ตอนที่446 ความไม่พอใจภายใต้ความสิ้นหวัง
ภายในห้องที่มีเชิงเทียนเก้าหัวที่จุดเต็มไปด้วยเทียนแสงไฟเริงระบำทำให้ภายในห้องสว่างราวกับตอนเช้ามีเพียงตระกลูหรงที่ร่ำรวยเช่นนี้ที่สามารถใช้เชิงเทียนเก้าหัวกับห้องรับแขกทุกห้องได้เมื่อเทียบกับชาวบ้านทั่วไปแค่เพียงเทียนเล่มเดียวก็ต้องใช้แล้วใช้อีก
เพื่อไม่เป็นการดึงดูดความน่าสงสัยจากผู้อื่นหลังจากที่หลินซีนเยียนกลับถึงห้องเพียงให้คนยกน้ำชามาให้จากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกนางนั่งอย่างสงบอยู่หลังโต๊ะปล่อยให้น้ำชาที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆเย็นลงนางไม่ดื่มแม้แต่คำเดียวเพียงแต่หันไปมองทางด้านประตูด้วยความเหม่อลอย“แอ๊ดด”เสียงประตูเปิดออก
มีผู้คุ้มกันนำหนีหว่านที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเข้ามาภายในห้องผู้คุ้มกันสองคนหิ้วปีกทั้งซ้ายขวาของหนีหว่านส่วนขาของนางนั้นไม่มีแรงที่จะพยุงตนเองได้จึงได้ลากอยู่กับพื้น
“แม่นางหลินพวกข้าพาคนมาให้แล้วประมุขน้อยกล่าวว่าแม่นางผู้นี้ปากแข็งมากนักหากนางไม่ให้ความร่วมมือกับแม่นางหลินละก็สามารถเรียกพวกข้าได้พวกข้าจะอยู่ภายในลานนี้ทางฝั่งพวกข้าได้เตรียมอุปกรณ์ไว้แล้วหากนางไม่เอ่ยปากแต่โดยดีพวกข้าก็มีวิธีให้นางพูดความจริง”ผู้คุ้มกันสื่อความหมายตามที่หรงอวี๋นสั่งมา
หลินซีนเยียนพยักหน้ารับเบาๆแล้วโบกมือให้พวกเขาออกไป
รอพวกเขาออกไปปุ๊บหลินซีนเยียนลุกขึ้นไปปิดประตูห้องทันทีเพียงแค่ประตูปิดลงน้ำตาของนางก็ไหลออกมานางหันหลังกลับไปโอบกอดหนีหว่านที่ถูกทิ้งไว้ที่พื้น
“หนีหว่านลำบากเจ้าแล้ว”หลินซีนเยียนเอ่ยอย่างแผ่วเบาถึงแม้จะทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วแต่ว่าก็ยังคงมีน้ำหนองไหลออกมาจากบาดแผลของนางเพียงชั่วครู่ก็ทำให้เสื้อผ้าของนางเปียกชื้นและรอยแผลเป็นบนหน้าของนางก็เด่นชัดมากขึ้น
ถึงแม้สภาพของหนีหว่านจะทรุดโทรมมากแต่ว่าดวงตาคู่นั้นอย่างมองได้อย่างชัดเจนตอนที่โดนทำความสะอาดร่างกายเพราะความเจ็บทำให้นางได้สตินางคิดไม่ถึงว่าคนที่อยากจะพบนางที่แท้ก็คือหลินซีนเยียนคอของนางแสบร้อนเหมือนมีไฟค่อยแผดเผาพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งออกมาอย่างยากลำบาก“เจ้ามาได้อย่างไรกัน?”
หลินซีนเยียนได้ยินน้ำเสียงของนางที่แหบแห้งเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้นไปรับน้ำชามาให้นางทันที“ดื่มน้ำชาให้ชุ่มคอเสียก่อนไม่ต้องรีบ”
หนีหว่านไม่ได้ดื่มน้ำมานานมากนักดังนั้นเมื่อได้ดื่มน้ำชาก็ไม่สนใจสิ่งรอบข้างรีบดื่มจนหมดแก้วสภาพที่น่าอนาถเช่นนี้ของหนีหว่านอยู่ในสายตาของหลินซีนเยียนยิ่งทำให้นางทุกข์ร้อนใจมากขึ้น
“เจ้า…มาที่นี่เพราะนายท่านใช่หรือไม่?”ถึงแม้น้ำเสียงของหนีหว่านแหบแห้งแต่ว่าดวงตาคู่นั้นกลับมองได้อย่างชัดเจน นางไม่ได้เอ่ยถึงความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับแม้แต่น้อยแต่ทำเหมือนบาดแผลมากมายบนร่างกายนี้ไม่ใช่ของนาง
หลินซีนเยียนไม่ได้ยอมรับแต่ถามกลับแทนว่า“เขา…ตายแล้วจริงหรือ?”
หนีหว่านขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอย่างหนักผ่านไปสักพักนางถึงตอบ:“ตายแล้ว ข้าเป็นคนฝังเองกับมือ”
“ที่ไหน?”สีหน้าของนางแสดงความไม่เชื่อออกมาอย่างเด่นชัด
“ตอนที่นายท่านตายข้าเป็นคนเก็บศพเองแต่ว่าไม่สามารถเก็บรักษาเถ้ากระดูกของท่านไว้ได้ข้าทำให้ท่านได้เพียงสุสานที่ฝังเฉพาะเสื้อผ้าเท่านั้นข้ารู้ว่าเจ้าไม่ยอมรับความจริงข้อนี้แต่ว่า…ความจริงก็เป็นเช่นนี้”หนีหว่านมองนางแวบเดียวก็รู้ถึงได้พูดต่อว่า“ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่ต้องสิ้นหวังโชคดีที่เจ้ายังมีสายเลือดของนายท่านขอเพียงนายน้อยยังมีชีวิตอยู่ต้องมีสักวันที่พลังจะฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อถึงเวลานั้นความแค้นของนายท่านก็จะได้รับการชำระ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...