ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 362

ตอนที่362รู้สึกตัว

"ข้าน้อย..."

หนีหว่านกำลังจะยอมรับโทษแน่ว่าคำว่ามิกล้ายังไม่ทันได้พูดออกมาก็รู้สึกถึงเงาดำตรงหน้าโม่จื่อเฟิงเข้ามาใกล้แล้วใช้เท้ากระทืบลงตรงหน้าอกของนางอย่างแรงนางได้รับความเจ็บปวดร่างทั้งร่างกระเด็นไปบนทรายสีเหลืองทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้น

ร่างกายของโม่จื่อเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บหนักการลงมือแบบนี้สำหรับร่างกายของเขาเองถือว่าได้รับความเสียหายอย่างมากเค้ากระทืบลงไปก็ถึงกับกระอักเลือดออกมา

นายรักษาตัวเองด้วยข้าน้อยทำเอง!"หนีหว่านเห็นเขากระอักเลือดสีหน้าก็ทั้งกลัวแล้วก็เป็นห่วงนางกัดฟันตัวเองแน่นแล้วก็ยกมือขึ้นชกตัวเองน้ำหนักมือเต็มแรงไม่ได้คิดจะเล่นลูกไม้ใดๆ!ชกไปเรื่อยๆร่างกายของหนีหว่านก็โอนเอนไปตามแรง

แต่ว่านายไม่เอ่ยปากบอกให้หยุดนางก็ไม่กล้าหยุดดังนั้นในสายตาที่เป็นห่วงของทุกคนนางชกหมัดใส่ตัวเองหมัดแล้วหมัดเล่าทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างๆต่างก็ปวดใจ

แม้แต่จินมู่ก็อดไม่ได้ที่อยากจะเอ่ยบอกขอร้องแต่ว่าแววตาโกรธเคืองของโม่จื่อเฟิงนั้นโหดร้ายจนถึงที่สุดเพราะงั้นก็เลยไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขอร้องเขาแม้แต่คำเดียว

"เจ้าคิดว่าที่ข้าต้องการคือแผนที่ไม่กี่ใบนั้นน่ะหรอ?"โม่จื่อเฟิงหัวเราะเยาะในเสียงหัวเราะกลับมีน้ำตาหัวเราะไปด้วยส่ายหัวไปด้วย"แค่กระดาษภาพไม่กี่ใบแค่นั้นมันจะไปมีค่าอะไรมีค่าอะไร!"

เขาตะคอกเสียงต่ำทุกคนที่คุกเข่าอยู่ต่างตกใจจนยิ่งก้มหัวต่ำจนจะถึงพื้นเข้าไปอีก!

"เมื่อเทียบกับนางแม้ว่าจะได้แผ่นภาพมาจนครบแต่สำหรับข้ามันก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลย!"โม่จื่อเฟิงพูดเสียงดังออกมาสองขาก็ทรุดลงกับทรายสีเหลือง

ลมพัดมาก็นำพาทรายพัดโดนหน้าของเขาเข้าไปในตาของเขาทำให้ดวงตารู้สึกเคืองๆ

หนีหว่านมองดูโม่จื่อเฟิงที่นั่งลงกับพื้นวินาทีนั้นก็รู้สึกว่าเจ็บปวดหัวใจขึ้นมานางรู้เขาสนใจผู้หญิงคนนั้นมากแต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะสนใจนางถึงขั้นนี้

นางคือคนสนิทที่เชื่อใจได้ข้างกายเขาก็ย่อมรู้โดยธรรมชาติว่าเส้นทางที่เขาเดินนี้ผ่านอะไรมาบ้างเขาอยากได้แผนที่ภาพอยากที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่จนต่อกรกับตระกูลที่มีมาหลายร้อยปีนั้นได้นางเห็นความขยันพยายามและสิ่งที่เขาต้องแลกมาเพราะแบบนั้นเขารู้ดีว่าแผนที่ภาพสำหรับเขาแล้วมีความหมายอะไร

แต่ตอนนี้เขากลับพูดว่าแผนที่ภาพทั้งหมดก็เทียบอะไรกับผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในใจเขาไม่ได้เลย!

หนีหว่านจู่ๆก็รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมานางหัวเราะแล้วทั้งๆที่หัวเราะแท้ๆแต่ในดวงตากลับมีน้ำตาไหลออกมานางพูดอย่างสะอื้น:"นายขอโทษนะนายข้าไม่รู้ว่านางจะสำคัญสำหรับท่านมากขนาดนี้...."

หนีหว่านร้องไห้ออกมาหากว่านางรู้ก่อนละก็นางจะไม่เพราะว่าไปตามหาแผนที่พวกนั้นแล้วทำให้ผู้หญิงคนนั้นต้องเกิดอันตรายขึ้นแม้แต่น้อยเลยนางยิ่งไม่มีทางทำให้เขากลายเป็นร่างที่ดูไร้วิญญาณแบบนี้แน่ๆ

อากาศเย็นลงสักพักเวลาราวกับหยุดนิ่งไปทุกสิ่งทุกอย่างมีแค่ทรายสีเหลืองที่ลอยปลิวไปเท่านั้น

ทันใดนั้นกลุ่มนกอินทรีดำก็บินขึ้นไปบนฟ้าเมฆดำก็สลายหายไปภายใต้แสงอาทิตย์กลุ่มนกอินทรีราวกับจุดสีดำเล็กๆที่ระยิบระยับอยู่บนฟ้าแล้วก็หายไป

”โม่จื่อเฟิงเปลี่ยนมานั่งตัวตรงแทนสบถออกมา"ให้ตาย!ข้าลืมเบาะแสสำคัญไปซะสนิท!"

ทุกคนยังคงไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรแล้วก็ฟังที่เขาสั่งจินมู่ว่า:"จินมู่นับดูว่าเลือดพวกนี้มีอยู่เท่าไหร่?"

”จินมู่ตกใจเล็กน้อยพริบตาเดียวก็เข้าใจทันทีรีบไปนับจำนวนของหยดเลือดพอนับเสร็จก็ตกใจจนหน้าซีด"ท่านอ๋องทั้งหมดมีอยู่15หยดเลือด!"

"1515ทหารเล่รื่อกลุ่มนี้มี15คนพอดี!"สีหน้าของโม่จื่อเฟิงเคร่งขรึมกำมือแน่น"สมเป็นคนของเซียงหนานตระกูลหลิงจริงๆรู้ว่าต้องใช้วิธีนี้เพื่อมาก่อกวนใจของข้า!"

”จินมู่กับหนีหว่านก็ตื่นเต้นมากเมื่อเห็นท่าทางของโม่จื่อเฟิงเป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วทั้งสองต่างก็รู้สึกกลัวเรื่องภายหลังรีบพูดขึ้น"ใช่พระชายาจะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่!นางคือกุญแจสำคัญสำหรับตามหาแผนที่ภาพที่เหลืออยู่เซียงหนานตระกูลหลิงจะให้นางตายง่ายๆได้อย่างไร?ก่อนหน้านี้พวกเรามัววุ่นวายมากไปหน่อย"

โม่จื่อเฟิงไม่ได้พูดอะไรในใจมีทั้งเสียใจและดีใจที่โชคดีปนๆกันเขารู้สึกตัวขึ้นมาเขาที่ไม่เคยมีจุดอ่อนใดๆเผยให้ศัตรูเห็นมาก่อนจนถึงตอนนี้กลับถูกศัตรูจับจุดอ่อนได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

นี่สำหรับเขาแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องดีเลยเขาสับสนจนขาดสติทำให้คำนวณออกมาผิดพลาดครั้งนี้แค่เสียเวลากับโอกาสที่จะสะกดรอยตามหลินซีนเยียนไปแต่ครั้งหน้าจะสูญเสียโอกาสที่จะช่วยชีวิตนางไปหรือเปล่า?

ให้ตายเถอะ!"โม่จื่อเฟิงสบถออกมาสายตามองไปยังข้างหน้าไกลสุดสายตาในที่ไกลๆพื้นที่ของทะเลทรายนอกจากลมจากทะเลทรายอะไรก็ไม่มีเลยเขาละสายตาไม่ได้เลย

ฟ้ามืดแล้วค่ำคืนที่ไม่มีแสงดาวมีเพียงภาพความมืดมิดที่ดำสนิท

ในบ้านเก่าๆโทรมๆมีแค่แสงสลัวๆจากตะเกียงลมที่พัดเข้ามาจากทางหน้าต่างก็ได้ได้เป่าให้แสงไฟดับลง

ในทะเลทรายอากาศยามค่ำคืนนั้นย่ำแย่มากกลางคืนยิ่งเหน็บหนาวจนเย็นไปถึงกระดูก

ที่ริมผนังมีคนสองคนขดตัวอยู่คนคนหนึ่งโอบกอดอีกคนหนึ่งไว้แน่นเวลาที่ลมพัดผ่านเข้ามาทั้งสองคนก็หนาวสั่นขึ้นมาพร้อมกัน

หลินซีนเยียนรู้สึกว่าปวดหัวมากอย่างกับจะระเบิดออกมาอย่างนั้นนางค่อยๆลืมตาขึ้นก็เห็นเซียวฝานที่อยู่ใกล้ชิดมาก"ศิษย์พี่.."

ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นสักที"เซียวฝานถึงจะสบายใจขึ้นมาหน่อยแต่กลับไม่ได้ปล่อยมือที่กุมมือนางอยู่

หลินซีนเยียนสะดุ้งตกใจเล็กน้อยแล้วรีบใช้แรงที่มีพลักเขาออกห่างไปเล็กน้อย"ศิษย์พี่ที่นี่ที่ไหน?"

เซียวฝานส่ายหน้า"ไม่รู้แต่ว่าน่าจะยังอยู่ในทะเลทรายนี่แหละไม่งั้นคงไม่หนาวขนาดนี้มีลมพัดทั้งคืนก่อนหน้าเจ้าน่ะเป็นไข้จนสลบไปที่ทะเลทรายนี้ก็ไม่มียาข้ากลัวว่าเจ้าจะไข้สูงจนไม่ไหวแล้ว"ตอนที่พูดอยู่นั้นเซียวฝานก็ยังแบมือออกมาทาบหน้าผากของนางไปด้วย"ก็ยังตัวร้อนอยู่นิดหน่อยแต่ว่าดีกว่าเมื่อกี้ขึ้นเยอะแล้วล่ะ"

มิน่าล่ะนางถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้ที่แท้ก็เป็นหวัดแล้วหลินซีนเยียนสะบัดหัวตัวเองทำให้ตัวเองตาตื่นแล้วถึงจะลองคำนวณบ้านหลังนี้ดูบ้านน่าจะเป็นบ้านหินเก่าๆหลังหนึ่งหินรอบๆต่างก็ผุพังไปไม่น้อยแม้แต่ตะเกียงน้ำมันฝาปิดก็ยังหายไป

"คนชุดดำพวกนั้นล่ะ?"หลินซีนเยียนถาม

เซียวฝานชี้ไปที่ข้างนอกหลินซีนเยียนเลยปีนหน้าต่างไปดูข้างนอกคนชุดดำไม่กี่คนก็จุดกองไฟแล้วนั่งล้อมกองไฟกันพวกเขายังมีเหล้าร้อนแล้วก็อาหารด้วยน่าจะรู้สึกถึงสายตาที่มองมาจากในบ้านชายชุดดำบางคนก็หันกลับมามองรอบหนึ่งแต่แปปเดียวก็หันกลับไปเหมือนเดิม

"พี่ใหญ่พวผู้หญิงพวกนั้นอ่อนแอบอบบางมากเลยพวกเราจะต้องเอาตัวกลับบ้านเราจริงๆหรอ?"ชายชุดดำคนหนึ่งกัดอาหารคำหนึ่งแล้วถามคนที่อยู่ตรงข้าม

เทียนอวิ๋นซีตายด้วยน้ำมือของคนเซียงซีตระกูลหลี่นี่คือคนที่ฉีกสัญญาพันธมิตรของเซียงซีตระกูลหลี่ไม่เห็นเราอยู่ในสายตา!ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นถึงสะใภ้ของนายใหญ่เซียงซีตระกูลหรงพวกเราจะต้องนำนางกลับไปเพื่อทำข้อแลกเปลี่ยนไม่งั้นนายใหญ่ได้ลงโทษเอาพวกเราเองก็จะแน่เอา"คนคนนั้นตอบ

ชายชุดดำที่กัดอาหารพยักหน้า"แต่ว่าพี่ใหญ่เรือนร่างของพวกผู้หญิงพวกนั้นมันช่างมองแล้วชวนน้ำลายไหลซะจริงพวกเราออกมาตั้งครึ่งเดือนแล้วไม่มีเวลาสัมผัสกับผู้หญิงเลยถ้าอย่างนั้น..."

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต