ตอนที่444 เขาปลอดภัยดี
ข้าราชการทุกคนยกจอกเหล้าขึ้นตามๆ กัน ส่วนใหญ่จะมีสีหน้าอึดอัดไม่กล้าเสไปมองหน้าของอี้เซิงที่ประทับอยู่ตำแหน่งหลัก ทว่านอกเหนือความคาดหมายของฝูงชน อี้เซิงกลับไม่ได้บันดาลโทสะ อีกทั้งสีหน้าตั้งแต่ต้นจนจบก็เปื้อนรอยยิ้มอ่อนๆ เอาไว้
เห็นเพียงแต่อี้เซิงเองก็ยกจอกสุราขึ้นด้วย พลางกล่าวกับปวงชน “ใช่ วันนี้เป็นวันมงคลเหมาะแก่การเฉลิมฉลองที่สุดแล้ว มา ทุกท่านซดหมดจอก”
การผ่อนหนักผ่อนเบาของอี้เซิง ทำให้ในอกของข้าราชการพลเรือนและฝ่ายทหารยิ่งคิดหนัก มีคนบางส่วนต่างแลกเปลี่ยนกันทางสายตา จากแววตาของอีกฝ่าย ล้วนมองออกถึงการหมิ่นแคลนต่อฮ่องเต้ประเทศหมันพระองค์ใหม่นี้ หรืออีกอย่างคือแววตานั้นกำลังบอกกล่าว เจียงซานของแคว้นหมันนี้ เกรงว่าไม่นานก็จวนจะต้องผลัดเปลี่ยนใหม่อีกแล้ว
สุราจอกแรกลงท้อง การแสดงเต้นระบำรำร้องกลางพิธีก็คือกระฉับกระเฉงมากขึ้น หลังจากผู้คนเพลิดเพลินกินดื่มเสร็จแล้ว โจว่เฉิงก็ถวายจองที่สอง จอกที่สามอีก ข้าราชการพลเรือนและทหารเห็นว่าฮ่องเต้ใหญ่อี้เซิงล้วนมีท่าทีเอาใจโจว่เฉิง กลุ่มคนยิ่งไม่กล้าทำผิดใจโจว่เฉิง ล้วนทยอยไปถวายเหล้าให้เขาข้างหน้า
หลินซีนเยียนแม้จะเป็นราชนิกุลหญิง ทว่าเพราะสถานะอันพิเศษ ดังนั้นจึงถูกจัดวางตำแหน่งไว้อยู่ในลำดับท้ายของแท่นประธาน ข้างกายของนางมีสวี่ห้าวผู้มีใบหน้าโอบอ้อมนั่งอยู่
ทั้งสองต่างไม่ได้พูดคุยกัน ทำเพียงนั่งมองอากัปกิริยานานาของฝูงชนอย่างเงียบสงบ ฉากร้องรำทำเพลง ดูเหมือนจะไม่ได้ผสมผสานถึงคนทั้งสอง ทั้งที่สองคนก็นั่งอยู่ แต่กลับเป็นความรู้สึกประเภทนอกเหนือจากการจมดิ่งสู่ฉากหลังโดยสิ้นเชิง
หลินซีนเยียนมองท้องฟ้าอยู่บ่อยครั้ง ราตรีที่มีเพียงดาวดวงเดียวเยี่ยงนี้มันทำให้ขั้วหัวใจของนางคับแน่นโดยไร้สาเหตุ มักรู้สึกว่ามีเรื่องอะไรบางอย่างที่สำคัญมากกำลังเกิดขึ้น ทว่ากลับไล่คว้าความรู้สึกเช่นนั้นเอาไว้ไม่อยู่
นางส่ายหัวและหยิบจอกสุราให้ตนเอง ยกแก้วขึ้นมาแล้วใกล้ริมฝีปากแล้วค่อยๆ ลิ้มรสมันอย่างเนิบนาบ นางบอกกับตัวเองว่าอาจเป็นเพราะกองกำลังของทั้งสามตระกูลใหญ่ที่กำลังจะดำเนินการในคืนนี้ ดังนั้นนางจึงระส่ำหัวใจอยู่ไม่สุขเช่นนี้แค่นั้นเอง
อย่างไรก็ตาม สัมผัสที่หกของผู้หญิงมักจะมีมนต์ขลังนัก ในส่วนลึกของหัวใจนาง มีความรู้สึกว่าอารมณ์ไม่แน่นอนในวันนี้ไม่ใช่เพราะ เหตุการณ์ของสามตระกูลใหญ่ในค่ำคืนนี้เป็นแน่
“สีหน้าของท่านดูไม่ค่อยดีเลย” สวี่ห้าวเห็นว่านางใจไม่อยู่กับเนื้อตัว อดถามเสียงแผ่วออกไปไม่ได้
หลินซีนเยียนเรียกสติกลับมา มองสวี่ห้าวด้วยแววตานิ่งทื่อ ลังเลอยู่นาน กว่าจะเอ่ยถามหนึ่งประโยค “เสี่ยวหลงเล่า?”
สวี่ห้าวเห็นว่านางไม่ได้ตอบคำถาม แต่นางกลับเฉไฉเข้าเรื่องเสี่ยวหลงอย่างแนบเนียน และยังกล่าวด้วยความระมัดระวัง “เสี่ยวหลงน่าจะซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด หากท่านต้องการค้นหาเขา ข้าจะไปช่วยท่านหา”
หลินซีนเยียนพยักหน้า “เช่นนั้นก็ลำบากพี่ใหญ่แล้ว”
สวี่ห้าวตอบรับคำและหยัดกายขึ้นลุกออกจากแท่นไป เขาไปมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเพียงไม่นานก็วกกลับมายังข้างกายของหลินซีนเยียน เพียงแต่ขากลับมานั้น ข้างกายของเขามีขันทีตัวเล็กๆ ตามมาด้วย
ขันทีร่างเล็กยกโถเหล้าด้วยอิริยาบถก้มหน้าก้มตามายังข้างกายของหลินซีนเยียนแล้วรินเหล้าให้นาง หลินซีนเยียนเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง ถึงแม้รูปลักษณ์ไม่คุ้นตา ทว่าแววตาคู่นั้นกลับคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
“เสี่ยวหลง?” หลินซีนเยียนแผดเสียงแผ่วไม่ให้มีร่องรอย ขันทีร่างเล็กไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ทำเพียงตอบรับเบาๆ เสียงหนึ่ง
หลินซีนเยียนจึงค่อยระบุตัวตนของเขาแน่ชัด เป็นถึงบุคคลที่คอยรับใช้ ไม่ว่าจะแสดงบทไหน ก็ล้วนไม่เห็นถึงข้อบกพร่องแม้เพียงเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...