ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 39

สรุปบท ตอนที่ 39 ข้าจะรอเจ้า: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนที่ 39 ข้าจะรอเจ้า – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต

ตอนนี้ของ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 39 ข้าจะรอเจ้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 39 ข้าจะรอเจ้า

หลินซีนเยียนถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว เธอถอยหลังจนชนกับขอบเตียงที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นเธอก็นั่งลงบนเตียง“ท่าน ท่านอ๋อง ข้ามีระดูจริงๆ”

“อืม ให้ข้าดู”เสียงของโม่จื่อฟงดังมาจากบนหัวของเธอ โลกที่นางได้อยู่ สักพักก็ได้ก็จมลงสู่ความมืดมิด

แสงเทียนโดนลมพัดจนดับลงหมด ในห้องได้เกิดระลอกคลื่นผ่านมาตลอดไม่ยอมหาย

ไม่มีใครรู้ว่าตรงมุมหนึ่งของลานบ้าน มีเงาเล็กๆ แหงนหน้ามองไปยังหน้าต่างชั้นสอง ดวงตาของเขาได้หายไปในความมืด แต่ความเกลียดชังในดวงตาคู่นั้น กลับทำให้องครักษ์เงาที่อยู่รอบๆ ไม่สามารถมองข้ามผ่านไปได้

เด็กอายุเพียง 7 ปี กลับมีความเกลียดชังมากขนาดนี้

องครักษ์เงา 2 คนรู้สึกแปลกใจ คิดจะนำเรื่องนี้ไปรายงานกับนายท่านของตนเองโดยที่ไม่ปิดบัง

ตอนที่อี้เซิงยืนอยู่ในความมืดนั้น หลินซีนเยียนที่คลุมเสื้อขนสัตว์ก็เดินออกมาจากห้องนั้น เธอหาวหวอดหนึ่งแล้วเดินลงจากชั้น 2 ด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้า

เมื่อเห็นเด็กยืนอยู่ตรงมุม เธอก็ตกใจจนความง่วงหายเป็นปริดทิ้ง

“อี้เซิง?”เธอรีบเดินเข้าไป ยื่นมือเขาไปกอดเด็กไว้ในอก เขาสวมเสื้อผ้าบางแล้วยืนอยู่ในลานบ้านนานเกินไป ทำให้ตัวของเขาเย็นไปหมด

หลินซีนเยียนใช้มือของตนเองถูคลายหนาวที่มือของเขา“ให้เจ้ากลับไปพักผ่อนแล้วไม่ใช่รึ? เจ้ายืนอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว?ทำไมไม่ยอมเชื่อฟังพี่?”

“ข้ามารอท่าน” อี้เซิงจ้องหน้าของเธอไม่กระพริบตา กระแสความชั่วร้ายได้หายไปนานแล้ว เหลือเพียงความเป็นห่วงและความเจ็บปวดเท่านั้น

เขาเป็นคนพูดน้อย แต่คำพูดไม่กี่คำจากปากของเขากลับทำให้หัวใจของหลินซีนเยียนอบอุ่นขึ้นมา เธอลูบหัวของเขาอย่างอ่อนโยน “พวกเรากลับห้องกันเถอะ ต่อไปห้ามมารอแล้ว ข้าไม่เป็นไร”

ไม่เป็นไรจริงๆ รึ?

สายตาของอี้เซิงมองไปที่รอยฟกช้ำบนกระดูกไหปลาร้าของเธอ จากนั้นก็รีบหันหน้าหนีไปทันที เขาส่งเสียงตอบกลับและเดินกลับห้องไปกับหลินซีนเยียนอย่างว่าง่าย

เช้าวันรุ่งขึ้นมีหิมะตกหนัก คนในโรงเตี๊ยมต่างยุ่งวุ่นวายกับหน้าที่ของตนเองตั้งแต่เช้า ใบหน้าของทุกคนไม่ปรากฏความกังวลหรือความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ราวกับลืมเรื่องการฆ่าฟันเมื่อคืนนี้ไปหมดแล้ว หรือพวกเขาอาจจะเห็นจนเคยชินจึงไม่รู้สึกอะไร

จินมู่เตรียมรถม้าให้หลินซีนเยียนกับอี้เซิงแล้ว การเดินทางหลังจากนี้ หลินซีนเยียนและอี้เซิงก็อยู่ในนั่งรถม้าคันนั้น ซึ่งเป็นรถม้าคันสุดท้ายของขบวนออกเดินทาง กลับไม่เห็นเงาของโม่จื่อฟงอีกเลย

หลินซีนเยียนรู้สึกเงียบสงบ หากมีชีวิตที่เงียบสงบแบบนี้ตลอด คงจะเป็นเรื่องดี

หลายวันนี้ หลินซีนเยียนเข้าใจอี้เซิงมากยิ่งขึ้น คนเด็กนี้ฉลาดมากกว่าที่เธอคิดไว้ซะอีก ตลอดการเดินทาง เธอสอนเขาอ่านหนังสือ ทุกคำที่เธอสอนไปแค่รอบเดียว เขากลับจำได้ทันที แม้แต่กลอนโบราณที่จำยากพวกนั้น เขาฟังเพียงรอบเดียวก็จำได้แล้ว

เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ติดตัวมาอย่างชัดเจน! หลินซีนเยียนราวกับเก็บของล้ำค่ามาได้ อยากจะสอนความรู้ทั้งหมดของตนเองให้กับเขาอย่างมาก

“คือสาวใช้อุ่นเตียงของท่านอ๋องใช่หรือไม่?”

น้ำเสียงเข้มงวดของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น หลินซีนเยียน หลินซีนเยียนเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งแต่งกายเรียบร้อยยืนอยู่หน้าประตู

ประตูนี้ ไม่ใช่ประตูหลักของจวนอ๋องอู่เสวียน เป็นประตูข้าง ในสังคมที่เข้มงวดเรื่องชนชั้น ทุกคนในบ้านใหญ่มีเพียงเจ้านายที่สามารถเดินเข้าออกประตูหลักได้

นางเดินมาข้างหน้าของหลินซีนเยียน มองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วทำหน้าตาเหยียดหยาม“รูปร่างหน้าตาถือว่าไม่เลว มิน่าท่านอ๋องถึงได้โปรดปราน ”

“กุ้ยโมโม่ มอบคนให้ท่านแล้ว พวกเราต้องกลับไปเรือนหน้าแล้ว ”เหล่าองครักษ์ส่งคนเสร็จแล้วก็เดินจากไป ในสถานการณ์ทั่วไปแล้ว องครักษ์ไม่ค่อยมาเรือนหลังของจวนอ๋องเท่าไรนัก

กุ้ยโมโม่พยักหน้าแล้วหันไปมองอี้เซิงที่ยืนอยู่ข้างกายหลินซีนเยียน“อ้าว เป็นขี้ข้าแล้วยังพาตัวภาระมาอีกรึ?เรือนหลังห้ามผู้ชายเข้ามาตามอำเภอใจ ข้าคิดว่าเด็กนี่ควรส่งไปเรือนหน้า”

หลินซีนเยียนร้อนใจ จับมือของอี้เซิงไม่ยอมปล่อยและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“กุ้ยโมโม่ เขาคือน้องชายแท้ๆ ของข้า เขาเป็นแค่เด็กยังกลัวคนแปลกหน้าอยู่ โมโม่ได้โปรดเห็นใจยอมให้เขาอยู่กับข้าด้วยเถิด ”

“เจ้าเป็นแค่ขี้ข้า มีสิทธิ์พูดจาด้วยรึ?”กุ้ยโมโม่แค่นเสียง“อย่านึกว่าเป็นที่โปรดปรานของท่านอ๋องแล้วจะทำอะไรก็ได้ เจ้าเป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียง เป็นแค่ขี้ข้า จำฐานะของตนเองได้ดีด้วย!ข้าเป็นคนดูแลขี้ข้าในจวนอ๋อง ข้ากุ้ยโมโม่พูดอะไรต้องเป็นเช่นนั้น!เอาล่ะ ใครก็ได้ พาไอ้เด็กนี่ไปส่งเรือนหน้า”

“กุ้ยโมโม่!”หลินซีนเยียนคล้ายอยากจะพูดอะไร กุ้ยโมโม่กลับไม่ยอมให้โอกาสเธอพูด ให้สัญญาณคน 2 คนที่อยู่ข้างๆ พวกเขาก็เข้ามาจับหลินซีนเยียนแยกจากอี้เซิงทันที

สาวใช้ในจวนอ๋องล้วนเรียนวิชาการต่อสู้ ดังนั้นพวกเขาจึงพาอี้เซิงจากไปอย่างง่ายดาย หลินซีนเยียนจ้องมองอี้เซิงที่ถูกพาตัวไปตรงหน้า ยังไม่ได้ทันขัดขืนก็มีฝ่ามือตบมาที่หน้าอย่างแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต