ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 293

ตอนที่ 293 เซียวต้าเจีย

ไม่กี่คนที่นำกล่องมามองหน้าอีกฝ่ายไปมา ล้วนกระตุกมุมปากอย่างอดไม่ได้ นี่เห็นได้ชัดว่ากล้ามเนื้อมือของท่านคร้ามใหญ่จึงสามารถโยนได้ไกลเพียงนี้ ไม่เห็นหรือว่าทั้งกล่องปืนยาวนี้พวกเขาต้องใช้จำนวนคนตั้งห้าคนจึงจะแบกมาได้ ความหนักของปืนยาวแต่ละกระบอกก็ไม่ต่ำกว่าห้ากิโลกระมัง

หลี่อวิ๋นซ่านปรายตามองปืนยาวที่กองพะเนินอยู่บนพื้นแวบหนึ่ง หัวคิ้วขมวดมุ่น ส่ายศีรษะ “กระบอกนี้ไม่ไหวจริงๆ ท่านดูปากกระบอกปืนนั่น เพิ่งใส่ดืนปืนเข้าไปปากก็ร้าวแล้ว นี่หากว่าวางอยู่บนสนามศึก ดาบยาวเล่มเดียวก็สามารถทำให้ปากปืนกระบอกนี้ขาดฉับแล้ว”

หัวหน้าโรงงานอาวุธสาวเท้าเข้าไปพินิจดู พยักหน้าติดกัน “ใช่ ใต้เท้าหลี่ที่แท้สายตาแหลมดุจดวงประทีปจริงๆ ปราดเดียวก็ดูข้อบกพร่องของปืนยาวนี่ออกแล้ว”

ในเรื่องการเสียดสีของเขา หลี่อวิ๋นซ่านทำเพียงตอบรับเสียงบาง ท่าทางหยิ่งยโสและการแสดงออกอันเย็นชานั่น แม้นว่าเปลี่ยนเป็นบุคคลทั่วไปย่อมลงจากแท่นยากแน่ แต่หัวหน้าโรงงานอาวุธเสมือนกับคุ้นชินกับหลี่อวิ๋นซ่านที่เป็นแบบนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ซ้ำเดินไปยังหน้ากล่องหยิบปืนกระบอกอื่นขึ้นมาดู

เขาดูซ้ำไปซ้ำมา รู้สึกว่าปืนยาวเหล่านี้ล้วนไม่เลว หันไปบัญชาลูกน้อง “ใช่แล้ว ไปเรียกเซียวต้าเจียมาดูสักหน่อย เซียวต้าเจียเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรื่องแบบนี้ให้เขาได้สัมผัสดูจะดีกว่า”

ลูกน้องรับบัญชา พลันหมุนกายไปเชิญเขามา

หัวหน้าโรงงานผลิตจึงค่อยหันหน้ามาเรียกหลี่อวิ๋นซ่าน “ใต้เท้าหลี่ เช่นนั้นท่านก็มาดูสักหน่อยเถิด ถึงแม้ท่านทำอาวุธไม่เป็น แต่ว่าความเห็นเกี่ยวกับอาวุธยังทำให้ข้าน้อยคารวะยิ่ง”

“ไม่ใช่ว่าท่านให้เซียวต้าเจียมาดูแล้วหรือ เขาคิดว่าดีก็จะต้องดีแน่แล้ว เหตุใดข้าต้องดูอีก” หลี่อวิ๋นซ่านมีสีหน้าบึ้งตึง จ้องกระดานหมากล้อมเบื้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เห็นได้ชัดว่ายังโกรธเคืองกับการเดินหมากของหัวหน้าโรงงานอาวุธเมื่อครู่อยู่

หัวหน้าโรงงานอาวุธทำใจดีสู้เสือ กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกเกร็งระลอกหนึ่ง แต่ว่าท้ายสุดแล้วยังคงปราศจากการถือสาเอาความเขา ก็ควรหรอก เจ้าตัวทำเพียงไปลูบกอดเคล้าคลึงปืนยาวเหล่านั้นต่อ

ผ่านไปสักพัก คนที่ไปเรียกเซียวต้าเจียก็กลับมา แต่ว่าคนที่กลับมานั้นหน้าถอดสี กล่าวรายงานต่อหัวหน้าโรงงานอาวุธ “ใต้เท้าหัวหน้าโรงงานอาวุธ เคราะห์ร้ายจริงๆ เซียวต้าเจียโรคกำเริบอีกแล้วขอรับ ตอนที่ข้าเจ้าเพิ่งไปหาเขาก็เห็นเซียวต้าเจียกำลังอาละวาดอยู่ ของภายในสวนถูกขว้างปาหมด ข้าน้อยไม่กล้าไปเรียกอีก ดังนั้นจึงรุดกลับมาเลยขอรับ”

