อ่านสรุป ตอนที่ 218 ทำให้ฮองเฮาคับแค้นใจเช่นเดียวกัน จาก ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง
บทที่ ตอนที่ 218 ทำให้ฮองเฮาคับแค้นใจเช่นเดียวกัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 218 ทำให้ฮองเฮาคับแค้นใจเช่นเดียวกัน
แม่นมซุนหาได้กล้ายึกยักเสียที่ใด รีบกระเสือกกระสนออกไปแบบขี้หดตดหาย
คอยปรนนิบัติอยู่ในห้องโถงใหญ่ยังมีนางในสิบกว่านาง ได้เห็นฉากนี้ทำให้กลางใจของทุกคนมีข้อพิพาท อย่างน้อยต่อไปนี้นอกเหนือจากได้รับบัญชาของฮองเฮาเอง มิเช่นนั้นพวกนางก็มิกล้ารังแกหลินซีนเยียนตามใจชอบได้อีกแล้ว
มีนางในเก็บกวาดถ้วยชาที่แตกเป็นชิ้นๆ จนสะอาดเอี่ยม โม่จื่อเฟิงกลับไม่มีวี่แววจะจากไปเลยสักน้อย กลับมองไปทางฮองเฮา ฮองเฮาถูกเขาจ้องเสียนจนหนังศีรษะเหน็บชาไม่น้อย ครู่ต่อมา จึงเอื้อนปุจฉาอย่างอดทนไม่อยู่ “ท่านอ๋อง ท่านมองหม่อมฉันเยี่ยงนี้ มีข้อกังขาอันใด”
เสมือนโม่จื่อเฟิงเองก็รอคอยประโยคนี้ของนาง พอนางถาม เขาพลันเอ่ยทันใด “ข้าไม่มีปัญหา แต่ว่านางมี” ยามเมื่อเขากล่าว ก็หันกายดึงหลินซีนเยียนออกมา
หลินซีนเยียนต้านแรงดึงมหาศาลของเขาไม่ไหว ซัดเซล้มพับเข้ากลางอ้อมกอดของเขา ผู้คนมากมายกำลังมอง เค้าหน้านางเรื่อแดงอย่างอดมิอยู่ นึกอยากยันกายขึ้นทันที แต่ผู้ใดจะรู้ว่าโม่จื่อเฟิงกลับกดให้นางอยู่ในอ้อมอก ซ้ำยังเอื้อมมือไปไล้บนนลาฏนางแผ่วเบา
“อืม ตัวร้อนจริงๆ ด้วย แช่อยู่ในน้ำเย็นครึ่งค่อนวันจนจับไข้แล้วสินะ” โม่จื่อเฟิงกล่าววจีพลางทำสีหน้าเห็นอกเห็นใจ
อู่เซวียนอ๋องตรวจไข้ได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน นี่เพียงแค่แตะหน้าผากเพียงแวบเดียวก็บอกว่านางจับไข้แล้ว ทักษะปากว่าตาขยิบนี้ ใต้หล้าคงไร้ศัตรูมาเทียมทัดแล้ว
หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก เสแสร้งแกล้งทำแบบไร้ยางอายของใครบางคนทำให้นางได้ตระหนักถ่องแท้เป็นแน่แล้ว
พระนางฮองเฮาเองก็ถูกเขาข่มขวัญอยู่ไม่น้อย ชะงักอยู่ครู่จึงมีปฏิกิริยาตอบสนอง นัยน์เนตรของนางแอบซ่อนแววขมขื่น ทว่าเห็นท่าทีรอฟังคำกล่าวอย่างแน่วแน่ของโม่จื่อเฟิง ก็ไร้ทางเลือก
ในที่สุด ฮองเฮายังคงถอนหายใจหนึ่งเฮือกพลางตรัส “แม่นางหลินจับไข้ในที่ของหม่อมฉัน หม่อมฉันดูแลไม่รอบด้านแล้ว”
“อืม ถึงแม้ข้ามิได้โทษว่าฮองเฮาผิด แต่ข้อเท็จจริงเป็นประการนี้” โม่จื่อเฟิงแสร้งพยักหน้านิ่วคิ้วขมวด “แม้ข้าจะไม่ถือสา แต่ว่าร่างกายของเด็กคนนี้ปวกเปียกอยู่หน่อย หากจับไข้อีกครั้ง ต่อไปไม่แน่ร่างกายอาจพิกลพิการ”
จับไข้ครั้งเดียวร่างกายจะพิกลพิการ คำกล่าวเช่นนี้ช่างสดใหม่ยิ่ง นับประสาอะไร เขาเพียงมองด้วยตาเปล่าก็เห็นว่านางจับไข้แล้ว?
ฮองเฮากริ้วจนกระอักเลือดในตรม รอยสรวลบนพระพักตร์ค่อนไปทางตึงเครียด ทว่ายังคงกัดทนต์ตรัส “ท่านอ๋องมิต้องพะวงใจ หม่อมฉันยังมีโสมพันปีชั้นเลิศ เมื่อกลับไปจะสั่งคนตุ๋นมาให้แม่นางหลินบำรุงร่างกาย”
“หากเป็นเช่นนี้...ก็ดี” สีหน้าของโม่จื่อเฟิงเย็นลงไม่น้อย “แต่ว่า ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาได้ว่านแพวหมื่นปี เช่นนั้นก็ตุ๋นรวมกันเลยเสีย ดูแลร่างกายเด็กคนนี้ดีสักหน่อย
ว่านแพวหมื่นปี!
ฮองเฮาเมื่อสดับ ทั้งพักตร์แลสองเนตรล้วนลมจับ ว่านแพวหมื่นปีนั่นเป็นสิ่งที่คนใต้บัญชาของนางใช่เวลากว่าหลายปีจึงเสาะพบแถบชายแดน กะว่าจะใช้บำรุงถนอมร่างกายเพื่อไว้คลอดโอรสธิดาแด่ฮ่องเต้ คาดไม่ถึงว่าจะถูกคนเหลี่ยมจัดอย่างโม่จื่อเฟิงเพ่งเล็งเสียแล้ว
เพียงแต่ วันเวลาสงบเกษมสันต์เช่นนี้ก็ติดต่อกันมาเพียงสามวันเท่านั้น เนื่องจากช่วงนี้ ในวังต้องจัดงานเลี้ยงดอกเหมย กล่าวคือชูกุ้ยเฟยที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานที่สุดได้เชิญพ่อครัวที่ชำนาญด้านการใช้ดอกเหมยปรุงอาหารคนหนึ่งจากบ้านเกิด ทรงอยากให้เหล่าพี่น้องชาววังได้ลิ้มลองสำรับอาหารรสชาติละเมียดละไมคลุ้งกลิ่นหอมรัญจวนจากดอกเหมย
ฮ่องเต้ย่อมเบิกบานเป็นแน่ วังหลังครื้นเครงคึกคักคือสิ่งที่ฮ่องเต้ทุกพระองค์ล้วนโปรดทอดพระเนตรสดับฟัง เรื่องราวเช่นนี้ย่อมได้รับการหนุนหลังเป็นธรรมดา ดังนั้นจึงเร่งออกราชโองการให้เหล่าสนมในวังล้วนไปร่วมงานเลี้ยง
ทว่าผ่านไปไม่นาน เหล่าหญิงสาวที่ผ่านการคัดเลือกเพิ่งถูกส่งเข้าวัง งานเลี้ยงในครั้งนี้กลับยังมีเหล่านางสนมคัดเลือกปรากฏกายด้วย ฉะนั้นงานเลี้ยงครั้งนี้ได้รับสมญานามว่ามีสีสันที่แตกต่างจากข้างใน
งานเลี้ยงเช่นนี้ ฮองเฮาจำต้องเป็นประธานพิธี จุดประสงค์นั้นง่ายมาก เพียงแค่อยากแสดงอำนาจบาตรใหญ่ให้เหล่านางสนมคัดเลือกได้ประจักษ์ ข้าหลวงในวังเกือบทุกคนจำเป็นต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง หลินซีนเยียนที่ถือว่าเป็นแขกย่อมมิได้ถูกลืมเลือนเป็นธรรมดา ดังนั้นนางจึงได้รับโองการให้เข้าร่วมงานพิธีจากฮองเฮาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว
หลินซีนเยียนไม่มีอำนาจสิทธิ์ในการปฏิเสธ ดังนั้นจึงผลัดเปลี่ยนมาสวมอาภรณ์สีม่วง หยิบปิ่นมุกหนึ่งอันตามอำเภอใจมาเสียบไว้ในมวยผมแล้วเดินตามนางกำนัลนำทางไปยังพิธีงานเลี้ยง
ในเมื่อเป็นงานเลี้ยงดอกเหมย สถานที่จัดงานย่อมถูกเลือกให้ตระเตรียมในสวนดอกเหมยนับว่าสมเหตุผล สถานที่วังหลวงกว้างใหญ่ไพศาล ระดับความฟู่ฟ่าของสวนดอกเหมยก็ทำให้หลินซีนเยียนอ้าปากค้างตะลึงเพริศ ทอดสายตาออกไป ก็มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด หากแม้นว่าพำนักอยู่ในนี้ เดาว่าคงง่ายดายนักที่จะลืมว่าตนดำดิ่งเข้าสู่กับดักแห่งวังหลวงอันไพศาลแห่งนี้
หลินซีนเยียนเพิ่งเดินถึงด้านของป่าเหมย ก็มองเห็นข้าหลวงสี่ห้านางซึ่งแต่งองค์ทรงเครื่องงามงดสะพรั่งพราวซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเดินเข้ามา ชุดประจำกายพวกนางกับนางกำนัลไม่เหมือนกัน น่าจะเป็นนางสนมคัดเลือกที่เพิ่งเข้าวังครั้งนี้ เพียงแต่...
“ใช่นาง?” หลินซีนเยียนชะงักเท้า คิดไม่ถึงว่าจะพบคนรู้จักในนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...