ตอนที่ 85 ความปราชัย
ใครก็ตามที่อารมณ์ดีเมื่อเจอกับการกล่าวหาที่ไม่มีเหตุผลเช่นนี้ล้วนไม่มีสีหน้าที่ดีอย่างแน่นอน อินฉีเองก็ไม่ยกเว้น สีหน้าดิ่งลงในฉับพลัน กล่าวตอบด้วยความเย็นชา ไม่ใช่
เขากล่าวเพียงแค่สองคำ สำหรับเขาแล้วประเภทที่เห็นคนแล้วแว้งกัด ไม่คู่ควรที่เขาจะให้คำอธิบาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ทำให้เขาลำบากอยู่หลายปี อีกทั้งวงแหวนความลับสวรรค์ที่เกือบทำให้เขากลายเป็นผู้ไร้ค่าโดยเกิดจากฝีมือของศาลาความลับแห่งสวรรค์ ดังนั้นสำหรับคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์แล้ว เขาจึงไม่สามารถมีท่าทีที่ดีด้วยได้
และในฐานะเสนาบดีฝ่ายซ้ายเขายิ่งไม่มีความอดทนที่จะยอมให้คุณชายแปลกหน้ามาด่าตนเองในยามที่อยู่ต่อหน้าฝูงชน แต่เนื่องจากพึงรักษาท่าทางที่งามสง่า เขาไม่อาจที่จะด่ากลับ
คุณชายตัวน้อยตกตะลึงอีกทั้งได้ยินคนใจดีรอบๆพูดตักเตือน ว่าผู้นี้เป็นเสนาบดีฝ่ายซ้าย พลันหน้าแดงขึ้นทันที ในขณะที่มองอินฉีก็มีความอับอายอยู่หลายส่วน แต่กลับไม่ได้กล่าวขอโทษ
“เป็นผู้ใดกันแน่ที่มาท้าประลองศาลาความลับแห่งสวรรค์ มีความสามารถก็ก้าวออกมา!” เทียนหยุนชิงสองมือเท้าสะเอวตะโกนใส่ฝูงชนที่อยู่ด้านหน้าศาลา
ทุกคนมองหน้ากัน สำรวจคนที่อยู่รอบๆตัว ดูเหมือนว่าพวกเขาทุกคนกำลังคาดเดาว่าผู้ใดกันที่กล้ากระทำความเสี่ยงต่อใต้หล้า
“ดูเหมือนว่าผู้ท้าชิงไม่กล้าที่จะมาเสียแล้ว มิเช่นนั้นแล้วไยจึงยังไม่….” อู่ฉือที่กำลังดื่มชา บนใบหน้าเจือความเสียดาย ทว่าในขณะที่เขายังไม่ทันจะพูดจบ ก็เห็นหลินซินเยียนที่อยู่ข้างกายลุกขึ้นมา เขาตะลึงอย่างโง่งม “น้องชายอู๋เหิน หรือว่าเจ้า…”
หลินซินเยียนพลันประสานมือคำนับแก่เขา หลังจากที่ไม่ได้อธิบายใดๆแต่กลับเดินมุ่งไปยังด้านในของศาลาเฟิงอี เมื่อเขาเดินถึงเบื้องหน้าของเทียนหยุนชิง อู่ฉือจึงพลันได้สติกลับมา ขณะที่ชี้ตัวเขาอยู่เป็นเวลานานโดยที่กล่าวอะไรไม่ออก “เจ้า เจ้าก็คือ….”
“ข้า ผู้ท้าประลองศาลาความลับแห่งสวรรค์ของพวกเจ้า” หลินซินเยียนกล่าวอย่างสบายๆ
ในยามที่นางปรากฏกายออกมา ฝูงชนที่มุงดูอยู่รอบๆล้วนตื่นเต้นเร่าร้อน ใครจะคิดว่าผู้ที่หาญกล้ายืนขึ้นเพื่อท้าประลองกับคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคุณชายวัยเยาว์เช่นนี้ ผู้คนมากมายเริ่มที่จะส่ายศีรษะ ส่วนใหญ่เชื่อว่าหลินซินเยียนทำเพื่อเรียกร้องความสนใจและไม่มีความสามารถจริง
มีเพียงอินฉีผู้เดียว ในยามที่เห็นหลินซินเยียนเดินออกมา ดวงนัยน์ตาส่องประกายความประหลาดใจอยู่ชั่วครู่จึงหายวับไป และโล่งใจขึ้นมาในทันที นอกจากนี้ในมุมมองของเขา ผู้ที่สามารถปลดวงแหวนความลับสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย ย่อมมีคุณสมบัติที่จะท้าทายคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์
“ใต้เท้าอินฉีรู้จักคนผู้นี้ด้วยหรือ?” ไต้ซือที่นั่งอยู่ด้านข้างอินฉีสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของเขาอยู่ในสายตา
อินฉีพลันพยักศีรษะ “มีวาสนาเคยพบกันอยู่หลายครั้ง”
“เช่นนั้นใต้เท้าอินคิดอย่างไรเกี่ยวกับการชิงชัยครั้งนี้?” ไต้ซือถามต่อ
อินฉีโปรยยิ้มบาง “ถ้าหากประมุขศาลาความลับแห่งสวรรค์มาแข่งขัน การชิงชัยนั้นยากที่จะกล่าว แต่ว่าหากคุณชายผู้นั้นออกมาแข่งขัน นั่นควรจะเป็นผู้ที่ข้าคุ้นเคยเอาชนะได้”
“สามารถได้รับความชื่นชมจากใต้เท้า ความสามารถของคนผู้นี้คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เช่นนั้นอาตมาก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอดู” ไต้ซือดีดลูกประคำที่อยู่ในมือเล่น รอยยิ้มบนใบหน้ามีความลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก
บรรดาฝูงชนรอบๆกลับไม่ได้มีความเห็นอย่างอินฉี เพียงแค่เห็นว่าเป็นคุณชายเยาว์วัยก้าวออกมา ก็เริ่มที่จะพร่ำบ่น มีหลายคนโห่ร้อง และกล่าวถ้อยคำน่าเกลียด
แม้แต่บุรุษที่ยืนอยู่ด้านหลังของเทียนหยุนชิง ยังขมวดคิ้วโดยไร้ร่องรอย บางทีแม้แต่เขาก็ยังคิดไม่ถึงว่าผู้ที่ได้กระทำการหาญกล้าเช่นนี้ยังอายุน้อยกว่าตนถึงหลายปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...