ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 281

ตอนที่ 281 อบอุ่นใจ

เมื่อเทียบกับของมีคมอย่างใบมีดพวกนั้นแล้ว แส้ยาวเส้นนี้ไม่ด้อยไปว่าเลย อีกทั้งยังคมกริบมากหลายเท่า

โม่จื่อยี่ยากที่จะนั่งยองตัวแล้วอุ้มเสาเข็มไม้ที่หักขึ้นมาดู เดิมคิดว่าเป็นเพียงรอยไม่ลึกมากเส้นหนึ่ง คิดไม่ถึงว่ามันจะตัดไปทั้งท่อน! มันอยู่เหนือความคาดหมายยิ่งนัก

สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่ทำสิ่งนี้ออกมากลับเป็นสตรีคนหนึ่ง ตอนแรกที่ได้ยินโม่จื่อเฟิงบอกว่าหลินซีนเยียนทำอาวุธเป็น เขายังไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ได้เห็นกับตาตนเองแล้ว กลับเพิ่งพบว่าสตรีคนนั้นสุดยอดมาก ช่างฝีมือแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศไหนย่อมเป็นบุคคลที่มีความสามารถที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นของที่หลินซีนเยียนทำขึ้น?” โม่จื่อยี่ยังไม่กล้าเชื่อ อดที่จะถามอีกครั้งไม่ได้

เมื่อโจวหลี่กับช่างตีเหล็กเฉินได้ยินเขาขานชื่อของหลินซีนเยียนโดยตรง ราวกับรู้สึกไม่ดีใจ ทว่าทั้งสองคนเห็นโม่จื่อเฟิงไม่ได้ตอบสนองอะไร ก็ไม่ได้เปล่งเสียงออกมา

โม่จื่อเฟิงพยักหน้า “ ท่านก็เห็นแล้วมิใช่หรือ?”

“ หากไม่เห็นกับตาของตนเอง ใครจะเชื่อ? ” โม่จื่อเฟิงเอ่ยชมไม่หยุด อดที่จะนำแส้ยาวไปลองกับเสาเข็มไม้อื่นไม่ได้ ทุกแส้ที่ตวัดลงไปล้วนเห็นว่าเบา แต่พอนำแส้ยาวออก ความร้ายกาจกลับเกิดผลทันทีอีก

ในที่สุด หลังจากที่โม่จื่อยี่เกือบจะทำลายเสาเข็มไม้ในสนามฝึกจนหมดก็ถึงจะหยุด เขาชอบแส้ยาวโลหะนั้นมากจนไม่สามารถวางมันลงได้

“ ลองก็ลองเสร็จแล้ว ท่านควรไปแล้วไม่ใช่หรือ? ” ในใจของโม่จื่อเฟิงคิดถึงผู้คนนั้น พอเห็นท่าทางคึกคะนองของโม่จื่อยี่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มเร่งรัด

โม่จื่อยี่ทำหน้าขรึม “ เจ้ากำลังไล่ข้าหรือ? ข้ายังอยากเห็นคนที่ที่ทำแส้ยาวนี่สักหน่อย ถึงจะเคยเห็นแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างแตก ”

เมื่อก่อนในสายตาของเขา หลินซีนเยียนก็แค่สตรีรูปโฉมสวยงามนิดหน่อย ตอนนี้กลับถูกเขามองเป็นช่างเงินแล้ว ฐานะของเขาเป็นถึงผู้ปกครองประเทศ คนผู้นี้ควรจะต้อนรับนางอย่างทรงเกียรติภูมิ มิเช่นนั้นนางจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นในภายภาคหน้า เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการสูญเสียของแคว้นหนานเยว่

ประหนึ่งมองความคิดของเขาออก โม่จื่อเฟิงเอ่ยเสียงเย็นชา “ วางใจเถิด นางเป็นพระชายารองของข้า ชีวิตนี้เป็นคนที่ตระกูลโม่ ไม่มีทางเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นแน่นอน ท่านกลับไปอย่างวางใจเถิด ”

โม่จื่อยี่เบะปากอย่างแค้นใจ พยักหน้าอย่างจำยอม “ เอาเถอะ เห็นแก่ของดีๆที่พระชายารองของเจ้าทำ ข้าจะไม่ถือโทษโกรธเจ้าก็แล้วกัน แส้ยาวโลหะเส้นนี้ข้าเอาไปแหละ ”

หลังจากกล่าวจบ โม่จื่อยี่ยังใช้ศอกกระทุ้งโม่จื่อเฟิง ยื่นหน้าเข้าไปข้างหูของเขาแล้วเอ่ยแผ่วเบา “ ดูไม่ออกจริงๆ เจ้าก็มีวันที่ห่วงใยสตรีคนหนึ่ง ”

โม่จื่อเฟิงให้โจวหลี่หาคนไปส่งโม่จื่อยี่ แล้วถึงจะเดินไปยังห้องของหลินซีนเยียน

ภายในห้อง หน้าต่างล้วนปิดสนิท แม้จะเป็นตอนกลางวัน ทว่าในห้องกลับมืดมา เขาผลักประตูแล้วเดินเข้าไป สะบัดแขนเสื้อไปทีหนึ่งประตูห้องก็ปิดลงอีกครั้ง

บนเตียง ร่างเล็กกระทัดรัดนอนหดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างนิ่งสงบ เขาเดินไปข้างเตียงเห็นท่านางหลับตาคิ้วขมวดแน่นจึงเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างไม่รู้ตัว เขาถอดรองเท้าถุงเท้าแล้วขึ้นเตียงนอนลงข้างกายนาง ยื่นมือไปดึงนางเข้ามาในอ้อมอกของตนเอง

ตอนที่ร่างของนางเข้ามาใกล้ เขาก็พบว่าร่างของนางกลับหนาวเย็น โดยเฉพาะเท้าทั้งสองข้างที่เย็นราวกับแท่งน้ำแข็ง

เมื่อก่อนเคยได้ยินมานานแล้ว ช่วงหน้าหนาวสตรีบางคนร่างจะเย็นโดยธรรมชาติ จะนอนหลับอย่างไรก็ไม่รู้สึกอบอุ่น เขาเพิ่งจะตระหนักถึง บางครั้งหลินซีนเยียนก็เป็นสตรีเช่นนี้ นอนหลับไปสักพักมือเท้ายังคงเย็นอยู่

เขาทอดถอนหายใจ กุมมือของนาง แล้ววางเท้าของตนเองอยู่ระหว่างเท้าของนาง

อุณหภูมิร่างกายของเขาทำให้นางรู้สึกอบอุ่น นางจึงกระเถิบเข้าไปในอ้อมอกของเขาตามสัญชาตญาณ ตอนอุณหภูมิร่างกายค่อยๆอุ่นขึ้น คิ้วที่ขมวดติดแน่นของนางก็ค่อยๆคลายออก

ครั้งนี้ หลินซีนเยียนนอนหลับสนิท จนกระทั่งถึงยามเที่ยงคืนถึงจะตื่น ก็เห็นโม่จื่อเฟิงที่นอนอยู่ข้างกาย ทว่าเขายังกอดเธออย่างแน่นหนา ใช้เท้าทั้งสองข้างของเขาอุ่นเท้าของเธอ ใช้มือของเขาอุ่นมือของเธอ เมื่อสัมผัสความอบอุ่นบนหลังมือแล้ว ทำให้เธอรู้ว่า ฉากตรงหน้าไม่ใช่ความฝัน

เธอมีอาการมือเท้าเย็นมาโดยตลอด เมื่อก่อนตอนถึงหน้าหนาว เธอจะเอาถุงน้ำร้อนวางในเตียง เพื่อนสนิทในหอพักเคยล้อเธอว่ามีชีวิตเหมือนคุณย่าคนหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ถือสาอะไร มักจะคิดว่าใช้ถุงน้ำร้อนแล้วปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนร่วมห้องจะหัวเราะเยาะอะไรเธอ เธอก็ยังมีนิสัยแบบนี้

หิมะตกมาหลายวัน เธอคิดว่าควรจะเอาขวดน้ำเต้าใส่น้ำร้อนใช้เป็นถุงน้ำร้อนสักอัน แต่น่าเสียดายที่ต้องมาทำแส้ยาวโลหะ ทำให้ต้องเลื่อนเวลาขวดน้ำเต้านี้ออกไป แล้วต้องไปอยู่คลังอาวุธอีก ก็ยิ่งไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น ดังนั้นตอนที่นอนหลับมักจะรู้สึกไม่สบาย

“เจ้าตื่นแล้วหรือ? ” โม่จื่อเฟิงตื่นตัวอยู่ตลอด ตอนเห็นนางกำลังลืมตา แล้วเห็นนางจ้องมองตนเองอยู่ตลอด เขาเลยสงสัย “ ยังไม่ตื่นดีหรือ? นี่ไม่ใช่ความฝัน”

“อื้ม”หลินซีนเยียนขานรับ มุมปากยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วหดตัวอยู่ในอ้อมอกอีกเขาอย่างไม่รู้ตัว เอาหน้าซุกที่หน้าอกของเขาแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ ขอบคุณ”

“ ไม่เป็นไร เจ้าเป็นสตรีของข้า ไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณกับข้าตลอด ” โม่จื่อเฟิงยกมือขึ้นมาลูบหัวของนาง ราวกับคิด ราวกับลังเลอยู่นาน ทว่ากลับไม่มีคำพูดที่อยากจะพูดออกไป สุดท้ายเพียงแค่ประทับจูบอย่างอ่อนโยนลงบนหน้าผากของนาง

เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของเขา หลินซีนเยียนกระพริบตาปิ๊บๆ จ้องที่คางของเขาแล้วเอ่ย “เจ้า....”

เพียงแต่ตอนที่นางเปิดปาก คำพูดที่ยังเหลือกลับถูกจูบของเขาอุดอยู่ในลำคอ เขาจูบอย่างอ่อนโยนมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่หยาบกระด้าง ประหนึ่งลิ้มลองรสชาติแสนอร่อย ทุกเซลล์ประสาท ทุกรสชาติ เขาราวกับไม่ยอมพลาด

ผ่านสักพัก ตอนที่หลินซีนเยียนใกล้จะหายใจไม่ออก เขาถึงจะผละนางออก ตอนที่นางยังไม่ทันได้ตั้งสติ ก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาดังมาจากข้างหู

“ ข้าขอโทษ ”

คำ 3 คำ เขาพูดอย่างจริงใจและปวดใจ

หลินซีนเยียนชะงักนิ่ง พลันเข้าใจว่าเขาขอโทษเรื่องอะไร นางขบฟันแล้วส่ายหน้า “ เรื่องนี้เจ้าก็ผู้เสียหาย ไม่จำเป็นต้องขอโทษข้า เป็นข้าที่เห็นแก่ตัว มักคิดว่าในใจเจ็บปวด ทว่ากลับไม่ห่วงความรู้สึกของเจ้า หลายวันนี้ เจ้าเสียใจมากใช่หรือไม่? ”

นางเข้าใจดีคนอื่นเป็นอย่างดี ทำให้โม่จื่อเฟิงเริ่มสำนึกผิด เขาถอนหายใจแล้วเอ่ย “ วันนั้นตอนที่ข้าส่งจินมู่ไปรับเจ้าก็รู้สึกว่าเรื่องมันไม่ถูกต้องเท่าไร แต่ก็ยังตกอยู่ในแผนของนางเข้าจนได้ เป็นโอกาสที่ข้าไม่สามารถลงมือกับพวกนางได้! จนถึงบัดนี้ข้ารู้สึกหวาดกลัว หากไม่ใช่เจ้าทำลายแผนการของพวกนางได้ เช่นนั้นระหว่างเจ้ากับข้าคงไม่ต้องบอกลากันชั่วชีวิตจริงๆหรือ? ”

ก็ใช่น่ะสิ ตอนที่เธอเห็นเขากับอวิ๋นเสี่ยวยิงทำเรื่องอย่างนั้นแล้วก็ไม่กล้าสู้หน้าและจะหลบถอยไป เมื่อเรื่องนั้นได้เกิดขึ้นแล้วก็เป็นผลที่ทำให้พวกเขาทั้งสองเจ็บปวดทั้งชีวิตมากเกินพอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต