อ่านสรุป ตอนที่463ความร้ายกาจของอาวุธลับ จาก ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง
บทที่ ตอนที่463ความร้ายกาจของอาวุธลับ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่463ความร้ายกาจของอาวุธลับ
เช้าวันรุ่งขึ้นเสี่ยวหลงไปที่ร้านช่างตีเหล็กที่เขาไปเมื่อวานนี้เพื่อนำชิ้นส่วนที่ทำเสร็จแล้วเขาวางชิ้นส่วนไว้บนโต๊ะในห้องของหลินซินเยียนและวางหนีหว่านไว้ที่บนเก้าอี้ด้านข้าง
หลินซีนเยียนนั่งอยู่ข้างๆโต๊ะเริ่มประกอบชิ้นส่วนเหล่านั้นแล้วพูดว่า“ถึงแม้จะสร้างได้หยาบไปหน่อย แต่ว่าก็พอใช้งานได้”
ช่างเหล็กของที่นี่เป็นเพียงช่างธรรมดาทั่วไปเท่านั้นดังนั้นทำของออกมาอาจจะไม่ละเอียดมากนักและด้วยเวลาและช่างแต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษหลินซีนเยียนจึงของได้ไม่มากนัก
เสี่ยวหลงและหนีหว่านมองดูหลินซีนเยียนประกอบชิ้นส่วนเหล่านั้นจนค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างหนีหว่านไม่เคยเห็นปืนแต่ว่าเสี่ยวเคยเห็นหลินซีนเยียนใช้ครั้งหนึ่งดังนั้นดวงตาจึงค่อยเปล่งประกาย
นางเปิดห่อผ้าที่วางบนโต๊ะก็เห็นว่าข้างในมีหลอดโลหะเล็กๆมากมาย“นี่ก็คืออาวุธลับที่อยู่ในอาวุธนั้นใช่หรือไม่?”
หลินซีนเยีบนเงยหน้าขึ้นแล้วตอบกลับว่า”ใช่เรียกว่ากระสุนแต่ว่าที่อยู่ในมือเจ้าเป็นเพียงปลอกกระสุนต้องใส่ดินปืนเข้าไปถึงจะใช้ได้”พูดแล้วถามต่อว่า”เมื่อวานให้เจ้าไปเตรียมของที่คล้ายกับหญ้าและเถ้าถ่านเตรียมเสร็จหรือยัง?”
“วางใจเถอะทำเสร็จหมดแล้ว”เสี่ยวหลงนำห่อผ้าออกมาวางบนโต๊ะ
หลินซีนเยียนพยักหน้ารับหลังจากเปิดห่อผ้าอย่างระมัดระวังแล้วนำช้อนยื่นให้เสี่ยวหลง“มานี่ตอนนี่เจ้านำดินปืนนี้ใส่เข้าไปแต่ว่าต้องใส่อย่างระมัดระวังไม่สามารถที่จะให้มีแรงเสียดทานที่ปลอกกระสุนเด็ดขาดเพียงกระแสไฟเล็กน้อยก็ทำให้ระเบิดได้อย่าทำเป็นเล่นเด็ดขาด”
ผ่านไปสองชั่วยามปืนทั้งสองกระบอกและกระสุนอีกสามร้อยลูกประกอบเสร็จเรียบร้อยนางใส่กระสุนเข้าไปและโยนให้กับเสี่ยวหลง”ถือไว้”
“ให้ข้าหรือ?“เสี่ยวหลงถือปืนเอาไว้และยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
หลินซีนเยียนพยักหน้ารับจากนั้นก็ประกอบอีกกระบอกหนึ่งแล้วนำไปไว้ในมือของหนีหว่าน”วรยุทธ์ไม่ได้หมายถึงทุกอย่างตอนนี้เจ้าไม่มีวรยุทธ์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าฆ่าคนไม่ได้”
หนีหว่านดวงตาเป็นประกายชั่วครู่มองดูปืนที่อยู่ในมือโดยไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
“เอาละข้าจะสอนวิธีใช้ให้กับพวกเจ้า”หลินซีนเยียนสอนหนีหว่านใช้ยังไงเสี่ยวหลงที่อยู่อีกด้านก็ทำตามอย่างระมัดระวัง
หนีหว่านที่ถูกนางจับมืออยู่ไม่ทันระวังไปกดเหนียวไกปืนลั่นไปโดนแจกันดอกไม้ด้านข้างแตกกระจายนางตกตะลึงตาโตผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้สตินางกลืนน้ำลายลงคออดไม่ได้ที่จะถาม”พลังอานุภาพของอาวุธลับนี่แรงมากนัก”
การที่จะฝ่าสงครามไปนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่ปากพูดต่อให้มีฝีมือมากกว่านี้ต่อหน้าทหารนับหมื่นพวกเขาไม่ได้สามารถทะลุมิติไปได้
“ก็ดีเหมือนกันถ้าเช่นนั้นพวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วส่งคนไปเร่งอีกทั้งตระกูลด้วยว่าให้เร่งเดินมาจุดนัดหมาย
“แม่นางหลินวางใจเถอะข้าส่งคนไปเร่งแล้ว”หลินซีนเยียนก็ไม่เกรงใจเดินไปที่ห้องอาหาร“ท่านคิดการณ์ไกลกว่าข้าเสียอีก”หลินซีนเยียนพูดขึ้น
เขาเป็นถึงประมุขการที่เขาคิดการละเอียดมากกว่าเด็กสาวนี้ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?ในใจเขาคิดเช่นนั้นแต่ปากของเขากลับพูดว่า“ที่ไหนกันเล่าแค่เพียงข้าผ่านร้อนผ่านหนาวมามากก็เลยมีประสบการณ์เท่านั้นเอง
หรงเย่ให้คนจัดอาหารเลิศรสมามากมายบางทีอาจเพราะว่าใกล้จะเข้าทะเลทรายแล้วคงไม่ได้กินอาหารเลิศรสไปอีกหลายมื้อดังนั้นทุกคนจึงตั้งใจกินเหมือนกินทดแทนอีกหลายมื้อ
กินข้าวเสร็จทุกคนก็เตรียมตัวเก็บข้าวของเริ่มออกเดินทาง
เพราะว่าต้องเดินทางในทะเลทราย จึงเปลี่ยนจากม้าเป็นอูฐแทน หนีหว่านและหลินซีนเยียนขี่ตัวเดียวกัน ส่วนเสี่ยวหลงขี่ตามอยู่ด้านหลังพวกนาง คนม้าของหรงเย่ล้วนเป็นผู้ชาย จึงขี่ม้าได้อย่างปราดเปรียว กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสที่มีอายุปูนไหนแล้วก็ยังคงคล่องแคล่วว่องไว ไม่เหมือนกับชาวบ้านอาวุโสเลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...