พอหัวหน้าโรงงานอาวุธได้ฟัง ก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ กล่าวพลางส่ายศีรษะ “ช่างน่าสงสารจริง เป็นช่างทองคนหนึ่งแท้ๆ กลับเป็นโรคประหลาดเสียได้”

ฟังถึงคำนี้ หลี่อวิ๋นซ่านที่มีสีหน้าปั้นยากตลอดก็เดินเข้ามาอย่างอดไม่ได้ มุ่นคิ้วถามคนที่กลับมาผู้นั้น “โรคกำเริบอีกแล้ว? ไม่ใช่ว่าหนึ่งเดือนจะกำเริบหนึ่งครั้งหรอกหรือ นี่เพิ่งครึ่งเดือนเหตุใดจึงกำเริบแล้ว” ในถ้อยคำของเขา ราวกับมีร่องรอยของความห่วงใยอยู่หลายขนัด

“ข้อนี้ข้าเจ้าก็ไม่สืบรู้ขอรับ แต่ใต้เท้าหลี่โปรดวางใจ มีคนคอยดูแลของเซียวต้าเจียอยู่ ไม่อาจเกิดเรื่องกับเซียวต้าเจียได้ แต่เกรงว่าหลายวันนี้ไม่สามารถผลิตอาวุธได้อีกขอรับ” คนผู้นั้นตอบกลับอย่างนอบน้อม

หลี่อวิ๋นซ่านฟังแล้ว ทอประกายวิตกในดวงตากลับยิ่งเข้มข้นขึ้น กล่าวเสียงเย็น “คนในครอบครัวของเขา? ข้าดูแล้วคนในครอบครัวเขาก็ไม่ได้เรื่องอะไร”

“...” หลี่อวิ๋นซ่านพูดจาตรงไปตรงมา ทว่าคนผู้อื่นกลับไม่ได้เป็นแบบเขา อย่างไรเสียเซียวต้าเจียก็ฟังคำของคนในครอบครัวมากที่สุด ใครก็ไม่อยากไปล้ำเขตช่างทองคนนั้นโดยใช่เหตุ

หัวหน้าโรงงานอาวุธไม่มีเวลาว่างมากพอจะสนใจความเงียบงันอันงงงวยรอบด้าน กล่าวอย่างวิตก “ ดาบหิรัญที่ขุนพลเฉินต้องการผ่านไปอีกสามวันก็ต้องส่งพัสดุแล้ว ดาบหิรัญเล่มนี้เป็นของที่เซียวต้าเจียทำเรื่อยมา หากปัจจุบันนี้เซียวต้าเจียโรคกำเริบล่ะก็ เช่นนั้นการส่งพัสดุจะทำอย่างไร”

“นี่มันจะไปยากอะไร ไม่ใช่ว่ามีช่างฝีมือมาใหม่เป็นโขยงรึ ดูสิว่าในนั้นมีคนพอใช้การได้หรือไม่ ให้คนผู้นั้นรับช่วงไปทำต่อ หากว่าทำสำเร็จ ก็เป็นรางวัลใหญ่! หากทำไม่เสร็จ ไม่ใช่ว่าเป็นการผลักให้เป็นแพะรับบาปออกไป?” ตอนที่หลี่อวิ๋นซ่านเอ่ยคำก็เดินไปดูในกล่องตามใจชอบ

“ใช้แล้ว! ใต้เท้าหลี่เฉียบแหลมไร้เทียมทานนัก!” หัวหน้าโรงงานอาวุธหัวเราะขึ้นมาอย่างสดชื่นแจ่มใส “อย่างไรเสียก็เป็นคนที่มาใหม่ ผลักไปรับโทษก็รับโทษประไร ไม่ได้มีผลกระทบอันใดกับพวกเราอยู่แล้ว เผื่อว่าทำดีแล้ว พวกเรายังได้หน้า นี่ช่างสุดยอด สุดยอดจริง!”

หลี่อวิ๋นซ่านคร้านจะใส่ใจความสอพลอของหัวหน้าโรงงานอาวุธ เรื่องเล็กแค่นี้ยังคุ้มค่าแก่การใช้มันสมอง? ช่างเป็นไม้ใหญ่ไร้ประโยชน์เสียจริง...

คิดแบบนี้ เขาพลันขาดแคลนความสนอกสนใจ หาววอดเตรียมกลับไปพักผ่อน ใครจะรู้ฝีก้าวเพิ่งย่าง แสงแดดก็ตกบนปืนยาวกระบอกหนึ่งภายในกล่อง จากนั้นเขาดึงสติหยิบเอาปืนกระบอกนั้นขึ้นมา มุมปากเผยรอยยิ้มแห่งความชื่นชม ซ้ำยังโยนปืนกระบอกนั้นใส่อ้อมอกของหัวหน้าโรงงานอาวุธ “ข้าดูนะ ก็ให้คนที่ทำปืนลำนี้ไปตีดาบหิรัญที่ขุนพลหลี่ต้องการเถิด!”

หัวหน้าโรงงานอาวุธกอดรัดปืนยาวนั่นอย่างนิ่งงัน ยังไม่ค่อยมีการตอบสนองนัก แต่ว่าในส่วนของหลี่อวิ๋นซ่าน ราวกับเขาเป็นพวกลิ้นทองทำให้คนเชื่อถือง่าย ทั้งหมดทำตามคำสั่งของหลี่อวิ๋นซ่านโดยปราศจากท่าทีกังขาใดๆ

ตอนที่ฟ้าใกล้มืด หลินซีนเยียนยังไม่ทันได้กินข้าวก็ถูกเหล่าหลิวเรียกตัวมายังภายในเพิงทำงานเล็กๆ เพิงหนึ่ง

ระหว่างทาง เหล่าหลิวได้บอกสาเหตุของเรื่องราวอย่างง่ายแก่นางแล้วรอบหนึ่ง ความหมายสังเขปคือเดิมทีช่างฝีมือที่รับผิดชอบตีดาบหิรัญเกิดป่วยกะทันหัน ซ้ำดาบหิรัญเล่มนี้ยังต้องผลิตให้แก่บุคคลสำคัญ ไม่อาจล่าช้า และนางเป็นช่างฝีมือที่มาใหม่ ใต้เท้าหลี่แสดงเจตจำนงชัดให้อยู่ต่อและรับมอบตีดาบหิรัญ ดังนั้นนี่คือเกียรติยศอันยิ่งใหญ่

ในมุมมองของเหล่าหลิว นี่ก็เป็นโอกาสที่หลินซีนเยียนจะเปิดตัวอีกหนึ่ง

“พี่น้องหลิน หากว่าครั้งนี้ท่านทำออกมาดีล่ะก็ เผลอๆ อาจจะได้รับความโปรดปรานจากใต้เท้าหลี่โดยไม่ทันตั้งตัวก็ได้ ถึงเวลานั้นการใกล้ชิดเขาได้รับความไว้วางใจจากเขาก็ไม่ใช่เรื่องลำเค็ญอีกต่อไปแล้ว” เหล่าหลิวเปิดประตูเพิงทำงานเล็กลง ยังค่อนข้างมีอารมณ์ตื่นเต้น

หลินซีนเยียนกลับไม่ได้มองโลกแง่ดีแบบเขา “การมอบหงายงานตีดาบหิรัญให้บุคคลสำคัญประเภทนี้ จะตกมาบนกระหม่อมของผู้มาใหม่แบบข้าอย่างง่ายดายได้อย่างไร ท่านแน่ใจว่าในนั้นไม่มีหลุมพราง? ใช่แล้ว ผู้ที่รับผิดชอบตีดาบหิรัญเล่มนี้ก่อนหน้าเป็นใครกัน”

“ก็คือช่างฝีมือที่พักหลังนี้ล้วนได้รับคำชมเชยจากใต้เท้าหลี่อยู่เรื่อยคนนั้นอย่างไร เซียวต้าเจีย คนในโรงงานอาวุธแห่งนี้ล้วนรู้จัก คนแซ่เซียวผู้นั้นเพิ่งจะมาไม่กี่เดือน กลับทำให้ใต้เท้าหลี่ที่อารมณ์พิลึกตบรางวัลอย่างงามได้” เหล่าหลิวกล่าวเช่นนี้ พร้อมส่ายหน้าอย่างเวทนา “แต่ว่า เซียวต้าเจียผู้นั้นเป็นคนน่าสงสาร ว่ากันว่าเป็นโรคติดตัวมาแต่กำเนิด ตอนที่โรคกำเริบก็ประหลาดจนคนอกสั่น”

“แซ่เซียว?” หลินซีนเยียนรู้สึกว่าในลำคอค่อนข้างปวดแสบ ราวกับความปรารถนาแห่งคำตอบได้ปรากฏ ในโรงงานอาวุธสถานที่ที่รวมตัวช่างฝีมือแบบนี้ ช่างฝีมือผู้สามารถมีกิตติศัพท์โดดเด่นเกรียงไกร ซ้ำยังแซ่เซียว นางแทบไม่ต้องถามมากความก็สามารถฟันธงว่านั่นคือศิษย์พี่ใหญ่ที่นางตามหาเป็นเวลานานเนิ่น

นางเร่งรีบไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “เหล่าหลิว ท่านรู้ว่าเซียวต้าเจียคนนั้นตอนนี้อยู่ที่นี่หรือไม่ เมื่อครู่ท่านว่าเขาเป็นโรคประหลาดนี่มันเป็นเรื่องอันใดกันแน่”

เห็นว่านางมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เหล่าหลิวเผยแววพิศวงทั้งใบหน้า “พี่น้องหลิน ทำไม เซียวต้าเจียนั่นท่านรู้จัก?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต