ตอนที่ 300 มารหัวใจ
“หุบปาก! ทำผิดแล้วยังไม่รู้จักสำนึก!” หัวหน้าโรงผลิตตะโกนกร้าวอย่างร้าวใจ เนื้อเสียงดังลั่น ราวกับจงใจแผดเสียงให้ฝูงชนได้ยิน เขาเริ่มชี้กราดไปยังเหล่าองครักษ์หลายนายพลางกล่าว “ลากเอาตัวช่างฝีมือทั้งสองนี่ออกไปโบยห้าสิบที! ป่าวประกาศแก่ช่างในโรงผลิตทุกนาย ต่อไปนี้ใครยังกล้าไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ก็จะลงเอยดังเช่นพวกเขา!”
“ใต้เท้าหัวหน้าโรงผลิต นี่ไม่ยุติธรรม...” เหล่าหลิวเป็นคนที่บึกบึนคนหนึ่ง ตนถูกโบยยังไม่เท่าใด ทว่าหลินซีนเยียนนี้ป้อแป้ไม่แข็งแรงก็ยังต้องถูกองครักษ์ลากตัวไป จึงเอ่ยเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาอย่างทนไม่ได้
หัวหน้าโรงผลิตฟังคำโพล่งต่ำของเหล่าหลิว รู้สึกว่าเหล่าหลิวทำให้เขาสูญเสียความอดกลั้นอันน้อยนิด ฉับพลันจึงยกเท้าเตะเข้าให้ “ปฏิบัติหน้าที่ไม่ดีก็ต้องได้รับโทษ มีอะไรไม่ยุติธรรม วันนี้พวกเจ้าทำให้ขุนพลหลี่ไม่พอใจ โบยพวกเจ้าห้าสิบครั้งก็นับว่ายังเบาไป หากว่ายังมีข้อแม้อีก พวกเจ้าก็ไสหัวออกไปจากโรงผลิตศาสตราวุธซะ!”
เหล่าหลิวไม่เห็นด้วย ทว่าพอได้ยินว่าจะต้องถูกไล่ออกจากโรงผลิตอาวุธ กลับมีความระส่ำระสายอยู่ไม่น้อย ยิ่งไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะถูกไล่ออกเสียทีเดียว เพียงแต่เกรงว่าจะทำเรื่องที่โหวเย่มอบอำนาจให้ไม่ดี สิ้นเปลืองความสัมพันธ์ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานหลายปีก็เท่านั้น
ความจริงแล้วในอกของหลินซีนเยียนเองก็ไม่ได้เห็นด้วย นางทำเรื่องที่ตนคิดว่าถูกต้อง ไม่อาจเสียใจภายหลัง ทว่าหัวหน้าโรงผลิตทำเรื่องเช่นนี้ออกมาคือใช้วิธีให้คนเป็นแพะรับบาปนางไม่เห็นพ้องด้วยเป็นอย่างยิ่ง ตนได้สู้อุตส่าห์เพียรพยายามมาตั้งหลายวัน ท้ายที่สุดไม่เพียงแต่ไร้ซึ่งรางวัลแห่งความชอบ กลับยังต้องโดนโบยเป็นชุด จะไม่ให้นางรู้สึกชาใจได้อย่างไร
หากว่านี่คือโรงผลิตศาสตราวุธแห่งประเทศหนานเยว่ เช่นนั้นอนาคตของหนานเยว่...ใกล้วินาศรอมร่อ!
ในศาลารับรอง ความจริงแล้วพ่อลูกขุนพลหลี่และหลี่อวิ๋นซ่านกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวนี้อยู่ แต่ว่าในมุมมองของขุนพลหลี่ ต่อให้ของที่ช่างฝีมือนั่นทำจะไม่เลวเลย แต่สรุปแล้วก็ยังเอาชนะช่างฝีมือใหญ่ของประเทศเป่ยหมิงไม่ได้ เช่นนี้ก็ถือว่าแพ้ สำหรับผู้พ่ายแพ้ เขาไม่รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องออกหน้าแทนสักนิด
ส่วนหลี่เยว่ เขายิ่งไม่อาจทำเพื่อคนที่ไร้ความเกี่ยวข้องไปเย้าแหย่เพลิงโกรธของบิดาตนเองแน่ อย่างไรเสีย ปัจจุบันนี้สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องราวจำเพาะ
มีเพียงหลี่อวิ๋นซ่าน ตอนที่เห็นว่าองครักษ์สองนายจับแขนของหลินซีนเยียนแน่น เขายันกายลุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งไม่สนใจแม้สายตาฉายแววพิศวงของขุนพลหลี่ก่อนวิ่งตามออกไปยังทิศทางนั้นอย่างฉับไว
“รอประเดี๋ยว!” หลี่อวิ๋นซ่านจ้ำเท้ามายังเบื้องหน้าของหลินซีนเยียน คว้าหมับเข้าที่แขนของนางพลางกระชากตัวนางจากการเกาะกุมขององครักษ์ทั้งสอง บางทีเขาอาจกังวลใจมากเกินไป จึงใช้กำลังอย่างรุนแรง ฉุดหลินซีนเยียนเข้าสู่อ้อมอกของตน แรงกระชากนั้นมากอย่างยิ่ง เขาไม่อาจห้ามฝีเท้าได้ จึงกอดหลินซีนเยียนเอาไว้ล้มตึงลงทางข้างหลัง
ยามที่ฝูงชนยังไม่ได้ข้อสรุปว่าตกลงแล้วเรื่องเป็นมาอย่างไรกันแน่ ก็เห็นหลี่อวิ๋นซ่านกอดรัดหลินซีนเยียนเซล้มลงบนพื้น อิริยาบถเช่นนั้น หากว่าเป็นชายหญิงคู่หนึ่งแล้วล่ะก็ จะต้องเป็นเรื่องลือกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทว่าหากเป็นคู่ชายชาย เช่นนั้นก็...
คนทั้งหมดถูกฉากเบื้องหน้าทำให้อึ้งค้าง ล้วนสั่นระริกอย่างไม่รู้ตัวกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะยามที่ในแววตาคู่นั้นของหลี่อวิ๋นซ่านทอประกายลึกซึ้งชอบกลแอบแฝง ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าหนังศีรษะเริ่มเหน็บชา
ชายฉกรรจ์คนหนึ่ง ยามที่เห็นหญิงสาวอันเป็นที่รักของตน นัยลึกซึ้งจำพวกนั้นที่ฉายแววอย่างจดจ่อต่อให้ปิดอย่างไรก็ปิดไม่มิด
ก่อนหน้า หลี่อวิ๋นซ่านแสร้งทำได้ดียิ่งนัก ทว่าวินาทีที่ลื่นล้มอย่างตื่นกลัว บางทีอาจจะกะทันหันเกินไปจนทำให้เขาเปลี่ยนเป็นเสแสร้งไม่ทัน ดังนั้นจึงให้ความรู้สึกที่แท้จริงของตนเปิดเผยต่อหน้าฝูงชนเช่นนั้น
หลี่เยว่คิดว่าตนตาฝาดไป กระแอมไอ แอบดึงแขนเสื้อของบิดาตนเองบริเวณใต้โต๊ะ “ท่านพ่อ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...