ตอนที่97 มีคนฆ่าคนแล้ว
ยิ่งหนานกงฉีเห็นหลินซินเยียนเดินเข้าไปในร้านนั้นก็รู้สึกอยากจะตามเข้าไปทันที แต่น่าเสียดายที่เมื่อพวกเขาตามไปถึงหน้าประตู ประตูก็ถูกปิดสนิทอีกครั้ง พวกเขาไม่รู้รหัสเข้าประตู ก็เลยเคาะประตูไปอย่างส่งเดชแต่ก็ไม่มีใครสนใจมาเปิดประตูให้พวกเขาเลย
หนานกงฉีโมโห ทำได้แค่ให้ผู้อารักขาสองคนเคาะประตูต่อไป
เมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านายของตน ผู้อารักขาสองคนก็เคาะประตูอย่างเอาเป็นเอาตาย ผ่านไปชั่วพริบตาก็มีคนมาเปิดประตูให้
เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวสร้างความรบกวนคนที่อยู่ด้านในเหลือเกิน ผู้จัดการที่อยู่ด้านในจึงต้องรีบออกมาจัดการ
“นายท่านของข้าต้องการมาหาคน เพิ่งเข้ามาในนี้เมื่อครู่นี้เอง ส่งตัวเขามาให้นายท่านของข้า ไม่อย่างนั้นวันนี้นายท่านของข้าจะทำลายร้านเน่าๆของพวกเจ้าแน่” หนานกงฉีเดินเข้ามาในร้าน ใช้อำนาจบาตรใหญ่เข้าข่มขู่ผู้จัดการร้าน
ผู้จัดการคนนั้นเห็นคนที่เข้ามามีจำนวนมาก และคนตระกูลหนานกงก็มีแต่อารมณ์โกรธ ก็เลยไม่กล้าด่าไล่ให้กลับไป เขาจึงต้องอดทนฝืนยิ้ม “พวกท่านทั้งหลายเป็นคนของตระกูลใด ต้องการมาหาใครหรือ”
“ข้าคือหนานกงฉี” หนานกงฉีประกาศชื่อของตนเอง ผู้จัดการร้านทำหน้าตกใจอย่างที่คาดไว้ ในตลาดนี้ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลหนานกง แค่พูดถึงตระกูลหนานกง ก็ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักคุณชายเจ็ดผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา หนานกงฉี
สำหรับผู้จัดการตัวเล็กๆอย่างเขา จะได้มาพบกับผู้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร ยิ่งได้พบคนรวยมีอำนาจที่มาจากภูเขาไท่ซานแล้วก็ยิ่งพูดได้เลยว่าเป็นหน้าเป็นตาอย่างยิ่ง
ยิ่งเมื่อวานได้ยินข่าวมาว่า ท่านชายหนานกงฉีเป็นชายรักชายด้วยแล้ว ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง การที่เขามาที่นี่ก็ถือว่ามาถูกที่แล้ว เมื่อตอนเขาได้ยินข่าวนี้ครั้งแรก เขาก็รู้สึกไม่เชื่อหูตัวเอง วันนี้ได้มาพบกับตัวจริง เขาถึงได้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นจริงๆ
“ที่แท้ก็เป็นท่านชายหนานกง ท่านให้เกียรติมาเยี่ยมชมร้านของเรา นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ผู้จัดการขบคิดแล้วถามอีกว่า “คนที่ท่านชายหนานกงต้องการจะตามหาเป็นเพื่อนของท่านใช่หรือไม่” ท่านชายบางคนมีรสนิยมซับซ้อน ก็มักจะชอบมาเที่ยวเล่นกันเป็นกลุ่ม
สายตาของผู้จัดการมองคนกลุ่มนี้อย่างมีความหมายลึกซึ้ง สำหรับตำแหน่งของหนานกงฉีภายในใจของเขาก็เปลี่ยนไป คิดว่าจะต้องหาคนที่ดีรู้เรื่องมาดูแลพวกเขา ถ้าหากได้เกี่ยวข้องกับตระกูลที่มีอำนาจอย่างตระกูลหนานกงจะต้องทำให้ร้านของพวกเขามีความก้าวหน้าอีกมากเลยทีเดียว
หนานกงฉีไม่รู้ถึงความคิดที่ลึกลับซับซ้อนของผู้จัดการคนนี้ ลูกตาเขากลอกไปมา เขาก็เลยถือโอกาสในการพูดถึงสิ่งที่เขาตามหา “ใช่ เขาคือเพื่อนของข้า เจ้าพาข้าไปหาเขาที ส่วนตั๋วเงินพวกนี้ถือว่าข้าให้เจ้าแล้วกัน”
ที่แท้เขาก็เป็นคนรวยมาก แค่เปิดมือก็ดูใจกว้าง ตั๋วเงินหนึ่งใบก็ถูกโยนออกมา เจ้าของร้านมีความสุขจนปิดปากเงียบสนิท จากตอนแรกโมโหที่ถูกคนทุบประตู ตอนนี้เขาก็ลืมเรื่องนั้นไปจนหมดสิ้น
ผู้จัดการรีบให้คนพาคนตระกูลหนานกงเดินเข้ามาในร้าน แล้วเดินไปทางห้องของท่านชายอู๋
หลินซินเยียนสังเกตการณ์ณ์ที่อยู่ด้านหลังอย่างใจจดใจจ่อ ได้ยินเสียงฝีเท้าของคน ก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหลบอยู่ในห้องด้านหน้า
สาวใช้ยังไม่ได้มีท่าทีโต้ตอบใดๆ ได้ยินเสียอารมณ์โกรธทำลายล้างของหนานกงฉี “ให้ข้าจับตัวเขา เขาเข้าไปแล้ว”
ผู้อารักขาสองคนเคลื่อนไหวอย่างเร็ว รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องนั้นทันที
พี่น้องสามคนของหนานกงฉีตามเข้าไปทันที สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ กลับทำให้เกิดความวุ่นวายแบบไม่ชอบมาพากล
“นามของท่านชายของพวกเรานะหรือ เจ้าโรคจิต เจ้าไม่คู่ควรที่จะถามหรอก ฟ้าแจ้งเช่นนี้ชายสองคนยังกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้” สีหน้าของหนานกงฉีเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ เขาเพิ่งจะถูกใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นคนบ้าวิปริตแบบนี้นะหรือ แบบนี้จะให้เขายังเป็นคนอยู่ต่อไปได้อย่างไร
“เจ้าหนุ่มเหม็นเน่า เจ้าพูดว่าใครวิปริต วันนี้เจ้ากับข้าได้เห็นดีกันแน่” ท่านชายอู๋โผเข้าหาหนานกงฉีทันที
หนานกงฉีที่แต่เดิมก็ไม่ได้กลัวการมีเรื่องอยู่แล้ว เขาก็พร้อมจะรับมือ สองคนต่อยตีกันเป็นก้อนกลมๆ
“เจ้าวิปริต วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย จะไม่ให้เหลือชื่อเสียงมลทินเช่นนี้ไว้อีก” หนานกงฉีต่อยไปพูดไป เขาลืมความปรารถนาดั้งเดิมแล้ว
หนานกงถิงกับหนานกงเหยียนไหนเลยจะมาสนใจหลินซินเยียน ถึงหนานกงฉีจะเป็นหลานรักของท่านปู่หนานกง เกิดเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้ใครจะรับผิดชอบไหว
“พวกเจ้าอยู่นิ่งๆทำไมกัน ทำไมไม่เข้าไปช่วยเขาอีก” หนานกงถิงเรียกให้ผู้อารักขาสองคนรีบเข้าไปช่วย
ท่านชายอู๋เหลือตัวคนเดียว เช่นนี้เค้าก็แพ้ราบคาบ คนที่แพ้ก็นอนอยู่ที่พื้น และยังไม่รู้จะไปพบที่ไหน ตอนนี้ตัวของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมา
“ไม่ต้องตีแล้ว หยุดได้แล้ว ท่านผู้มีชาติตระกูลทั้งหลาย ไว้ชีวิตเขาเถิด” ผู้จัดการเรียกคนมาแยกวง ช่วงเวลาหนึ่งก็เกิดความวุ่นวายฉากหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...