ตอนที่ 376 หมดท่า
องครักษ์ชูราสามนายพอได้ยินโม่จื่อเฟิงกล่าวประโยคนี้ ต่างมองหน้ากันและกัน จากนั้นได้ยินเพียงชายเฒ่าที่เป็นผู้นำทอดถอนใจยาว “เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นั้นก็...รบกันเถิด!”
หลินซีนเยียนค่อนข้างวิตก นางไม่เข้าใจ เวลาเช่นนี้เหตุใดโม่จื่อเฟิงจึงใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา
“เจ้านายเป็นชายชาตรีคนหนึ่ง หากว่าแม้กระทั่งผู้หญิงของตนยังปกป้องไม่ได้ล่ะก็ เจ้านายประเภทนี้ก็อาจจะถูกคนทั้งหมดดูแคลนเอาได้” หนีหว่านราวกับดูความกังขาของนางออก ยามที่เอ่ยคำได้ชักดาบยาวออกมายืนสงบเสงี่ยมอยู่เบื้องหน้าของนาง ปัจจุบันหนีหว่านรู้แล้วว่าหลินซีนเยียนมีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาในใจของโม่จื่อเฟิง เช่นนั้นนางก็ไม่อาจทำให้ตนเองทำข้อผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีกรอบแน่
“แต่ว่า...” หลินซีนเยียนกังวลใจ โม่จื่อเฟิงในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงผู้ชายที่นางใส่ใจเพียงอย่างเดียวแล้ว ซ้ำยังเป็นบิดาของบุตรชายนาง นางจะทนมองเขาไปเผชิญอันตรายแบบนี้ได้อย่างไรกัน
“ไม่มีแต่ อีกอย่าง วันนี้พวกเราไม่ถอนรากถอนโคน ข่าวสารจะแพร่กลับไปสู่ตระกูลหลิง จากกำลังอำนาจของเจ้านายในปัจจุบัน หากจะเสมอภาคทัดเทียมกับตระกูลหลิงจะต้องสูญเสียกันทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน หากว่าเป็นเช่นนี้ ไม่สู้...ฆ่าล้างโคตร!” หนีหว่านแนบชิดข้างหูของหลินซีนเยียน ซ้ำกล่าวประโยคนี้
ในทันใดนั้น หลินซีนเยียนหันหน้ามองนางอย่างตื่นตกใจ เห็นนางมีสีหน้าขึงขัง ไม่ได้มีท่าทีล้อเล่นแต่อย่างใด จึงเพิ่งรับรู้ หนีหว่านไม่ได้ล้อเล่น บางที นับตั้งแต่แรกเริ่ม โม่จื่อเฟิงก็ไม่ได้ตั้งใจให้แม้สักคนใดในที่แห่งนี้หนีออกไปได้
เขาสามารถใช้ชีวิตภายใต้สภาพความเป็นอยู่แบบนั้นได้จนถึงปัจจุบัน เทียบกันแล้ว ไม่ใช่ว่าเจ้าเล่ห์กว่าผู้อื่นหรอกหรือ
หลินซีนเยียนลอบกลืนน้ำลาย มองดูผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในสนาม ผู้คนเหล่านี้ ในสายตาของโม่จื่อเฟิงล้วนเป็นคนที่จำเป็นต้องตายหรือ นี่ก็คือความใจเด็ดห้าวหาญของผู้ที่อยู่เบื้องสูง? เพื่อไม่หลงเหลือพิษภัยภายหลัง เลยเต็มใจทนต่อความอัปยศอดสู แม้ว่าจะถูกคนบนโลกชี้หน้าประณามด่า?
ถึงแม้จะเคยได้พบเห็นวงเวียนปลาใหญ่กินปลาเล็กแห่งสังคมนี้แล้ว ทว่าตอนที่นางเผชิญหน้าต่อฉากแห่งความอำมหิตเช่นนี้อีกครั้ง ในอกยังอดคับแน่นไม่ได้อยู่ นางไม่มีคุณสมบัติจะไปติติงความไม่ถูกต้องของโม่จื่อเฟิง เนื่องจากก็ดังที่หนีหว่านกล่าว หากว่าปัจจุบันคนในที่แห่งนี้ไม่แคล้วตายล่ะก็ ย้อนกลับออกไปรายงานต่อตระกูลหลิงขึ้นมา บางทีทั้งสองฝ่ายอาจจะมีคนล้มตายมากกว่านี้
ขณะที่หนีหว่านและหลินซีนเยียนพูดคุยกันนั้น องครักษ์ชูราทั้งสามนายได้ตีวงล้อมโม่จื่อเฟิงให้อยู่ตรงกลางเรียบร้อยแล้ว การเคลื่อนไหวระหว่างพวกเขาผันแปรอย่างรวดเร็วยิ่ง กลุ่มคนเห็นแต่เพียงประกายแห่งการทำลายล้างปรากฏอยู่กลางอากาศก่อนจะหายสูญไปเป็นระลอกๆ
ซ้ำชายชุดดำที่อยู่ด้านข้างหนีหว่านเองก็เริ่มขยับเขยื้อน กรูเข้าไปสังหารท่ามกลางเฉินเทียนและคนอื่นๆ พวกเขาไม่ใช่ทหารเล่เย่น พวกเขาคือปรมาจารย์กว่ารอบศตวรรษ เฉินเทียนสามารถตัดหัวแม่ทัพของทหารเล่เย่นได้อย่างง่ายดาย ทว่ายามที่เผชิญหน้ากับคนกลุ่มนี้ บทบาทกลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง ถูกโจมตีเสียจนปราศจากเรี่ยวแรงแห่งการตอบโต้คืน
อย่างไรก็ตาม เฉินเทียนและคนอื่นๆ มองออกถึงกฎแห่งการเอาตัวรอดในสังคมแบบนี้ได้มากกว่าหลิงฮ่าว ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ชะตาชีวิตดิ้นรนฝ่าฟัน ทั้งสู้ศึกทั้งถอยร่นออกไปยังนอกสวน
แต่หลิงฮ่าว กลับมีความมั่นอกมั่นใจต่อองครักษ์ชูราทั้งสามนายเป็นอย่างมาก ยังคงหยัดยืนและเฝ้ามองการต่อสู้อยู่ด้านข้าง ซ้ำยังไม่หยุดร้องคำราม “ฆ่าเขา! ฆ่าเขา! ข้ากลับถึงเรือนแล้ว จะต้องตบรางวัลให้พวกเจ้าอย่างงาม!”
องครักษ์ชูราทั้งสามไม่มีเวลาว่างฟังเขาพล่ามไร้สาระ เพียงแต่ตอนที่ชายชุดดำโถมเข้าใส่ข้างกายของหลิงฮ่าว กำลังจะลงมือสังหารหลิงฮ่าวนั้น องครักษ์ชูรานายหนึ่งร่นถอยออกจากวงศึก กรูเข้าไปป้องภัยยังทิศทางของหลิงฮ่าว!
ชายชุดดำที่โจมฆ่าหลิงฮ่าวกลับไม่ใช่คู่ปรับขององครักษ์ชูรานายนั้น ฝ่ามือเดียวก็ถูกซัดปลิว ทว่านอกจากนั้นยังมีชายชุดดำสองนายลุยดะเข้ามาติดกันอีกครั้ง หยุดยั้งการเคลื่อนไหวขององครักษ์ชูรานายนี้เอาไว้
โม่จื่อเฟิงรับมือกับศัตรูแบบสองรุมหนึ่ง ความกดดันในห้วงนี้ผ่อนคลายลงไม่น้อย ได้ยินเพียงเสียงกระหึ่มลอยดังมาจากม่านอากาศ องครักษ์ชูรานายหนึ่งทรุดลง เซล้มบนพื้นพรวดพ่นโลหิตสดๆ ออกมาหนึ่งสำรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...