ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 264

ตอนที่ 264 พวกเจ้าได้ยินกันหมด

หลินซีนเยียนส่ายหน้า ยิ้มบางๆแล้วเอ่ย “ ไม่เป็นไร เขาพูดก็ไม่ผิด ช่างเหล็กสวมใส่ทำงานไปด้วยย่อมทรมานอยู่แล้ว ข้ามีความเห็น ให้ช่างเหล็กทุกคนไปพักสักครึ่งชั่วยามก่อน ให้ทำเหมือนข้าเชิญทุกคนดื่มชา พวกเราก็รีบเลือกวัสดุ หลังเลือกเสร็จก็ให้พวกเขากลับมาทำงานต่อ ท่านคิดว่าได้หรือไม่? ”

ความจริงในสถานการณ์เช่นนี้เธอไม่ได้คิดมากอะไร แต่ในสังคมศักนาดินา เธอรู้ดีว่ามีคำพูดที่ทำให้คนหวาดกลัวได้ เธอไม่ถือสาแต่ตอนนี้ไม่เพียงเป็นชื่อเสียงของตนเอง ยังมีของโม่จื่อเฟิงอีก เธอไม่สนหน้าตาของตนเอง แต่ไม่สามารถทำให้เขาเสียหน้าได้

โจวหลี่พลันชะงักไปครู่หนึ่ง ราวกับคนไม่มีสติ หลังจากผ่านไปสักพัก เขารีบประสานมือคำนับกล่าวขอบคุณ “ พระชายารองเห็นอกเห็นใจพวกเราจริงๆ หากเอ่ยเช่นนี้ ย่อมถือว่าดีที่สุด คิดไม่ถึงว่าพระชายารองเป็นคนมีนิสัยเรียบง่ายและเป็นกันเองเช่นนี้ ท่านอ๋องได้แต่งกับพระชายารองถือว่าเป็นวาสนาของท่านอ๋อง ”

“ พอแล้ว เจ้าไม่ต้องมาชมข้าแล้ว พวกเรารีบไปเลือกวัสดุกันเถอะ ” หลินซีนเยียนยิ้ม กลับไม่ได้ใส่ใจคำพูดของโจวหลี่ ถึงยังไงคนอื่นที่พูดยกยอคุณก็เป็นเพียงมารยาทอย่างหนึ่ง หากไม่ใช่กล่าวเกินไปก็ควรจะยิ้มรับ

โจวหลี่พยักหน้า นำคำพูดของหลินซีนเยียนถ่ายทอดออกไป แล้วตนเองก็พาหลินซีนเยียนเดินผ่านลานมุ่งตรงไปยังห้องเก็บของ

ห้องเก็บของมีคนดูแลอยู่ คนที่ดูแลห้องเก็บของเป็นชายแก่อายุครึ่งร้อยปี ได้ยินโจวหลี่บอกว่าจะพาพระชายารองไปเลือกวัสดุ ในดวงตาสองคู่เปี่ยมไปด้วยความไม่เชื่อถือ

แต่เขาเขาไขกุญแจแล้วพาคนเข้าไปในห้อง ในห้องเก็บของมีโลหะที่ใช้ทำอาวุธวางกองอยู่ มีของดีแต่ละชิ้นวางอยู่เต็มไปหมด ชายแก่เดินนำทาง โจวหลี่เดินอยู่ข้างๆหลินซีนเยียนคอยแนะนำคุณสมบัติของโลหะแต่ละชิ้น

“ พระชายารอง ท่านดูโลหะชนิดนี้เป็นโลหะที่เจออยู่กลางทะเลทรายในเขตชายแดนเมื่อพันปี มีสีทองเข้มๆ แต่กลับไม่ใช่ทองคำ ทว่าเป็นโลหะที่แข็งมากกว่าเหล็ก เพราะว่าโลหะชนิดนี้มีราคาสูงลิ่ว ดังนั้นจึงไม่ได้นำมาใช้ทำอาวุธโดยตรง เพียงหลอมมันเข้ากับเหล็กดิบเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของอาวุธ ” โจวหลี่หยิบก้อนเล็กๆขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือส่งให้หลินซีนเยียนก้อนหนึ่ง “ ก้อนเล็กๆนี้ ราคาไม่ถูกกว่าไปกว่าทองคำ ”

“ เป็นโลหะที่แพงเท่ากับทองคำงั้นหรือ? ” หลินซีนเยียนรับโลหะก้อนนั้นมาชั่งน้ำหนักดูในมือ ความหนักไม่เบา กลับสัมผัสถึงเนื้อทราย ลูบไปมาก็ยิ่งรู้สึกถึงเนื้อผิว

“ ขอรับ ราคาแพงเท่ากับทองคำ ทว่ามีค่าสูงมากในตลาด มีเพียงเหมืองแร่ขนาดเล็กเหมืองหนึ่งที่ทำโลหะชนิดนี้อยู่แถวชายแดน กล่าวกันว่าเพราะมีสาเหตุบางอย่างที่ไม่สามารถขยายการ ดังนั้นจึงมีการแลกเปลี่ยนน้อยมากจนถึงบัดนี้ พวกเขาตั้งชื่อโลหะชนิดนี้ว่า ‘ทองแก’ ” พอโจวหลี่แนะนำเสร็จ ก็กล่าวอย่างตื่นเต้นอีกว่า “ ในเมื่อเป็นอาวุธประทานให้ฝ่าบาท จวนอ๋องของเราจะน้อยหน้าไม่ได้ ข้าคิดว่าใช้ทองแกทำจะดีกว่า ”

ข้อเสนอของเขา หลินซีนเยียนไม่ได้คิดพลันตอบตกลงทันที แต่พอมาคิดไตร่ตรองดูอีกที มีของบางอย่างที่ยิ่งแพงก็ใช่ว่ายิ่งดี “ ลองดูก่อนก็ได้ว่าทำได้หรือไม่ แล้วยังต้องดูผลการทดลองที่นำสิ่งนี้มาทำอาวุธด้วย ”

โจวหลี่ไม่เข้าใจความหมายของการทดลอง แต่คำพูดของหลินซีนเยียนเขานับว่าฟังเข้าใจ “ พระชายารองระมัดระวังเช่นนี้ ทำให้ข้าน้อยนับถือยิ่ง ”

หลินซีนเยียนยิ้มๆบางแต่ไม่ได้พูดอะไร ส่วนชายแก่ดูแลห้องเก็บของที่อยู่ข้างๆรู้สึกไม่สบอารมณ์ อดไม่ได้ที่จะพูดแทรก “ ท่านโจว บัดนี้ทองแกเหลืออยู่เพียงก้อนเดียว แม้ข้าจะไม่เข้าใจพวกท่านกำลังพูดเรื่องอะไร แต่เดือนหน้าต้องส่งสินค้าให้กองทหารเล่เย่น ในจำนวนนี้ต้องใช้ทองแก หากพวกท่านนำทั้งหมดไป เกรงว่าสินค้าที่ส่งออกเดือนหน้าอาจเกิดปัญหาเอาได้ ”

เมื่อเขาได้เอ่ยเตือน โจวหลี่ราวกับโดนตบหน้า “ ดูความจำของข้า ไม่ผิด ย่อมมีเรื่องนี้เกิดขึ้น พระชายารองเอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าเห็นภาพออกแบบของท่านแล้ว ใช้ทองแกมาทำเป็นแผ่นบางๆแล้วก็นำมาเชื่อมต่อกันเป็นแส้ยาว ข้าประเมินว่าต้องใช้ปริมาณมากถึงจะดี ”

หลินซีนเยียนลังเลและครุ่นคิดอย่างละเอียด แล้วเอ่ย “ ในเมื่อการนำสินค้าให้กองทหารเล่เย่นอยู่ในแผนการก็ไม่ต้องเปลี่ยน เหล่าทหารล้วนต้องใช้ชีวิตในการต่อสู้ด้วยอาวุธ พวกเราไม่สามารถเอาเปรียบพวกเขาได้ เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเมื่อก่อนทองแกเป็นวัสดุที่ใช้เพิ่มระดับให้อาวุธไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นพวกเราก็นำทองแกไปผสมเข้ากับโลหะทำเป็นโลหะเจือ ไม่แน่ว่าโลหะเจือนี่อาจจะดีกว่าทองแกซะอีก ”

ในสังคมยุคปัจจุบัน โลหะเจือแต่ละชนิดหลากหลายชนิดล้วนดัดแปลงตามลักษณะของโลหะ โลหะเจือหลังจากดัดแปลงแล้วก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนำไปใช้งานบางอย่าง

“ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงเท่านี้ พวกเราลองนำทองแกไปทำโลหะเจือก่อน ข้าค่อยติดต่อกับคนขายทองแกอีกที ว่าสามารถขายโลหะเจือเหล่านั้นกลับมาได้หรือไม่ ” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ใบหน้าของโจวหลี่เปี่ยมไปด้วยความเสียใจ พอถึงตอนนี้ ราวกับว่าที่ใส่ใจในความสำเร็จของการทำแส้ยาวนี้ว่าได้หรือไม่เป็นเขา ไม่ใช่หลินซีนเยียน

หลังจากทั้งสองคนปรึกษาดีแล้วก็เลือกโลหะที่มีความเหนียวและความแข็งเป็นอย่างดีในห้องเก็บของมาหลายชนิด เมื่อรอพวกเขาพลิกค้นหาไปมาท้องฟ้าก็มิดแล้ว

โลหะที่โจวหลี่เลือกอย่างดีล้วนส่งขึ้นรถม้าของหลินซีนเยียน ส่วนตนเองก็อยู่ในคลังอาวุธ บอกว่าจะศึกษาความหนาและขนาดของแผ่นบางนั้นก่อน

เมื่อหลินซีนเยียนพามู่เหอและจื่อซูกลับไป ความทุ่มเทของโจวหลี่ในใจก็ยิ่งนับถือขึ้นอย่างมาก สำหรับคนที่ทุ่มเทให้กับงานอย่างจริงจังทุกๆคนล้วนคุ้มค่ากับการถูกเคารพนับถือ

บนรถม้า ในหน้าของจื่อซูที่ยังแดงระเรื่ออยู่ “ ฮูหยิน บุรุษเปลือยอกเยอะแยะขนาดนั้น ทำไมท่านถึงหน้าไม่แดงสักนิดเลยเจ้าค่ะ? ”

หลินซีนเยียนกำลังดื่มชาอยู่ พลันได้ยินจื่อซูถามเช่นนี้ มุมปากจึงกระตุกขึ้น หัวเราะอย่างเก้อเขิน เธอไม่สามารถบอกว่าเธอเคยเห็นแบบนี้มาเยอะแล้ว ในโทรทัศน์ คนที่เปลือยอกนี่ก็ไม่เท่าไร เมื่อก่อนตอนอยู่ในหอพัก เพื่อนทอมเรียกคลิปแต่ละคลิปที่ดาวน์โหลดในอินเทอร์เน็ตว่าการปลุกปั่น

“ เอ่อ.....อาจเพราะข้าแต่งงานเป็นภรรยาแล้ว ดังนั้นหนังหน้าค่อนข้างหนากระมัง ” หลินซีนเยียนตอบมาอย่างนี้ แม้แต่ตนเองยังรู้สึกดูแคลนตัวเองเลย

ทว่าจื่อซูกลับเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย “ ข้าคิดว่าก็ใช่ หลายวันนี้ได้ยินว่าฮูหยินได้ทำเรื่องนั้นกับท่านอ๋องจนร้องเสียงดังขนาดนั้น ฮูหยินก็เลยคุ้นชินกับเรือนร่างของบุรุษแล้ว.....”

“เดี๋ยวก่อน!” หลินซีนเยียนเหมือนกับจู่ๆก็ได้รับรู้อะไรบางอย่าง จึงวางถ้วยชาลงแล้วเอ่ยถาม “ จื่อซู เมื่อครู่เจ้าพูดว่าได้ยินอะไร? ”

เมื่อเปรียบกับชิงจู๋แล้ว จื่อซูก็ยิ่งไม่มีความในใจอะไร เมื่อได้ยินที่นางถามก็ตอบกลับอย่างซื่อตรง “ ได้ยินตอนที่ท่านกับท่านอ๋องทำเรื่องนั้นร้องเสียงดังอย่างมาก ทุกครั้งข้าได้ยินหน้าก็แดงไปถึงหู แต่เหล่าแม่นมบอกว่า ระหว่างสามีภรรยานั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติอย่างมาก ไม่มีอะไรต้องหน้าแดง ”

ยังมีเหล่าแม่นมด้วยเหรอ? ใบหน้าของหลินซีนเยียนจู่ๆก็แดงขึ้นมาผิดปกติ เธอเอ่ยถามเสียงชัดใสแจ่ว “ จื่อซู ความหมายของเจ้าคือ พวกเจ้า...ได้ยินกันหมดเลยหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต