ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 263

ตอนที่ 263 บุรุษเปลือยอก

ในความนิยมของแส้ยาว โดยทั่วไปจะใช้เชือกขนาดใหญ่ในการทำ บ้างก็ทำด้วยกระดูกสัตว์ที่เหนียวและทนทาน ตำนานกล่าวไว้ว่าแส้ยาวชั้นยอดจะใช้ขนที่ผ่านวิธีทำลับๆอย่างพิเศษ แต่ในภาพวาดของหลินซีนเยียน กลับเป็นโลหะเนื้อแท้

โลหะเนื้อแท้ไม่เคยมีใครเคยใช้ทำแส้มาก่อน เพราะแส้มันต้องมีความเหนียวและความยืดหยุ่น ใช้โลหะมาทำแส้ยาวเดิมไม่เคยคาดคิดมาก่อน

หากเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สามารถทำให้สีหน้าตกตะลึงของโจวหวี่เผยออกมา ในภาพวาด คนที่ทำให้ตกตะลึงมากที่สุดเป็นคนออกแบบแส้ยาว มีลักษณะคล้ายงูตัวหนึ่งเป็นโลหะแผ่นบางราวกับปีกจักจั่นนำมาเชื่อมต่อกัน แส้เช่นนี้เมื่อนำมาต่อเข้าด้วยกัน ความยืดหยุ่นและความเหนียวก็มีแล้ว ทว่ายังมีความแหลมคมคล้ายกับมีดดาบอีก ความแปลกใหม่ช่างทำให้เขาได้เปิดหูเปิดตาต่อแส้ยาวแล้ว

“ นะ นี่เป็นฮูหยินคิดขึ้นมาหรือ? ” โจวหลี่รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ สิ่งนี้หากตกทอดสู่ตลาดแล้วล่ะก็รับรองว่าทำให้คนที่ใช้แส้ทั้งหมดต้องบ้าคลั่งแน่

หลินซีนเยียนก็ไม่ปิดบัง จึงพยักหน้าแล้วตอบเขาอย่างยืนยัน “ แม้ภาพวาดจะมีแล้ว แต่โลหะนี่กลับไม่ค่อยดีเท่าไร ข้าไม่เข้าใจว่าพวกเจ้าที่นี่มีโลหะชนิดอะไรบ้าง โลหะที่ใช้ทำแส้นี้ต้องมีความแข็ง และความเหนียวอย่างแน่นอนถึงจะดี มิเช่นนั้นหากตวัดแส้ไปทีหนึ่ง แส้ยาวนี้อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ”

ในใจของโจวหลี่ตื่นเต้นอย่างมาก เพียงหยิบกระดาษออกแบบนั้นขึ้นแล้วตะลึงไม่หยุด เอ่ยชื่นชมคำว่า ‘ดี’ ตลอด เมื่อเข้าได้ยินคำพูดของหลินซีนเยียนถึงจะหัวเราะแล้วเอ่ย “ ฮูหยินวางใจ โจวหลี่ทำอาชีพนี้มาหลายปี โลหะทุกชนิดข้าล้วนผ่านหูผ่านตามา แล้วยังเก็บสะสมไว้อยู่บ้าง หากฮูหยินสะดวก ข้าจะรีบพาท่านไปเลือกวัสดุที่ใช้ได้”

ปากของเขาพูดเช่นนี้ แต่สายตากลับเปล่งประกายระยิบระยับจนแสดงให้ความร้อนใจในขณะนี้ เป็นถึงช่างคนหนึ่งสามารถมีโอกาสได้พบเห็นการกำเนิดอาวุธในตำนานเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะเสนอตัวในการเริ่มสร้างแส้ยาวนี้ แต่หลินซีนเยียนเป็นถึงพระชายารองของอู๋เซวียนอ๋องผู้สูงส่ง ไม่สามารถปฏิบัติตามอำเภอใจราวกับคนหยาบทั่วไปกับเขาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพูดความคิดที่แท้จริงออกไป

ใครจะรู้ พอหลินซีนเยียนได้ยินก็รับหยักหน้า “ เวลากระชั้นชิด เช่นนั้นพวกเรารีบไปดูสิ่งที่ท่านเก็บสะสมไว้เถอะ แม้จะสามารถเลือกแบบที่ใกล้เคียงได้ แต่การทำอาวุธที่จริงๆก็จำเป็นต้องทดสอบการใช้งานอย่างไม่หยุดหย่อนด้วย การเลือกวัสดุก็เช่นนี้ออกมา พวกเราต้องดำเนินการแต่ละก้าว สุดท้ายถึงจะเลือกวัสดุที่ใช้ทำแส้ยาวได้อย่างเหมาะสมที่สุด ”

คำพูดของนางได้ทำให้โจวลี่เคารพนับถือจากใจอีกครั้ง คนที่สามารถพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ก็ต้องเป็นคนที่เชี่ยวชาญคนหนึ่ง หลินซีนเยียนอายุยังน้อย และยังเป็นสตรีคนหนึ่ง สามารถออกคำเห็นเช่นนี้ได้จะต้องมีประสบการณ์ช่ำชองในการทำอาวุธมายาวนานแน่

หลังจากที่ทั้งสองนัดแนะกันแล้ว โจวหลี่ก็พาหลินซีนเยียนไปเลือกวัสดุในคลังอาวุธของจวนอ๋อง หลินซีนเยียนเป็นสตรีจึงไม่สะดวกที่จะเข้าออกได้อย่างอิสระ ดังนั้นมู่เหอและจื่อซูจึงตามเธอไปด้วย

คลังอาวุธของจวนอู่เซวียนอ๋องไม่ได้อยู่ในจวนอู่เซวียนอ๋อง แต่อยู่ในเรือนพิเศษแห่งหนึ่งในเมืองเฟิ่งซี พวกเขานั่งรถม้า หลังผ่านไปครึ่งชั่วยามก็ถึงคลังอาวุธแล้ว

โจวหลี่นั่งรถม้าคันเดียวกับมู่เหอ หลินซีนเยียนนั่งรถม้าคันเดียวกับจื่อซู หลังจากโจวหลี่ลงจากรถม้าก็พูดกับหลินซีนเยียนอย่างนอบน้อม “ ฮูหยินโปรดรอสักครู่ คลังอาวุธสกปรกไปหน่อย ข้าขอล่วงหน้าก่อนไปแล้วค่อยมาเชิญท่าน เพื่อความปลอดภัยของฮูหยินขอรับ ”

“โจวหลี่เกรงไปใจไปแล้ว เมื่อก่อนข้าเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่ในคลังอาวุธมานาน จะไม่เข้าใจสภาพของคลังอาวุธได้หรือ? ” หลินซีนเยียนหัวเราะแล้วเอ่ย จื่อซูก็ประคองลงมาจากรถม้า

ทว่าตอนที่นางเอ่ยประโยคนี้ออกมา โจวหลี่ก็สบตากับมู่เหอราวกับรู้สึกตกตะลึง โดยเฉพาะสายตาของทั้งสองคนบ่งบอกว่าอยากเอ่ยอะไรแต่กลับไม่กล้าเอ่ย

แค่เพียงสงสัยแต่ไม่ได้รบกวนหลินซีนเยียนเป็นเวลานาน ตอนที่โจวหลี่ผลักประตูเรือนออก เธอถึงเข้าใจความหมายที่โจวหลี่พูดถึงนั้นคืออะไร

ยามบ่ายเป็นช่วงที่งานยุ่งที่สุดพอดี ในลานมีเสียงแคร้งๆ ดังขึ้น ในลานนี้กว้างขวางราวกับสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ ในลานมีบ่อน้ำและหม้อน้ำอยู่กลางแจ้ง ทุกที่ตั้งบ่อน้ำและหม้อน้ำล้วนสร้างเพิงไว้กันฝน แล้วในแต่ละเพิงก็มีชายฉกรรจ์ที่เปลือยท่อนบนหลายคนกำลังตีอาวุธอยู่

เหล่าชายฉกรรจ์แต่ละคนหนักแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ตอนที่ยกค้อนขึ้นมาเผยให้เห็นเส้นเลือดบนท่อนแขน ให้ความรู้สึกถึงความบ้าระห่ำของพลังหยางแบบหนึ่ง หลินซีนเยียนเป็นคนสมัยปัจจุบัน เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ก็รู้สึกตกใจนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่เป็นที่ยอมรับ ในยุคปัจจุบันการสวมใส่บิกินี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่นี่แค่บุรุษเปลือยอกสิบกว่าคนก็เท่านั้นเอง

ทว่าสตรีที่อยู่ในสนามรบไม่ใช่แค่หลินซีนเยียน ยังมีจื่อซู เพียงเห็นจื่อซูส่งเสียงร้องปิดตาแล้ววิ่งถอยออกไป บนใบหน้าราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ได้รับการดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้

เธอให้มู่เหอตามจื่อซูออกไป แล้วตัวเองก็เตรียมเดินเข้าลานพร้อมกับโจวหลี่ เป็นที่เธอสะเพร่า ความประทับใจยังหยุดอยู่ในห้องทำงานอาวุธยุคปัจจุบัน ในห้องทำงานนั้นเพื่อนร่วมงานต่างสวมชุดกันระเบิดอย่างเป็นมืออาชีพ จนลืมนึกถึงยุคโบราณที่เป็นยุคอาวุธเย็น

“ ฮูหยิน..... ” เมื่อโจวหลี่เห็นใบหน้าที่เป็นปกติของหลินซีนเยียนจึงถอนหายใจโล่งอก แต่ไม่กล้าสบประมาทดวงตาของเธออีก พลันตะโกนเรียกทุกคนที่อยู่ในลาน “ ทุกคนหยุดก่อน กลับไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยออกมา! ”

เมื่อทุกคนหยุดการเคลื่อนไหวก็เห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างชัดเจน ในจำนวนนั้นเป็นสตรีที่รูปโฉมงดงามไร้ที่ติ แม้ทุกคนจะเป็นบุรุษมือเท้าหยาบกร้าน แต่ผิวหน้ากลับบาง จึงรู้สึกเคอะเขินอยู่ช่วงหนึ่ง หลายคนวางของในมือแล้วกลับสวมเสื้อผ้าในห้อง

ด้านหน้าของปากประตู บุรุษวัย 30 กว่าปีรู้สึกไม่พอใจยิ่ง ตะโกนพูดกับโจวหลี่ที่อยู่ปากประตู “ ท่านโจว พวกเราล้วนเป็นช่างเหล็ก ตอนที่ตีเหล็กทั้งร้อนทั้งเหนื่อย แล้วยังสวมเสื้อผ้าอีก ไม่อึดอัดไปหน่อยหรือ? ท่านนำสาวน้อยที่ไหนเข้ามาในสถานที่เช่นนี้ เป็นสถานที่พวกนางควรจะมางั้นหรือ? ”

“ หุบปาก! ห้ามไร้มารยาท ท่านนี่คือพระชายารอง! ” โจวหลี่อยากจะปิดปากของช่างเหล็กคนนั้น โดยปกติเหล่าพวกคุณปู่ชอบพูดจาไม่ให้หน้ากัน แต่ตอนอยู่ต่อหน้าหลินซีนเยียนก็ทำให้คนหน้าแดงหน่อยแล้ว

“พระชายารอง? ” ช่างเหล็กคนนั้นชะงักนิ่ง แม้จะไม่เอ่ยคำพูดไร้มารยาทอีก แต่ใบหน้ายังแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัด เขาบ่นพึมพำหลายประโยค เสียงเบาจนได้ยินไม่ชัด แต่ก็หันหลังแล้วเดินจากไปด้วยความโกรธเคือง

โจวหลี่รีบเอ่ยปรับความเข้าใจ “ พระชายารองโปรดอย่าถือสา นิสัยเขาก็เช่นนี้แต่ตัวคนไม่มีอะไร แต่มีฝีมือตีเหล็กดีมาก ไม่ว่าจะยากแค่ไหนเขาล้วนทำให้ท่านได้ เพียงแค่หยิ่งยโสเพราะถือว่ามีความสามารถ ดังนั้นคำพูดคำจาจึงวู่วามไปหน่อย ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต