ตอนที่ 260 แนะนำ
เมื่อหลินซีนเยียนได้ยิน ในใจก็สั่นสะท้านไม่หยุด จริงสิ พระชายาเอก เซียวฉางเยว่เป็นพระชายาเอก ส่วนนางเป็นพระชายารอง! ต่อหน้าคนอื่น เซียวฉางเยว่ได้รับความดีความชอบมาช่วยวี่จิ่งในขณะที่ถูกบุกรุก!
ตอนที่เซียวฉางเยว่พาอู๋จิ้นเข้ามาสังหารคนในจวนอ๋อง ในเรือนนอกจากหลินซีนเยียนแล้ว คนอื่นล้วนตายหมด เมื่อตายแล้วก็ไม่มีใครมายืนยันได้ ใครจะมาพิสูจน์ว่าเซียวฉางเยว่กำลังโกหกได้ล่ะ?
แม้หลินซีนเยียนจะผลีผลามไปเปิดโปงเองก็คงไม่เกิดผลอะไร เซียวฉางเยว่เป็นพระชายาเอก เบื้องหลังของนางเป็นตะกูลเซียวทั้งหมด ใครจะสามารถนำคำพูดด้านเดียวของหลินซีนเยียนไปกล่าวโทษเซียวฉางเยว่ได้
นี่เป็นเหตุผลที่หลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้วเซียวฉางเยวก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้าน!
เมื่อหลินซีนเยียนไม่ได้เอ่ยอะไร จื่อซูจ้องนางอย่างสงสัย “ ฮูหยิน... ข้าไปนำอาหารเช้ามาให้ท่านนะเจ้าคะ?”
หลินซีนเยียนได้สติ ฝืนดึงรอยยิ้มออกมาแล้วพยักหน้าให้นาง
แต่นางคิดไม่ถึงว่า นางเพิ่งทานโจ๊กไป 2-3 คำ มู่เหอก็รีบวิ่งเข้ามา บอกว่าแขกในเรือนพระชายาเอกอยากพบนาง
“ พบข้าหรือ? ” หากไม่ใช่มู่เหอกล่าวอย่างจริงจัง นางก็ไม่เชื่ออย่างแน่นอน นางเป็นแค่พระชายารอง จะว่าไปก็คือสนมของโม่จื่อเฟิง คนชั้นสูงที่ว่ามาพบเซียวฉางเยว่มันก็ถูกหลักธรรมนองคลองธรรมดี แต่ที่เจาะจงชื่อนั้นกลับรู้สึกทำให้คนไม่รู้ไม่เข้าใจว่ามันเป็นมาอย่างไร
หรือว่า เซียวฉางเยว่พูดอะไรต่อหน้าคนผู้นั้นกัน การเรียกนางไปครั้งนี้ก็จะทำให้นางอับอายขายหน้ากัน?
เมื่อคิดเช่นนี้ หลินซีนเยียนพลันหมดกะจิตกะใจทานอาหารเช้า นางลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกัยมู่เหอ “ ข้าต้องไปหรือไม่? อีกเดี๋ยวก็น่าจะไปฝังศพชิงจู๋ ข้าอยากจะไปส่ง ”
“ พี่สาวชิงจู๋ทางนั้นท่านไม่ต้องห่วง เมื่อเช้าหัวหน้าจินมู่ไปจัดการแล้ว ส่วนเรื่องคนชั้นสูงผู้นั้นกลับรอไม่ได้ ฮูหยินอย่าบ่ายเบี่ยงเลย รีบตามข้าไปเถอะ ไปช้าอาจทำให้คนชั้นสูงไม่พอใจ อีกไม่นานพวกเราก็จะลำบากเอาได้ ” มู่เหอกล่าว
คิ้วของหลินซีนเยียนขมวดติดแน่น ทำได้เพียงเดินตามมู่เหอไปเรือนของเซียวฉางเยว่ มู่เหอติดตามโม่จื่อเฟิงมาเป็นเวลานาน นับว่าเป็นคนดังที่อยู่ข้างกายโม่จื่อเฟิง คนที่สามารถทำให้เขาเห็นสำคัญมากต้องเป็นแขกชนชั้นสูงอย่างแน่นอน หรือจะเป็นฮองเฮาที่มาด้วยองค์เอง?
ตอนที่นางออกเรือน เว่ยกุ้ยเฟยมาทำผมให้นาง ส่วนฮองเฮานั้นต้องมาเยี่ยมเซียวฉางเยว่ผู้เป็นชายาเอก ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
ทว่า เมื่อหลินซีนเยียนมาถึงเรือนของเซียวฉางเยว่ ตอนที่เห็นบุรุษที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตำแหน่งประมุขอยู่ในห้องโถง ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจนเกือบลืมคำพูด
คนที่มาในครั้งนี้ ที่แท้เป็นโม่จื่อยี่
“ ฮ่องเต้ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี ” หลินซีนเยียนทำความเคารพด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย
โม่จื่อยี่ขานรับ หลังจากเอ่ยว่าตามสบาย หลินซีนเยียนก็ลุกขึ้นยืน
ไม่รอให้หลินซีนเยียนสงสัย โม่จื่อยี่ก็พูดกับนาง “ รู้หรือไม่ว่าเราเรียกเจ้ามาทำไม? ”
หลินซีนเยียนส่ายหน้า หันไปมองโม่จื่อเฟิงอย่างไม่รู้ตัว โม่จื่อเฟิงนั่งอยู่ด้านข้างเพียงยิ้มบางๆให้โดยไม่พูดจา ทว่าในดวงตาทำให้คนคาดเดาความหมายไม่ออกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...