ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 175

ตอนที่175 ยาอี้เหยียนตัน

นางเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นอินฉียืนอยู่ที่เบื้องหน้าของนาง เขาเอื้อมมือมารับตัวสรือโถว “ข้าจัดการเอง เจ้าท้องอยู่คงไม่สะดวก”

หลินซินเยียนพยักใบหน้าโดยไม่ปฏิเสธความหวังดีของเขา

หลังจากจัดแจงส่งสรือโถวเข้านอน อินฉีและหลินซินเยียนต่างก็แยกย้ายกลับห้องของตน ในที่สุดค่ำคืนนี้ก็เงียบสงบลง ท่ามกลางภูเขาไม่มีเสียงดังอึกทึก ที่สำคัญที่สุดคือการสามารถหลับได้อย่างไร้กังวล

หลินซินเยียนไม่ได้นอนหลับอย่างสบายใจตลอดคืนมานานมาก ในวันถัดมาจึงได้ตื่นช้ากว่าคนอื่น ยามเมื่อนางออกมาจากห้องก็พบว่าดวงตะวันขึ้นสายโด่งแล้ว

แต่กระนั้นหญิงชรายายหลิวที่ขาไม่ดีก็ยังคงตำสมุนไพรอยู่ภายในเรือน เมื่อนางเห็นหลินซินเยียนจึงพยายามยิ้มให้ เพียงแต่รอยยิ้มนั้นไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรนัก เมื่อคืนได้ยินอินฉีเล่าให้ฟังว่ายายหลิวเองก็น่าสงสาร ช่วงที่ยังเป็นสาววัยรุ่นคนในครอบครัวถูกโจรฆ่าล้างผลาญ ในตอนที่ลงมือฆ่าก็อยู่ต่อหน้าต่อตายายหลิว ดังนั้นการที่นางรอดมาได้ก็มหัศจรรย์แล้ว ในด้านนิสัยใจคอจึงมักจะเก็บตัวอยู่บ้าง

ดังนั้นหลินซินเยียนจึงไม่ถือสา ยิ้มส่งกลับไปให้นางอย่างอบอุ่น

“คุณชายอินและท่านโจวอยู่ในห้องยาด้านนั้น บอกไว้ว่าหากท่านตื่นแล้วก็ให้เข้าไปหาได้” ยายหลิวกล่าว

หลินซินเยียนพยักหน้ารับทราบ จึงมุ่งไปยังห้องที่ยายหลิวเพิ่งจะบอก หลังจากที่เคาะประตูได้ไม่นานอินฉีก็มาเปิดประตู “เจ้าตื่นแล้วหรือ? เห็นเจ้าหลับสบายเลยไม่ได้ปลุกเจ้า”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” หลินซินเยียนไม่ใช่สตรียุคโบราณ คร้านจะเขินอายเนื่องจากที่ตนนอนดึกตื่นสาย

“รีบเข้ามาเถิด ท่านโจวเตรียมยาอี้เหยียนตันให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว” อินฉีเอ่ยชวนให้หลินซินเยียนเข้าไป

ภายในห้อง เบื้อวหน้าของท่านโจวมีกล่องไม้จันทน์เรียบหรูใบหนึ่งวางไว้อยู่ เมื่อเห็นหลินซินเยียนเข้ามา ใบหน้าเขาราวกับเจ็บปวดแต่เขาก็ยังเปิดกล่องใบนั้นออกมาในที่สุด “เจ้าหนุ่มจะต้องจำในสิ่งที่เจ้าสัญญาไว้ให้ดี สมุนไพรสำหรับหลอมนาอี้เหยียนตันสี่ชุด อย่าได้บิดพริ้วข้าเด็ดขาด!”

“วางใจเถิด ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ข้ารับปากแล้วเชื่อถือมิได้” อินฉีกล่าวพลางกลั้วหัวเราะ

ภายในกล่องไม้จันทน์เป็นเครื่องลายครามทรงเหลี่ยมใบหนึ่ง ขอบของเครื่องลายครามปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งสีขาว ท่านโจวใช้มีดเล็กกรีดขี้ผึ้งขาวออกเบาๆ เมื่อเปิดเครื่องลายครามออก ด้านในมียาอี้เหยียนตันเม็ดหนึ่งขนาดประมาณเล็บมือ

สำหรับสิ่งที่เรียกว่ายาอี้เหยียนตัน ว่ากันตามจริงหลินซินเยียนไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก ในบันทึกชีวประวัติของเหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงในยุคโบราณ มีผู้ที่มีชื่อเสียงมากมายต้องตายลงเนื่องจากยาตัน แม้แต่การตายของจิ๋นซีฮ่องเต้ แม้แต่ในตำนานก็ยังกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวเนื่องกับการหลอมยาตัน

ท่านชายโจวหยิบเม็ดยาขึ้นมาแล้วยื่นส่งให้ เห็นใบหน้าของนางที่ดูไม่ค่อยเชื่อถือ จึงไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที “แม่หนู ไม่เชื่อวิชาแพทย์ของข้าใช่หรือไม่? ข้าจะบอกกับเจ้าไว้อย่าง ในใต้หล้านี้หากเจ้าไม่เชื่อวิชาแพทย์ของข้า เช่นนั้นก็ไม่มีหมอคนใดที่จะเชื่อได้แล้ว! เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้คนในยุคนั้นขนานนามข้าอย่างไร? ข้าน่ะนะ….”

“พอเถิด ท่านโจว วิชาแพทย์ของท่าน ซินเยียนไฉนเลยจะสงสัย นางเพียงแต่กลัวที่จะทานยาก็เท่านั้น ท่านจะเอาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆที่กลัวการทานยา” อินฉีตัดบทเขาอีกทั้งรับยาอี้เหยียนตันที่เขาให้มาป้อนเข้าปากของหลินซินเยียนด้วยตนเอง

หลินซินเยียนอึ้ง เมื่อเห็นว่านิ้วมือของเขาใกล้จะแตะกับริมฝีากของตน จึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“ซินเยียน เจ้าโตมาขนาดนี้ยังกลัวการทานยา พูดออกไปก็อายคนเปล่าๆ มาให้ข้าป้อนเจ้าดีกว่า เป็นเด็กดีเชื่อฟังทานยานะ แล้วข้าจะเอาผลไม้แช่อิ่มให้เจ้าทาน” น้ำเสียงที่อินฉีใช้ปลอบนางราวกับปลอบเด็กน้อยก็มิปาน ด้วยน้ำเสียงและการกระทำที่สนิทสนมเช่นนี้ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง ในช่วงเวลานั้นจึงลืมเรื่องที่จะปัดป้อง

หลินซินเยียนลูบคลำไปมาอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าไม่มีความรู้สึกใดๆที่ไม่สบายเลย บนใบหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหรือสีผิวก็ล้วนมีความเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังมองไม่ออกถึงร่องรอยใดๆที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับการทำศัลยกรรมไม่รู้ว่าระดับสูงกว่ากันตั้งกี่เท่า

“ท่านโจว ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางซาบซึ้งใจ มือยังคงวางอยู่บนใบหน้ามิยอมปล่อย

เห็นสีหน้าอันตกตะลึงของนางเช่นนี้ อินฉีรู้สึกว่าตลกดี “กลับสามารถเห็นด้านเปิ่นๆของเจ้าอย่างหาได้ยาก ทีนี้เจ้าก็วางใจเถิด ถึงแม้ว่าเจ้าจะยืนอยู่ต่อหน้าคนผู้นั้น เขาก็ไม่มีทางที่จะจำเจ้าได้”

หากรู้มาก่อนว่ายังมีวิธีเช่นนี้ หลินซินเยียนก็จะยอมเป็นคนหน้าหนารีบมาหาอินฉี และคงไม่จำเป็นจะต้องวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกมาตลอดทาง

“จำคำของข้าไว้ เมื่อทานยาอี้เหยียนตันเข้าไปแล้ว สิ่งต้องห้ามก็คือห้ามดื่มสุราโดยเด็ดขาด แม้แต่หยดเดียวก็ไม่ได้ มิเช่นนั้นก็จะฟื้นกลับคืนเป็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเจ้า อีกอย่าง ถ้าหากใบหน้าเริ่มขึ้นผื่นคันแดง ก็หมายความว่าประสิทธิภาพยาอี้เหยียนตันครบกำหนดแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นก็จะต้องมาหาข้า แต่ในทางกลับกันเจ้ายังต้องการอาศัยอยู่ที่นี่ ถึงประสิทธิภาพยาหมดแล้วก็ยังมีข้าอยู่อ่ะนะ” ท่านโจวกำชับอีกครั้ง

หลินซินเยียนจดจำจนขึ้นใจ

ด้วยใบหน้าที่แปลกไปอย่างสิ้นเชิง ความรู้สึกเช่นนี้ช่างวิเศษจริงๆ แต่ทว่าการที่นางผ่านประสบการณ์เป็นวิญญาณสวมร่างแบบนี้กลับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่า ดังนั้นเมื่อผ่านไปสักครู่จึงค่อยทำให้จิตใจสงบลง

ทุกอย่างก็ได้เข้าที่เข้าทางแล้ว อินฉีเองก็ควรจะจากไป ในฐานะที่เขาเป็นอินฉี งานเขายุ่งมากมายห่างไกลจากที่เห็นเพียงผิวเผิน ดังนั้นหลังจากที่ได้ทานมื้อกลางวัน เขาและผู้ติดตามก็จากไปด้วยกัน ก่อนที่เขาจะออกเดินทางเขายังคงสั่งกำชับหลายอย่างด้วยความรอบคอบ ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่กลับใส่ใจอย่างมาก

สุดแล้วเป็นท่านโจวที่ทนฟังต่อไปไม่ไหวจนต้องตัดบท พาเขาไปส่งเพื่อลงจากเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต