เจ้าพูด ไม่ใช่สักแต่ว่าพูดไปเรื่อยนะ สมุนไพรของยาอี้เหยียนข้ารวบรวมมาหลายปียังได้แค่สามชุด ที่เจ้ากล่าวมาจะเชื่อถือได้สักเท่าไหร่กันเชียว ก็ได้ แม่หนู เจ้าก็อยู่ที่นี่ชั่วคราวก่อนแล้วกัน”
หลินซินเยียนได้ยินคนทั้งสองพูดบางอย่างเกี่ยวกับยาอี้เหยียนตัน นางไม่รู้เรื่องราวใดๆเหมือนสับสนอยู่ในเมฆหมอก จึงอดถามไม่ได้ “ยาอี้เหยียนตัน ใช่เป็นเม็ดยาที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ข้าได้อย่างสิ้นเชิงใช่หรือไม่? บนโลกยังมียาแบบนี้ด้วยหรือ?”
ท่านโจวถึงกับกลอกตาใส่ “แน่นอนว่ามี แม่หนูเจ้ามีบางสิ่งที่ควรจะรู้ไว้ แต่ถึงแม้จะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกได้แต่ก็ไม่ใช่ถาวรซะทีเดียว ยาหนึ่งเม็ดอย่างมากก็คงรูปไว้ได้ประมาณหนึ่งปีครึ่ง อีกอย่างถึงแม้จะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าตาได้ แต่ก็ยังมีข้อห้ามอย่างเช่นไม่สามารถดื่มสุราได้โดยเด็ดขาด เพียงแค่หยดเดียวประสิทธิภาพของยาก็จะหายไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...