ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 253

ตอนที่ 253 ลงมือจัดการนางด้วยตัวเอง(2)

หลังจากที่มีเสียงดัง ทั้งสองกระเด็นไปคนละทาง ชายผ้าคลุมดำชนเข้ากับผนังตรงปากถ้ำ อีกนิดเดียวก็จะกระเด็นออกไปนอกถ้ำแล้ว

ฝั่งโม่จื่อเฟิงกระแทกกับผนังข้างเตียงอย่างแรง หินแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ฝุ่นลอยคละคลุ้ง เขาฟุบลงไปที่พื้นอย่างแรง ตอนที่ลุกขึ้นมาเขาเช็ดเลือดที่มุมปาก

“ไม่น่าเชื่อผ่านไปนานหลายปี วิทยายุทธของเจ้าพัฒนาไปมาก แบบนี้แสดงว่าเจ้าฆ่าเด็กน้อยหญิงชายไปไม่น้อย”โม่จื่อเฟิงร่างกายสั่นเทาครู่หนึ่งแต่ก็เพียงแค่ครู่หนึ่งเท่านั้นไม่ทันที่ใครจะเห็น

แต่เมื่อหลินซีนเยียนได้ฟังที่เขาพูด ก็เบิกตาโต เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ชายผ้าคลุมดำทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว แต่เธอไม่คิดว่าเด็กน้อยหญิงชายจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับวิทยายุทธของเขา ส่วนมันเกี่ยวข้องกันยังไงเธอไม่กล้าคิดและไม่อยากที่จะคิด

ชายผ้าคลุมดำหัวเราะ “ข้าก็คิดไม่ถึงเลย ว่าเด็กน้อยอย่าเจ้าตอนนั้น โตมาแล้วจะมีพละกำลังเทียบเท่ากับข้า ไม่เสียชื่อที่เป็นคนแรกที่ผ่านการทดสอบจากตระกูล”

“หุบปากซะ!พูดไปก็ไม่มีประโยชน์วันนี้ ข้าจะเอาชีวิตเจ้า!”โม่จื่อเฟิงคำรามและพุ่งไปหาเขา

ชายผ้าคลุมดำไม่ได้แสดงออกว่าเกรงกลัวแต่อย่างใด แถมยัง ดูเหมือนว่าชายผ้าคลุมดำจะมีความสนุกตื่นเต้น

ทั้งสองปะทะกันอีกรอบ ตอนที่มีการชนกระแทกเกิดขึ้น ถ้ำทั้งถ้ำเกิดการสั่นไหว แผนกดินไหวแบบนี้เกิดมาจากการต่อสู้ของทั้งสองคน ครั้งนี้ทำให้หลินซีนเยียนได้รู้จักวิทยายุทธมากขึ้นไปอีก

เพียงแต่ว่า ความจริงเลวร้ายกว่าที่คิดไว้ ตอนที่ร่างโม่จื่อเฟิงกระแทกเข้ากับเตียงหินอย่างแรงนั้น ใจเธอเจ็บปวดเหมือนโดดมีดแทงเข้ามา

โม่จื่อเฟิงกระอักเลือดออกมา หลังกระแทกเข้ากับเตียงหิน แรงกระแทกทำให้เตียงหินแยกแตกออก เขาหันกลับไปมอง

เห็นชุดของหลินซีนเยียนโดนแรงกระแทกออก เผยให้เห็นขาอันเรียวงาม แววตายิ่งเพิ่มความโกรธแค้น ฮึดสู้ลุกขึ้นยืนและอุ้มหลินซีนเยียนไว้ในอ้อมแขน

อู๋จิ้นก็เหมือนว่าได้รับบาดเจ็บหนัก เขาลุกขึ้นมาพร้อมส่ายหัว “ช่างน่าเสียดายจริงๆ เจ้าเป็นผู้สืบทอดที่ดี ทำไมถึงไม่อยากยุ่งกับตระกูล?เจ้าใช้เลือดกิเลนระงับพิษที่อยู่ในตัวเจ้ามานาน มิน่าละผลข้างเคียงถึงได้น้อย เจ้าว่า……เจ้าที่เป็นแบบนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าดี หรือให้เจ้ามองดูแม่นางผู้นี้ตาไปต่อหน้าเจ้าดี?”

โม่จื่อเฟิงแบกหลินซีนเยียน ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “อย่างเจ้านะรึที่จะฆ่าข้า?”

“ฮ่าๆ……ขนาดนี้แล้ว ยังจะมาอวดดี ช่างเถอะๆ ข้าก็ไม่อยากจะพูดกับเจ้าให้เสียเวลา คิดไปแล้วเจ้าก็คงรุ้ว่าข้าไม่เอาชีวิตเจ้า เพราะยังไงเจ้าก็เป็นผู้สืบทอดของบ้านนี้ ยังอยากให้เจ้าทำอะไรให้อีกหลายเรื่อง แต่ว่า นางผู้นี่มิอาจเอาไว้ได้”

“ทำไม?” โม่จื่อเฟิงหน้านิ่วคิ้วขมวด ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา“เพราะอวิ๋นเสี่ยวยิง?”

“ก็รู้อยู่เหตุใดยังถามอีกเล่า”อู๋จิ้นไม่ได้บอกปฏิเสธ

โม่จื่อเฟิงชะงักไปครู่หนึ่งมองไปทางอู๋จิ้น เงียบไปพักหนึ่ง ถึงถาม“ข้าอยากรู้เพราะอะไร?”

“ข้าจะบอกให้ อวิ๋นเสี่ยวยิงยกคนทั้งหมดให้เป็นคนของข้าเพื่อเป็นของแลกเปลี่ยน สิ่งที่เธอต้องการง่ายมาก เธออยากเป็นผู้หญิงของเจ้า และแน่นอนว่าสาวงามในอ้อมแขนเจ้าขวางทางนางอยู่”อู๋จิ้นแบมือสองข้างออกบอกถึงเขาก็หมดปัญญา แต่ว่าหน้าตาของเขากลับไม่ได้บอกแบบนั้น

แต่น่าเสียดาย คำพูดของเขา โม่จื่อเฟิงไม่มีทางเชื่อ เขาตอกกลับคำโกหกทันที“แค่อวิ๋นเสี่ยวยิงคนเดียว คงไม่พอที่เจ้าจะลงมือด้วยตัวเองหรอก ให้ข้าเดายังมีใครอีก?อ๋อ ใช่ มเหสีเซียวฉางเยว่ พวกเจ้าไปหาตระกูลเว่ยมาใช่หรือไม่?”

พูดถึงตรงนี้ โม่จื่อเฟิงกระแอมเบาๆ“ประเทศหนานเยว่ มีข้ายังไม่พอยังไปลากเอากำลังของตระกูลเว่ย ช่างกล้ามากไปแล้ว”

คำพูดของโม่จื่อเฟิงเพียงประโยคเดียวก็พูดทุกอย่างที่พวกเขาปกปิดไว้ออกมาหมด อู๋จิ้นตอนนี้ยิ้มไม่ออกแล้ว น้ำเสียงของเขาแหบแห้งกว่าเมื่อก่อนหน้า“สมดั่งคำล่ำลือของอ๋องอู่เสวียน ฉลาดมาก เพียงแต่ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจุดจบของวันนี้ได้ ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง เพียงแค่เจ้าลงมือฆ่าแม่นางผู้นี้ด้วยตัวเอง ข้าจะกลับไปบอกนายท่านว่าเจ้าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับแม่นางผู้นี้ ถ้าหากเจ้าทำใจไม่ได้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนลงมือเอง แต่ทว่า……ข้าขอเตือนเจ้า การลงโทษของตระกูล เจ้าคิดให้ดีๆ”

ที่ผ่านมา หลินซินเยียนคิดว่าโม่จื่อเฟิงคือที่สุดในใจเธอ เธอคิดว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรหยุดยังกำลังเขาได้ แท้จริงแล้ว เบื้องหลังของเขากลับมีความลึกลับมากมาย เมื่อก่อนเธอไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ตอนนี้มองไปที่โม่จื่อเฟิง ในใจมีความเจ็บปวด

โม่จื่อเฟิงที่หยิ่งยโสผู้นี้ ในหลายปีมานี้เขาแบกรับอะไรเอาไว้บ้าง และเขาได้สูญเสียอะไรไปบ้าง?

เขา จะฆ่าเธอได้ลงหรือ?

หลินซินเยียนมองไปที่โม่จื่อเฟิงอย่างไม่รู้ตัว อยู่ในอ้อมแขนกอดเขา เธอเงยหน้าขึ้นมองเห็นเพียงหน้าด้านข้างของเขา ใบหน้าเขาช่างงดงาม เขาใช้ความพยายามเป็นเวลาหลายปีกว่าจะได้มายืนอยู่จุดนี้ เขาจะละทิ้งทุกอย่างเพียงเพื่อเธอผู้หญิงคนหนึ่งหรือ?

เธอคิด มันเป็นไปไม่ได้หรอก คนที่ได้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูง ใจของเขามันยิ่งเย็นชา เธอไม่เชื่อหรอกว่าเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว ผู้ชายแบบเขาจะทิ้งทุกอย่างได้

“ได้ ข้าตกลง”

ตอนที่โม่จื่อเฟิงพูดประโยคนี้ออกมานั้น หลินซีนเยียนห้ามความผิดหวังในแววตาไม่ได้ ถึงแม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ว่าพอได้ยินกับหูตัวเอง ในใจก็เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

แต่อู๋จิ้นพยักหน้าอย่างพอใจ เขารู้สึกเหมือนมันคือสิ่งที่เขาคาดคิดไว้แล้ว“ข้ามองไม่ผิดจริงๆ ผู้หญิง สำหรับผู้ชายแล้วไม่ได้มีความหมายอะไร โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านข้าย่ำยีเล่นมาแล้ว นั่นยิ่งไม่คุ้มที่เจ้าจะถนุถนอมไว้”

ในความคิดของอู๋จิ้น โม่จื่อเฟิงต้องตัดสินใจแบบนี้แน่นอน เพราะว่าเขาได้พยายามสร้างสถานการณ์ทั้งหมดขึ้นมา ก็เพื่อที่จะให้โม่จื่อเฟิงตัดใจจากผู้หญิงคนนี้ ยังไงซะผู้หญิงคนหนึ่งต่อให้ผู้ชายจะชอบเธอมากสักเพียงใด แต่หากว่าร่างกายเป็นของชายอื่นแล้ว ก็เท่ากับว่านอกใจชายผู้นั้น ผู้หญิงแบบนี้ ชายใดยังอยากจะได้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต