ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 176

สรุปบท ตอนที่176 วันไหว้พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

สรุปเนื้อหา ตอนที่176 วันไหว้พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง – ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง

บท ตอนที่176 วันไหว้พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง ของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่176 วันไหว้พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วง

ประเทศจีน มีตำนานเล่าขานอยู่เรื่องหนึ่ง หนึ่งวันในภูเขาเท่ากับหนึ่งปีบนโลก ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ตำนาน แต่ก็ยังมีเหตุผลบางประการอยู่ในนั้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ผู้คนจึงค่อยๆเพิกเฉยกับแนวคิดนี้เมื่อเวลาล่วงเลย

สำหรับหลินซินเยียนแล้ว พระอาทิตย์ท่ามกลางหุบเขา ทั้งเงียบสงบและอิสระ ในทุกๆวัน นางได้นอนหลับแต่ตื่นขึ้นมาเองตามอัธยาศัย หลังจากนั้นก็ติดตามสรือโถวไปจับปลาที่ลำธารในป่าบนภูเขาด้วยกัน ถึงแม้ว่านางไม่สะดวกที่จะลงน้ำ แต่การที่ได้นั่งอยู่ริมฝั่งมองดูสรือโถวไล่จับปลาขึ้นมาจากน้ำอย่างมีชีวิตชีวาก็เป็นเรื่องที่ครึ้มอกครึ้มใจมิใช่น้อย

ในยามเที่ยง นางก็ยังได้ตามติดยายหลิวทำอาหารด้วยกันในห้องครัว ถึงแม้จะไม่คล่องแคล่วเท่ายายหลิว แต่ทว่าหลังจากที่นางทำอาหารที่มีรสชาติในยุคปัจจุบันออกมาหลายอย่าง กลับทำให้ทุกคนได้ทานอย่างพออกพอใจ โดยเฉพาะ หม่าโผโตฟุหรือเต้าหู้ผัดพริกเสฉวน ซึ่งเป็นอาหารที่สรือโถวชอบทานมากที่สุด ทุกๆครั้งจะถูกความเผ็ดร้อนจนต้องแลบลิ้นปากพอง แต่กลับอดใจไม่ได้ที่จะตักน้ำแกงขึ้นมาซดทานต่อ

หลินซินเยียนเองก็นึกไม่ถึงว่าตนนั้นจะเคยชินกับการใช้ชีวิตภายในภูเขาได้ ที่แห่งนี้ไม่มีแนวคิดลำดับชนชั้นใดๆ กระทั่งแม้แต่ยามที่ทานข้าว ทุกคนต่างก็ล้อมวงทานโต๊ะเดียวกันโดยไม่มีการแบ่งออกเป็นสองโต๊ะ และในยามนี้นางจึงได้รู้ว่า ในสายตาของพวกเขาแล้วมีเพียงอินฉีที่เป็นนาย ดังนั้นเมื่ออินฉีจากไป พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแบ่งโต๊ะเพื่อรับประทานอาหารอีก

วันเวลาที่ผ่านไปอย่างมีความสุข และท้องของนางเองก็ใหญ่ขึ้นทุกวันๆ เพียงชั่วพริบตาฤดูใบไม้ผลิก็ล่วงเลยผ่านและฤดูร้อนก็มาเยือน เมื่อมองเห็นฤดูใบไม้ที่กำลังค่อยคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ ท้องของนางก็อยู่ในสภาพที่กลมใหญ่

ในหลายเดือนที่ผ่านมาอินฉีได้มาเยี่ยมหลายครั้ง นำขนมและเสื้อผ้าจากในเมืองมาบางส่วน ทว่าช่วงเวลาที่เขาพักอยู่นั้นไม่นาน ทุกๆครั้งก่อนเข้าวันถัดไปก็รีบออกเดินทางอย่างรีบเร่ง สำหรับข่าวสารภายในเมืองของโม่จื่อเฟิง เขาไม่เคยกล่าวถึงเลยสักครั้ง

มีบางครั้งที่หลินซินเยียนใคร่อยากจะถาม เพียงแต่คำพูดนั้นติดอยู่ที่ปากเสียทุกครั้ง สุดท้ายเรานางจึงต้องกลืนคำถามนั้นลงไป

สำหรับโม่จื่อเฟิง แม้แต่นางก็ไม่เข้าใจว่าคิดอย่างไรกันแน่ เห็นได้ชัดว่าสำหรับนางแล้วเขาคือการคงอยู่ของปีศาจร้าย แต่ทว่าด้วยท้องที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน จำนวนครั้งที่นางคิดถึงเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น นางบอกกับตนเอง คงเป็นเพียงเพราะเขาเป็นพ่อของลูกในท้องนางก็เท่านั้น

ใช่แล้ว นึกถึงคนที่แบกท้องในละครทีวีสมัยก่อน ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลโดยที่สามีไปเป็นเพื่อน บนใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แต่นางล่ะ ไม่เพียงแค่ตั้งท้องเท่านั้น แม้แ่ยามที่ต้องคลอดออกมาในอนาคต นางไม่กล้าที่จะคิดฝันแม้แต่น้อย

นางบอกกับตนเองอยู่ตลอดว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรน่า เพียงแค่ลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว

ค่ำคืนกลางฤดูใบไม้ผลิที่พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ลอดผ่านมาตามไรกิ่งไม้สะท้อนลงมาเป็นเงาแสงจันทร์

ภายในเรือนขนาดย่อมท่ามกลางภูเขา หลินซินเยียนได้ทำขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์ เพลิดเพลินกับการชมจันทร์ภายในเรือนกับพวกท่านโจว สรือโถวชอบทานขนมที่หลินซินเยียนทำอย่างมาก มือซ้ายขวาต่างถือขนมเปี๊ยะทั้งสองข้างพลางเคี้ยวตุ้ยๆ ชวนให้นึกถึงกระรอกน้อยจอมตะกละที่ทั้งน่ารักและใสซื่อ ยายหลิวเองก็เผยรอยยิ้มยินดีอย่างหาได้ยาก

กลับเป็นท่านชายโจวที่ถอดหายใจไม่หยุดหย่อน หลังจากที่ดื่มสุราไปหลายถ้วยก็พูดไม่หยุด “นึกถึงเมื่อตอนนั้น ข้าเองก็นับว่าเป็นบุคคลที่หล่อเหลาผู้หนึ่ง ทำไมจึงได้ระหกระเหินมาหลบซ่อนตัวป่าลึกในภูเขาเพื่อเจ้าหนุ่มนั่นกันนะ ข้ายังหนุ่มอยู่นะเฟ้ย กว่าทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วง ข้าก็คงแก่เฒ่าแล้วแน่ๆ…”

โม่จื่อเฟิงที่กำลังหยิบกาเหล้าขึ้นมา สีหน้าเขาพลันดิ่งลง ใช่แล้ว นั่นเป็นเพราะว่านางแตกต่างจากสตรีคนอื่นๆของเขา สตรีเหล่านั้นคิดฝันจะปีนขึ้นเตียงของเขา หลังจากที่เสร็จกิจไม่ใช่ว่าต้องคิดอยากจะพึ่งพิงไต่เต้าเขาหรือ? แต่นางกลับไม่ ครั้งแรกนั้นนางแทบทนรอไม่ไหวที่จะจากไป ในภายหลังนั้นหากไม่ใช่ว่าเขาบังคับให้นางอยู่ข้างกาย เกรงว่าตลอดชีวิตของนางก็คงไม่ยินยอมที่จะปรากฏออกมาที่เบื้องหน้าของเขา

เขารู้มาตลอดแม้การแสดงออกของนางจะอ่อนโยนและเชื่อฟัง แต่เนื้อแท้ของนางกลับไม่เคยปฏิบัติกับเขาอย่างจริงใจ! สตรีที่ไม่เคยใช้ความจริงใจกับเขาเช่นนี้ กลับทำให้เขายากที่จะปล่อยหลุดมือไป! เหตุใดจึงน่าตลกเยี่ยงนี้?

เขาคิดว่า ก็เป็นเพียงสตรีผู้หนึ่งเท่านั้น ไปก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างไรข้างกายเขาก็ไม่เคยขาดสตรีอยู่แล้ว แต่ใครจะรู้ได้ ตั้งแต่ที่นางจากไป คาดไม่ถึงว่าเขากลับไม่ได้แตะต้องกับสตรีอื่นเลย! แม้แต่ในยามที่พิษกำเริบ เขาก็ใช้การข่มต้านเลือดกิเลน

“ท่านอ๋องเพคะ นี่เป็นขนมที่ข้าทำมาเอง ได้ยินว่าท่านอ๋องกำลังชมจันทร์ ข้าจึงรีบนำมาให้ท่านอ๋องด้วยตนเองเพคะ” เซียวอวิ๋นฉินที่สวมอาภรณ์บางเบาเดินถือตะกร้าไผ่สานภายใต้แสงจันทร์

เซียวอวิ๋นฉินก็นับเป็นสตรีที่งามเลิศ ยามนี้ที่นางแต่งตัวสวมใส่ชุดคลายร้อน ภายใต้ชุดผ้าไหมนั้นยังสามารถเห็นเรือนร่างของนางได้ลางๆ

จินมู่แค่เพียงเหลือบมองชั่วครู่ก็รีบถอนสายตากลับ ทำการคารวะโม่จื่อเฟิงแล้วก็รีบหลีกหนีออกไปในทันที

ภายในเรือนจึงเหลือเพียงโม่จื่อเฟิงกับเซียวอวิ๋นฉิน โม่จื่อเฟิงกลับไม่ได้แลมองมาที่นาง เพียงกล่าวด้วยความเย็นชา “เจ้ามาทำอะไร?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต