สรุปตอน ตอนที่ 267 ผู้หญิงคือเครื่องมืออันราบรื่น – จากเรื่อง ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง
ตอน ตอนที่ 267 ผู้หญิงคือเครื่องมืออันราบรื่น ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 267 ผู้หญิงคือเครื่องมืออันราบรื่น
เซียวฉางเยว่มุ่นหัวคิ้ว “ตอนนี้เจ้าทำให้นางขุ่นข้อง อยากทำลายแผนการวันพรุ่งของพวกเราหรืออย่างไร”
“วันพรุ่งก็คือวันพรุ่ง วันนี้คือวันนี้!” อวิ๋นเสี่ยวยิงไม่ยอมทน
เซียวฉางเยว่กลับส่ายศีรษะไปมา และเริ่มดูแคลนต่อเจตคติของอวิ๋นเสี่ยวยิงขึ้นมา “ไม่แปลกใจว่าอุบายของเจ้าไม่ประสบความสำเร็จ ก็เชาวน์ปัญญาเจ้าแค่นี้ จะไปสู้รบกับเขาได้อย่างไร เขาคืออ๋องอู่เสวียน มิใช่ผู้ชายธรรมดาสามัญ วันนี้เจ้าแสดงออกมากเพียงนั้น หากว่าเผยพิรุจอันใดออกมา ก็อาจทำให้เขายิ่งเพิ่มความเฝ้าระวังมากขึ้นเท่านั้น ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แม้กระทั่งราตรีเดียวเจ้าก็กลั้นไม่ได้เชียวหรือ”
อวิ๋นเสี่ยวยิงถูกเซียวฉางเยว่เอ็ดเอาถึงกับชะงักไปครู่ ในอกพิโรธโกรธเป็นไฟ ตวาดเสียงต่ำ “ท่านก็ภาวนาให้แผนการของพวกท่านสำเร็จเถิด! ไม่เช่นนั้นข้าว่าตำแหน่งพระชายานี้ท่านก็รักษาไม่ได้แล้วล่ะ แต่ว่าข้าขอเตือนท่าน อย่าริอ่านเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล* จวนอ๋องนี้ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องแต่งเข้ามา”
พูดประโยคนี้จบ อวิ๋นเสี่ยวยิงก็หมุนกายเดินจากไปทิ้งไว้แต่เงาหลังแห่งความโกรธขึ้นแก่เซียวฉางเยว่
เห็นท่าทีของอวิ๋นเสี่ยวยิงเช่นนี้ เซียวฉางเยว่สั่นศีรษะอย่างอดไม่อยู่ ทว่าในดวงเนตรทั้งสองทอแววสังหารอย่างปิดไม่มิด “ก็แค่นางบำเรอที่ออกมาจากหุบเขา หากมิใช่ว่าสายเลือดของเจ้าพิเศษ ยังจะกล้าดีมาต่อรองกับข้าอยู่รึ โลภมากไม่รู้จักพอดุจอสรพิษขยอก จะให้เจ้าได้ชดใช้สำหรับการไร้สัมมาคารวะเยี่ยงวันนี้ให้ได้ในสักวัน!”
เนื่องจากเซียวฮางเยว่และอวิ๋นเสี่ยวยิงมาถึงโดยปุบปับ อารมณ์อยากอาหารของหลินซีนเยียนก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พ่อตา” คำนั้นทำให้ในอกของนางหลีกเลี่ยงความคุมข้องไม่ไหว เสมือนกับกำลังย้ำเตือนเขา ในนามของเขา ยังมีภรรยาเอกหนึ่งคน และนาง ต่อให้ได้รับความโปรดปรานจากเขา ก็เป็นได้เพียงอนุ...ภรรยารองหนึ่งคนก็เท่านั้น
“กำลังคิดอันใดอยู่ จะป้อนโจ๊กให้รูจมูกอยู่รึ” โม่จื่อเฟิงเห็นว่าหลินซีนเยียนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สีหน้าก็เคร่งขรึม ไม่รอบคำตอบจากนาง กลับเอ่ยขึ้น “ก็แค่คนไร้ความเกี่ยวข้อง เจ้าจะสนใจไปไย”
จะสนใจไปไย
เขากล่าวอย่างเรียบง่าย ทว่า จะเป็นคนไร้ความเกี่ยวข้องจริงหรือ
นางรู้ว่าสังคมนี้แบ่งชนชั้นวรรณะ หากว่าเป็นยามปกติ แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทว่าถึงยามเฉลิมฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่เล่า ได้ยินว่ากฎของบรรพบุรุษ ยามฉลองเทศกาลปีใหม่ คนในจวนอู่เซวียนอ๋องทั้งหมดจะต้องเข้าวังร่วมงานเลี้ยง กล่าวกันว่าในงานเลี้ยงครอบครัว ความแตกต่างระหว่างชายาเอกและพระราชารองมีมากนัก พระราชารองต้องคุกเข่าถวายน้ำชาต่อหน้าชายาเอก นางไม่กล้าคิดไปถึงสถานการณ์อันเป็นทางการพวกนั้นเลยจริงๆ นางจะมีความกล้าหาญเผชิญหน้ากับความโหดร้ายนั้นหรือไม่
“โม่จื่อเฟิง ถ้าหาก...ข้าแค่สมมติ สมติว่าอนาคตฮ่องเต้พระราชทานรางวัลให้ท่านเป็นหญิงอื่นอีกเล่า ท่านจะแต่งกับพวกนางหรือไม่” หลินซีนเยียนวางถ้วยชามลง ถามประโยคนี้อย่างอดไม่อยู่
ที่แท้ ยามที่คนๆ หนึ่งใช้ความใจจริงๆ ก็อาจสร้างปัญหาจนร้าวฉานได้ แม้กระทั่งนางที่มีเหตุผลขนาดนั้น ยังเริ่มต้นถามคำถามที่เดิมทีก็ไร้ซึ่งคำตอบเช่นนี้
โม่จื่อเฟิงมองหน้าด้วยท่าทีที่แปลกไปแวบหนึ่ง “ที่แท้เจ้ากำลังคิดเรื่องนี้” บนใบหน้าของเขาเปลี่ยนกลับมาเป็นสงบนิ่งดังเดิม พลางหยอกล้อกับเสี่ยววี่จิงในอ้อมอก พลางกล่าวอย่างไม่กังวล “จวนอ๋องมีสวนตั้งมากมาย จะเลี้ยงคนเพิ่มอีกสักกี่คนก็หาใช่เรื่องลำบากอันใด ข้าสามารถบอกเจ้า ไม่ใช่สมมติ อนาคตหากพบเจอกับผู้ที่โม่จื่อยี่คิดว่าเหมาะสม เขาจะต้องประทานสมรสให้ข้าเป็นแน่ ในราชวงศ์ การใช้สดุดีประทานสมรสเพื่อรักษาความมั่นคงของขั้วอำนาจไม่เรื่องใหญ่โตอันใด โดยเฉพาะตระกูลชนชั้นสูงที่มีประโยชน์พวกนั้น เขาทักจะใช้วิธีนี้ผูกมัดทั้งสิ้น ฉะนั้น อนาคต ในจวนอ๋องนี้จะต้องมีผู้หญิงคนอื่นอีกแน่นอน”
นางรู้สึกร้าวรานยิ่งนัก ก็เสมือนทั้งที่ตนเองถ่องแท้ในสัจธรรม แต่จำต้องดำเนินชีวิตต่อไปตามวิธีที่ผิดคลองธรรม
ดังนั้น เช้ามืดในวันรุ่งขึ้น ฟ้ายังไม่สางดี นางก็ยันกายลุกขึ้น หลังจากล้างหน้าสีฟันเสร็จ นางก็ให้มู่เหอเตรียมรถม้าไปทางห้องผลิตอาวุธของจวนอู่เสวียนอ๋อง
นางกำลังขบคิด หากว่ามีวันหนึ่ง นางในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ประสบความสำเร็จแล้ว เช่นนั้นจะทำให้ตำแหน่งฐานะของผู้หญิงในสังคมนี้สูงขึ้นมาสักนิดได้หรือไม่ ถึงแม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานภาพปิตาธิปไตยได้ทั้งหมด แต่ทว่าการยกฐานะขึ้นมาได้สักหน่อย จะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของผู้หญิงมากมายได้หรือไม่
นางไม่ใช่บุคคลที่ยิ่งใหญ่ ทว่านางกลับคิดทำในสิ่งที่ตนสามารถทำได้ ขอเพียง ใจอย่าได้หวาดหวั่น
ฟ้าเพิ่งจะสาง ภายในห้องศาสตราวุธล้วนเงียบสงบ มีช่างเหล็กจำนวนหนึ่งที่ตื่นแต่เช้าถือเอาถังไม้ไปล้างหน้าที่ในสวนพลางเล่าเรื่องเกี่ยวกับนางโลมที่ไม่รู้ว่าไปได้ยินจากที่ใดอย่างสนุกสนานไปพลาง
ยามที่หลินซีนเยียนพามู่เหอเดินเข้าไปในสวน เหล่าช่างตีเหล็กรีบเย็บเก็บบทสนทนา เปลื้องบั้นเอวกลับเข้าไปหลบอยู่ในห้องทันควัน ทั้งวิ่งทั้งยังสบถพล่าม เช้าตรู่ขนาดนี้ หญิงนางหนึ่งวิ่งโร่เข้ามาในสถานที่ที่มีชายฉกรรจ์มากมายเพียงนี้ นี่มันเรื่องอื้อฉาวอันใด
หลินซีนเยียนไม่แยแสปฏิกิริยาของพวกเขาในฉับพลัน ภายใต้การนำร่องของมู่เหอนั้นได้ตรงเข้าไปค้นเจอผู้ดูแลห้องศาสตราวุธ ผู้ดูแลคนนั้นบอกว่าโจวหลี่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานทั้งคืนจนป่านนี้ยังไม่ออกมา หลินซีนเยียนรีบให้ผู้ดูแลนำทางไป คนจำนวนหนึ่งต่างรีบเดินไปยังทิศทางของห้องทำงานนั้นทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...