ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 226

สรุปบท ตอนที่ 226 ความอ่อนโยนของเขา: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 226 ความอ่อนโยนของเขา – ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง

บท ตอนที่ 226 ความอ่อนโยนของเขา ของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 226 ความอ่อนโยนของเขา

อวิ๋นเสียวอิงตอบตกลงในทันที เพียงแต่ในขณะที่นางก้มศีรษะลง ได้เผยรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากโดยที่จินมู่ไม่เห็น

จินมู่นำอวิ๋นเสียวยิงเข้าไปยังด้านในเรือน เขายืนอยู่ที่ด้านข้างราวกับไม่ค่อยไว้ใจ อวิ๋นเสียวอิงเห็นเขามีท่าทีระแวดระวังเช่นนี้ในใจก็ยิ่งยิ้มหยัน ทว่าใบหน้ากลับยังแสดงความอ่อนโยนไร้เดียงสา “ท่านหัวหน้าจินมู่ ท่านไม่ควรที่จะไม่เชื่อตัวข้าเช่นนี้ ในสายตาของท่าน ข้าเป็นบุคคลที่ท่านไม่สามารถไว้วางใจแบบนั้นหรือ?

แม้ว่าภายในใจจะคิดเช่นนี้จริง แต่จินมู่ก็ไม่อาจที่จะกล่าวออกมาได้ตรงๆ “แม่นางเสียวอิงถือสาแล้ว ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น”

มิได้หมายความเช่นนั้นแต่ท่านก็ยังคงอยู่ที่นี่จับตามองข้า?” เสี่ยวอิงชม้ายตามอง กล่าววาจาด้วยน้ำเสียงล้อเล่น แต่คำพูดไม่ได้ล้อเล่นเหมือนคำที่แสดงออกมา

จินมู่ถูกนางว่ากล่าวจนกระอักกระอ่วน จะอยู่รั้งหรือจะจากไปในยามนั้นก็ล้วนลำบากใจไม่น้อย

ในขณะนั้นบังเอิญหลินซินเยียนเปิดประตูออกมาพอดี หลินซินเยียนที่กำลังเดินหาวออกมาจากห้อง ทันทีที่เห็นอวิ๋นเสียวอิงในเรือนก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว พลันอยากจะชักเท้าถอยกลับ

เดิมทีคิดไว้ว่าจะทำเป็นเมิน ใครจะรู้ว่าอวิ๋นเสียวอิงกลับมุ่งเข้ามาหานาง “พี่หลิน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อคืนหลับไม่สบายหรือ ขอบตาเจ้าดำคล้ำเชียว”

ถูกทรมานอยู่ค่อนคืนจะหลับสบายได้อย่างไร? หลินซินเยียนคิดเช่นนี้ในใจ แต่ใบหน้ากลับเจือไปด้วยรอยยิ้ม เห็นสายตาของอวิ๋นเสียวอิงมองเลยไปยังทางด้านหลังของนาง นางจึงก้าวออกมาจากห้องเกือบจะโดยสัญชาตญาณ หลังจากนั้นก็พลิกมือปิดประตูห้องให้ตัดขาดจากสายตาของอวิ๋นเสียวอิง

“เฮ้อ ขัดขวางข้าขนาดนี้เลยหรือเนี่ย” อวิ๋นเสียวอิงหัวเราะเยาะหยัน

หลินซินเยียนไม่สนใจปะทะคารมกับนาง ขณะที่เดินมุ่งไปยังห้องครัวพลางกล่าวว่า “แม่นางเสียวอิงมาเช้าขนาดนี้ มีเรื่องอันใดหรือ?”

“ย่อมไม่ใช่มาหาเจ้า เหตุใดต้องใส่ใจ?” อวิ๋นเสียวอิงกล่าวเช่นนี้ แต่ฝีเท้ากลับก้าวตามติดหลินซินเยียน นางโน้มมากระซิบข้างใบหูของหลินซินเยียน “พี่หลิน เมื่อคืนข้าอยู่นอกเรือนได้ยินเสียงท่านร้องช่างเวทนายิ่ง อย่างไรกัน ในเรื่องนั้นท่านอ๋องไม่อ่อนโยนกับเจ้าหรือ?”

“หลินซินเยียนชะงัก นึกไม่ถึงว่าอวิ๋นเสียวอิงจะกล่าวออกมาเช่นนี้ นางหันกลับไปมองอวิ๋นเสียวอิงด้วยความประหลาดใจ พลางยักคิ้วถาม “อย่างไรกัน เจ้าอิจฉาหรือ?”

ในเรื่องนั้นแต่ไหนแต่ไรโม่จื่อเฟิงก็ไม่เคยอ่อนโยนอยู่แล้ว สำหรับหลินซินเยียนแล้วมันก็เป็นปัญหาที่ยากจะแก้ ตั้งแต่ที่เริ่มบอกปัดในครั้งแรก ยอมรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งถึงตอนนี้นางดูเหมือนจะเคยชินกับความหยาบคายที่มากเกินไปเสียแล้ว

แม้กระทั่งในครั้งแรกที่ไม่ได้ทำกับเขาแค่ครั้งเดียว รู้สึกเจ็บปวดทรมานเหลือล้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ทว่าตอนนี้ ร่างกายของนางไม่เพียงมีความรู้สึกร่วม แม้แต่ทางจิตใจก็ดูเหมือนมีความรู้สึกอันรื่นรมย์ในช่วงเวลาที่เขาปลดปล่อย

นางไม่เคยคิดว่าตนเป็นโรคทรมานตัวเองแต่สำหรับเรื่องนี้แล้วนางก็รู้สึกว่าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตของนางท้ายที่สุดแล้วความทรมานก็คือความสุขงั้นหรือ?”

เดิมทีก็ไม่ได้สนใจใยดีในคำพูดนั้น แต่ด้วยเหตุใดกันกลับทำให้หัวใจนางสั่นไหวไม่หยุด ตั้งแต่เมื่อไรที่นางเริ่มใส่ใจอดีตของโม่จื่อเฟิง?

แขนของหลินซินเยียนยังเจ็บอยู่ไม่สามารถทำงานหนักๆได้ ทว่ายามที่ตื่นมาในตอนเช้า นางหันไปก็มองเห็นโม่จื่อเฟิงนอนหลับอยู่ด้านข้างอย่างสงบ ช่วงเวลานั้นหัวใจของนางราวกับจะกระโดดออกมา ได้ จนทำให้เกิดแรงกระตุ้นบางอย่างที่อยากจะเตรียมสำรับมื้อเช้าให้กับเขา ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างระมัดระวัง เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อออกมาจากห้องก็ดันเจอเข้ากับอวิ๋นเสียวอิงเสียนี่

นางถอนหายใจ ลงมือทำอาหารเช้าอย่างไร้อารมณ์ อีกทั้งรู้สึกปวดแขนข้างซ้ายมากขึ้น บังเอิญเจอม้านั่งตัวเล็กจึงนั่งลงอยู่ที่ข้างเตา

ความคิดต่างๆล่องลอยไปไกล ยามที่สตินางกลับมา ก็ตอนที่หมอหลวงเฉินเดินเข้ามานั่งยองๆด้านข้างด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ

“นังหนู เจ้าทำอะไรอยู่?” หมอหลวงเฉินมองนางที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย

หลินซินเยียนฝืนยิ้ม พลันส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ เพียงแต่หิวเล็กน้อย จึงคิดจะมาหาของว่างทาน”

หมอหลวงเฉินได้ฟังก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก “เป็นไปไม่ได้หรอก ข้าเห็นท่านอ๋องใส่ใจเจ้าจะตาย ไม่มีเหตุผลที่จะให้เจ้ามาหาของทานเองหรอกน่า ใช่แล้ว ข้าเพิ่งเข้าไปเมื่อสักครู่ เห็นว่าประตูห้องของเจ้าเปิดไว้อยู่แล้วก็เหลือบไปเห็นว่าบนโต๊ะยังจัดวางขนวไว้ตั้งหลายอย่างไม่ใช่หรือ? ถ้าเจ้าหิวก็รีบกลับห้องไปทานซะ อย่าได้มายึดห้องครัวที่นี่เลย เก็บไว้ให้ข้าต้มยาให้เจ้าเถอะ เจ้าฟิ้นตัวไว ตาแก่อย่างข้าก็จะได้หลุดพ้นเร็วๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต