ตอนที่477 ผาหินร้อยจ้าง
ทั้งกลุ่มมุ่งหน้าลึกเข้าไปในโกรกธารสักพัก เมื่อมองเห็นกำแพงผาหินสูงร้อยจ้างแผ่นหนึ่งขวางอยู่ตรงหน้า จำต้องหยุดชะงักลง
หรงเย่เงยหน้าขึ้นมองขึ้นไปทางด้านบนของผาหิน แสงสว่างพุ่งตรงลงดวงตา ทำให้เขาแทบจะไม่อาจลืมตาได้ เขาเร่งห้มหน้าลง พักอยู่ชั่วครู่ก็หันหน้ามองเอ่ยถามหลินซีนเยียนที่อยู่ด้านข้าง “เจ้าแน่ใจนะว่าที่นี่คือขุมทรัพย์สมบัติทองเกิงจีน? ผาหินร้อยจ้างของที่นี่ เจ้าอย่าบอกนะว่าพวกเรายากที่ข้ามไปได้! เจ้าดูผาหินนี้สิ แม้แต่ที่ให้ลงเท้าสักแห่งยังไม่มี เกรงว่าผู้วรยุทธ์สูงกว่านี้ก็ไม่อาจไปจากตรงนี้ได้ แม่นางหลิน พวกเราไว้ใจเจ้าจึงได้ให้เจ้านำทาง เจ้าไม่ได้ล้อพวกเราเล่นหรอกนะ?”
ถ้าหากขุมทรัพย์สมบัติทองเกิงจีนที่เฝ้ารอคอยมาตลอดกลายเป็นอากาศธาตุ หรงเย่ไม่ได้อารมณ์ดีกับหลินซีนเยียน กับหญิงสาวที่ไม่มีประโยชน์คุณค่าใดแล้ว เขาก็ไม่อาจพูดดีด้วยได้
หลิงสู่ก็มีสีหน้าไม่น่ามอง ถ้าหากไม่ใช่เห็นว่าหรงเย่ชิงกล่าวออกไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว เกรงว่าเขาอาจจะกล่าววาจาไม่น่าฟังยิ่งกว่านี้ “ใช่แล้ว แม่นางหลิน เพื่อที่จะมาที่นี่ยอดฝีมือของพวกเราสามตระกูลใหญ่ตกตายไปไม่น้อยแล้ว ถ้าหากตอนนี้เจ้าบอกกับข้าว่าเข้าใจสถานที่ผิด เจ้าคิดว่าพวกเราจะเป็นอย่างไร?”
เป็นอย่างไร? เกรงว่าจะทำให้นางตายอย่างไร้ที่ฝังน่ะสิ บนโลกก็เป็นความจริงเช่นนี้ เมื่อคราที่เจ้ามีคุณค่า พวกเขาก็สามารถประคองเจ้าไว้บนมือได้ เมื่อเจ้าไม่มีประโยชน์แล้ว พวกเขาก็สามารถสังหารนางได้อย่างไร้ความปราณี
หลินซีนเยียนจ้องมองใบหน้าของหรงเย่และหลิงสู่อย่างเย็นชา มุมปากจากที่เฉยชาปรากฏรอยยิ้ม กลับไม่ได้เร่งร้อนอธิบายต่อพวกเขาทั้งสองคน
หลี่อวี๋นซ่านที่เดินไปด้านหลังสุดก็ตามขึ้นมาแล้ว ได้ยินบทสนทนาของทั้งสามคน เขาก็ขมวดคิ้วแน่น เอ่ยถามหลี่อวี๋นซ่านด้วยน้ำเสียงห่วงกังวล “แม่นางหลิน ที่แท้แล้วนี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เข้าใจผิดไปจริงๆ หรือ? ถ้าหากเป็นจริง เช่นนั้นข้าก็สามารถ...”
“ไม่ผิด” หลินซีนเยียนเอ่ยขัดเขา ไม่ให้โอกาสเขาเอื้อนเอ่ยต่อไป เพียงแค่เขาคิดจะเอ่ยอะไร ก็ไม่ความหมายใดกับนาง
หลี่อวี๋นซ่านถูกขัดถ้อยคำ ลำคอบิดม้วนชะงักลง แล้วกล่าว “ถ้าหากไม่ได้เข้าใจผิด เช่น... ที่นี่มีความลึกลับอื่นหรือ?”
ได้ยินถ้อยคำนี้ของเขา ดวงตาของหรงเย่และหลิงสู่เปล่งประกาย หันมองไปทางหลินซีนเยียนในเวลาเดียวกัน
“ความลึกลับอื่น?” หรงเย่เอ่ยถามอย่างร้อนรน “แม่นางหลิน เจ้ามีคำพูดอะไรก็รีบพูดขึ้นเถิด ท้องฟ้าเวลานี้ไม่เช้าแล้ว เหตุใดต้องหยุดอยู่ที่นี่?”
หลิงสู่ก็รีบเร่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใช่แล้ว มาถึงที่นี่แล้วยังจะเล่นอะไรอีก กลับคำของเจ้ามาต่อรองในที่นี่กับผู้ใดกัน? ตระกูลหลิงของข้าถึงกับทำตามถ้อยคำของคนผู้หนึ่ง เล่ห์กลมากมายนัก”
ความหมายของหลิงสู่ก็คือคิดว่าหลินซีนเยียนต้องการเอ่ยเงื่อนไขอะไร ดังนั้นจึงชิงบอกท่าทีของตนเองออกไปก่อน ในถ้อยคำของเขาชัดเจนว่าแฝงการข่มขู่ไว้สามส่วน ถ้าหากหลินซีนเยียนกล้าต่อรองในที่นี้เวลานี้ เช่นนั้นเขาเจ้าบ้านตระกูลขุนนางลึกซ่อนนี้ ก็จะไม่ได้ประนีประนอมด้วยง่ายดายถึงเพียงนั้น
หลินซีนเยียนได้ยินการข่มขู่นี้ อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เพียงแต่หัวเราะเพียงแค่สองคำ นางก็คลายรอยยิ้ม แทนที่ด้วยความดุดันเย็นชาชนิดหนึ่ง นางกล่าวเสียงเย็นชา “เจ้าบ้านหลิง ข้ายังไม่ได้พูดสักประโยค พวกท่านร้อนใจอะไรกัน? ตั้งแต่ต้นจนจบข้ามีโอกาสได้พูดหรือไม่? เพียงแต่ข้ากลับได้สัมผัสการปฏิบัติต่อผู้คนของท่านเจ้าบ้านหลินว่า... เป็นอย่างไร เจ้าบ้านหลินคิดจะใช้วิธีใดกับข้าหรือ? โอ้ ลืมกล่าวไป คนเช่นข้านี้ ยอมรับการข่มขู่ของผู้อื่นไม่ได้ที่สุด ดังนั้น...”
นางชะงักลง สายตาของพวกหลิงสู่ประหลาดใจ นางหันหลังอย่างมั่นคง ให้แผ่นหลังพุ่งชนไปที่ผาหินนั่น ท่วงทาที่ศีรษะกระแทกนั้นช่างอหังการ ขู่ขวัญผู้คนจนตัวซีดขาวด้วยความตกตะลึง
"แม่นางหลิน อย่าพุ่งไปเลย..." หลี่อวี๋นซ่านหวาดกลัวจนมือสั่นเล็กน้อย แม้แต่น้ำเสียงก็เปลี่ยนแปลงไป
หรงเย่กับหลิงสู่ตกตะลึงพร้อมกัน ทว่าปฏิกิริยาตอบสนองไล่ตามหลินซีนเยียนไปอย่างรวดเร็ว ทว่าน่าเสียดายการลงมือครั้งเดียวของหลินซีนเยียนกระทันหันเกินไป พวกเขาทันได้เพียงเอื้อมคว้าชายเสื้อของนาง แต่กลับหยุดยั้งการพุ่งชนก่อนหน้าของนางได้ทัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...