ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 255

ตอนที่ 255 เฝ้าศพ

เมื่อกลับมาจวนอู่เซวียนอ๋อง ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ผ่านไปชั่วประเดี๋ยวเดียว โลกทั้งใบก็จมสู่ความมืดมิด

การลอบสังหารที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน งานอภิเษกจึงถูกเลื่อนไป หลังจากที่ชายชุดดำลักพาตัวหลินซีนเยียนเข้าไปในห้องของเธอเองก็จากไป เธอรู้สึกสับสนมาก ตอนมากลับไม่ให้สุ้มให้เสียง พอจะไปกลับไม่ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น

หลินซีนเยียนยังคงสวมชุดแต่งงานในยามเช้าอยู่ ภายในห้องมืดมิด ไม่มีใครมาจุดไฟให้ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจ้องไปยังบริเวณพื้นตรงโต๊ะที่อยู่ด้านข้าง ยามที่ชิงจู๋ตายก็ได้ล้มลงอยู่ตรงนั้น

เธอบอกตัวเองว่า ให้รู้สึกโศกเศร้าได้เพียงช่วงเวลานี้!

ดังนั้น เธอนั่งลงอย่างเงียบสงบ จนกระทั่งท้องฟ้ามืดสนิทลง เธอถึงจะยืนขึ้นแล้วจุดเทียนให้สว่าง

ช่วงเวลานี้ ถึงแล้วสินะ

สาวใช้และคนใช้ในลานบ้านพบว่าจู่ๆในห้องก็มีแสงไฟจึงพากันอกสั่นขวัญแขวน ยามเช้าที่นี่มีคนตาย ดังนั้นพวกขี้ขลาดหน่อยต่างพากันหลบหนีไปในที่ไกลๆ ส่วนพวกใจกล้าก็นัดพากันเข้ามาสำรวจดู

คนใช้คนหนึ่งผลักประตูออกก็เห็นสตรีชุดแดงยืนหันหลังให้ตรงประตู ไม่รู้ว่าขี้ขลาดคนไหนแหกปากร้องขึ้นก่อน คนอื่นๆก็แหกปากร้องขึ้นตาม

“ผีหลอก!”

หลินซีนเยียนทอดถอนหายใจยาว เมื่อสาวใช้และคนใช้เรียกสติคืนมาได้ก็พากันวิ่งหนีกระเจิง เดิมคิดอยากจะเรียกพวกเขา แต่พอเห็นองครักษ์สิบกว่าเพิ่งจะเข้ามาในลานบ้าน หลังจากเรื่องต่างๆได้ผ่านพ้นไป ที่นี่ก็มีคนคุ้มครองหนาแน่นขึ้น

จินมู่ยืนอยู่ข้างหน้าพอดี เขาชักมีดพกขึ้นมา พอเห็นใบหน้าของหลินซีนเยียนชัดเจน ขาข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมาเตะไปที่คนใช้ที่ร้องเห็นผีก่อนหน้านี้ทีหนึ่ง “ เป็นฮูหยิน พวกเจ้าแหกปากร้องกันทำไม! ”

เมื่อสาวใช้และคนใช้มองดูอีกทีก็เห็นว่าสตรีที่สวมชุดแต่งงานสีแดงคนนนี้เป็นหลินซีนเยียน หลายคนก็รีบคลานเข้าไปหาหลินซีนเยียนแล้วโขกศีรษะลงพื้นยอมรับผิดแต่โดยดี

หลินซีนเยียนไม่สนใจเหล่าคนใช้ที่ยอมรับผิด เพียงมองไปยังจินมู่ “วี่จิ่งล่ะ? ”

“ฮูหยินวางใจเถอะ หลังจากท่านอ๋องกลับมาได้เลี้ยงดูด้วยองค์เอง เพียงแต่.... ” จินมู่ราวกับพูดไม่ออก ครุ่นคิดไปเนิ่นนาน ถึงจะหน้าหนาเอ่ย “ ดูเหมือนท่านอ๋องอารมณ์ไม่ดี เลยไม่ได้บอกว่าท่านจะมา ดังนั้นเหล่าคนใช้จึงไม่รู้ความกัน ”

“ อ้อ ” หลินซีนเยียนเอ่ยขัน

ที่แท้เขาไม่ได้บอกให้เธอกลับไปสินะ

เขาคิดว่าร่างกายของเธอสกปรก ดังนั้นจึงรังเกียจเธอใช่ไหม? ไม่ให้โอกาสได้อธิบายกับเขาสักประโยคเลยเหรอ? เธอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกน่าขัน ไม่ว่าเธอจะผ่านเรื่องนี้มาจริงๆ คนที่เจ็บปวดที่สุด ไม่ควรจะเป็นฝ่ายหญิงเหรอ? ในเวลานี้ เขาไม่มีแม้แต่ปลอบใจให้เธอผ่านพ้นปัญหานี้ไปก็ช่าง กลับมาโกรธเคืองใส่เธออีก?

ผู้ชายแบบนี้มัน.....

หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา เมื่อจินมู่เห็นเธอหัวเราะ พลันรู้สึกประหลาดใจ กำลังจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงอยู่พอดี กลับได้ยินเธอถามขึ้น “ชิงจู๋ล่ะ?”

“ ท่านอ๋องมีคำสั่งให้นำศพชิงจู๋ไปฝัง ดังนั้นจึงได้เตรียมการเอาไว้แล้ว วันรุ่งเช้าก็นำไปฝังเลยพ่ะย่ะค่ะ ”เพราะว่าเป็นสาวใช้ ไม่ใช่เจ้านาย ดังนั้นไม่ว่าจะนำไปฝัง ก็ไม่สามารถเลือกวันทำพิธิฝังศพได้อย่างตระกูลอื่นทั่วไปได้ ซ้ำยังถือว่าเป็นความเมตตาอีกด้วย หากเป็นเพียงสาวใช้ธรรมดา หลังจากตายแล้วล้วนนำไปฝังในสุสานศพไร้ญาติหรือไม่ก็ขุดตรงไหนได้ก็ฝังตรงนั้น

ที่เรียกว่าฝังศพ ก็แค่มีหลุมศพเพิ่มมาหนึ่ง ชีวิตคนเป็นมีค่าเพียงแค่นี้ในช่วงเวลาแบบนี้

“ แล้วนำไปตั้งที่ห้องป้ายวิญญาณใดหรือ? ” หลินซีนเยียนเอ่ยถาม

จินมู่ชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง จ้องมองหลินซีนเยียนด้วยความประหลาดใจ “ เนื่องจากเป็นทาส ดังนั้นจึงไม่ได้ตั้งห้องป้ายวิญญาณ ถึงตั้งไว้ก็ไม่มีใครมาเฝ้าศพนาง ”

เมื่อหลินซีนเยียนได้ยิน ในใจพลันโศกเศร้า รู้สึกหายใจติดขัด เธอรู้สึกอึดอัดอย่างผิดปกติ ในที่สุดเธอไอออกมาเบาๆทีหนึ่ง แล้วสะอื้นเอ่ยถาม “ หาเรือนที่อยู่ห่างไกลผู้คน หาห้องทำเป็นห้องป้ายวิญญาณสักห้อง เดี๋ยวข้าจะไปเฝ้าศพนางเอง”

คำพูดที่ออกปากของเธอ ไม่เพียงแต่ทำให้สีหน้าของจินมู่เปลี่ยน กลับยังทำให้สีหน้าของทุกคนในห้องเปลี่ยนไปด้วย

แต่ไหนแต่ไรเคยมีเจ้านายไปเฝ้าศพทาสด้วยหรือ ซ้ำยังได้ยินมาจากปากของเจ้านายที่บอกจะไปเฝ้าศพให้นางทาสที่มีชีวิตต่ำต้อยด้วย เจ้าน้ายเป็นผู้สูงส่ง ไหนเลยจะมีเหตุผลให้เจ้านายมาเฝ้าศพทาส

“ ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!” จินมู่รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ ตอนนี้ฮูหยินเป็นถึงพระชายารองของอู่เซวียนอ๋อง มีฐานะสูงส่ง ไม่สามารถไปเฝ้าศพให้นางทาสได้ ความปรารถนาของฮูหยิน ข้าคิดว่าชิงจู๋อยู่ที่ในปรภพต้องรับรู้ได้อย่างแน่นอน ”

หลินซีนเยียนเหยียดยิ้มตรงมุมปากอย่างเยือกเย็น เธอเป็นพระชายารอง มีฐานะสูงส่งหรือ? งานแต่งงานที่น่าขันแบบนี้ดีเหรอ เป็นเพียงการเข้าใจผิดที่ปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นเลยทำให้งานแต่งมันเปลี่ยนไปจนดูไม่ได้

“ คำพูดของเขา สู้คนรับใช้ของโม่จื่อเฟิงไม่ได้เลยหรือ? ” เพราะในใจเย็บเฉียบ ดังนั้นตอนที่หลินซีนเยียนพูดจึงทำให้รู้สึกหนาวเย็นอยู่เท่าตัว “ ไม่ก็ เจ้าลองไปถามโม่จื่อเฟิง ถามเขาว่าอนุญาตให้ข้าไปเฝ้าศพชิงจู๋ได้หรือไม่ เจ้าไปบอกเขา หากไม่อนุญาต ข้าก็จะทำตามที่เขาปรารถนา จะใช้แพรขาวสามฉื่อมาสำนึกผิดของตน เช่นนี้ คงทำให้เขาพอใจ และไม่ได้ทำให้เขาต้องอยู่อย่างอับอายขายหน้า ”

จินมู่จ้องหลินซีนเยียนอย่างประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่หลังจากท่านอ๋องกลับมาก็เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก ท่านอ๋องไม่พูด เขาก็ไม่กล้าถาม ดูเหมือนว่าตอนนี้ แม้แต่ในใจของหลินซีนเยียนก็เปี่ยมไปด้วยความโกรธเคือง

เทพสวรรค์ทะเลาะกัน ภูตผีกลับพลอยโดนไปด้วย จินมู่รู้ว่าทั้งสองคนกำลังโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงก็ไม่กล้าเพิ่มเรื่องให้อีก เพียงเอ่ยขานรับทีหนึ่งแล้วหันหลังเดินจากไป

หลินซีนเยียนยืนรออยู่หน้าประตูโดยที่ไม่ขยับเขยื้อน ส่วนคนอื่นๆก็ไม่กล้าขยับไปไหน

เมื่อผ่านไปหนึ่งถ้วยชา (ช่วงเวลาประมาณ 10 – 14 นาที) ตอนที่จินมู่กลับมา สาวใช้และคนใช้ยังคงคุกเข่าอยู่ องครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยังคงไม่ขยับไปไหน

“ เขาว่าอย่างไร? ” หลินซีนเยียนเอ่ยถามอย่างเย็นชา

จินมู่ประสานมือคำนับ แล้วตอบอย่างนอบน้อม “ ท่านอ๋องบอกว่า แล้วแต่เจ้าท่าน”

หลินซีนเยียนแค่นเสียงทีหนึ่ง “ เช่นนั้นยังไม่รีบไปจัดการอีก ”

“ พ่ะย่ะค่ะ ” จินมู่รีบพาคนเดินออกไป ตอนที่เดินยังเอามือไปสะกิดเรียกสาวใช้และคนใช้ที่นั่งคุกเข่าอยู่ไม่กล้าเคลื่อนไหวไปไหน

ไม่นาน ภายในห้องก็เหลือเพียงแค่หลินซีนเยียนคนเดียว

สายลมยามค่ำคืนหนาวเหน็บ เธอสวมชุดแต่งงานที่ทำจากผ้าชั้นเยี่ยมจึงไม่รู้สึกหนาว เพียงแต่ หลังจากผู้คนเดินจากไป ใบหน้าของเธอกลับไม่มีความเยือกเย็นอีกแล้ว มีเพียงความโศกเศร้าที่ไม่สิ้นสุด

หลังหนึ่งชั่วยาว หลินซีนเยียนได้เปลี่ยนเป็นชุดไว้ทุกข์สีขาวทั้งตัว จินมู่เดินนำเข้าไปในเรือนหนึ่งที่ห่างไกล จวนอู่เซวียนอ๋องนั้นใหญ่มาก ต่อให้อาศัยอยู่ในนี้ช่วงหนึ่ง บางครั้งเธอก็ยังหลงทิศอยู่

ในเรือนเล็กจุดไฟสว่าง มีสาวใช้ 2 คนที่สวมชุดไว้ทุกข์สีขาวยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นหลินซีนเยียนก็คุกเข่าทำความเคารพอย่างนอบน้อม

ห้องโถงในเรือนได้จัดเป็นห้องป้ายวิญญาญ บนชายคาในแต่ละที่ได้แขวนผ้าม่านสีขาว ยามลมกลางคืนพัดมาก็พลิ้วไหวไปมา ถึงมันจะไม่มีชีวิต แต่ยิ่งมองขึ้นไปกลับรู้สึกหนาวเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต