บทที่138 ถ้าหากไม่พอใจ คุณก็ไปฟ้องพวกเราสิ
มู่น่อนน่อน่ขมวดคิ้ว แล้วจ้องไปทางหญิงอ้วนคนนั้นอย่างเย็นชา “มีเด็กอยู่ที่นี่ คุณช่วยพูดจาให้ดีหน่อย”
“เธอหมายความว่ายังไง เธอด่าฉันเหรอ ?” หญิงอ้วนคนนั้นพุ่งมาตรงหน้ามู่น่อนน่อน ท่าทางบีบคั้นคนแบบนั้นเหมือนแทบอยากจะกระโดดเข้ามาตบมู่น่อนน่อนสักฉาด
คุณครูประจำชั้นเห็นท่าไม่ดี เลยรีบเข้ามาลากเธอเอาไว้ “คุณแม่ของเถาปิง คุณช่วยสงบลงก่อนครับ”
หนึ่งในเด็กที่ชกต่อยกับเฉินเจียฉินชื่อว่าเถาปิง และหญิงอ้วนคนนี้ก็คือแม่ของเถาปิง
คุณแม่ยังไร้เหตุผลขนาดนี้ แล้วลูกจะดีไปถึงไหน ?
ไม่ใช่ว่ามู่น่อนน่อนดูถูก แต่ส่วนใหญ่แล้วเด็กๆมักจะได้รับอิทธิพลมาจากคำพูดการกระทำของพ่อแม่
“ให้ฉันสงบ นายดูลูกของฉันสิ!” หญิงอ้วนดิ้นหลุดออกจากคุณครู เดินไปดึงตัวเถาปิงออกมาข้างหน้า แล้วชี้แผลบนหน้าของเขาแล้วพูดว่า “ถ้าลูกชายของพวกนายเจ็บขนาดนี้ พวกนายจะสงบได้เหรอ ?”
หญิงอ้วนบีบแขนของเถาปิง ดูท่าทางแรงน่าดู มู่น่อนน่อนเห็นว่าเถาปิงเจ็บจนเบ้ปากอย่างชัดเจน แต่กลับไม่ส่งเสียงออกมา
กับผู้หญิงวัยกลางคนที่ท่าทางก้าวร้าวแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าครูประจำชั้นก็เอาไม่อยู่ เขาเดินถอยหลังไปสองก้าว แล้วดันแว่นที่วางอยู่บนสันจมูก พูดว่า “ผม......ผมยังไม่แต่งงานครับ......”
หญิงอ้วนทำเสียง “เอ๊ะ” ทีหนึ่ง “คุณครูดูแล้วท่าทางอายุสามสิบกว่าแล้วสินะ คุณยังไม่แต่งงานอีกเหรอ ?”
พอครูประจำชั้นได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็เริ่มไม่ค่อยดีขึ้นมา เขาทำคอให้โล่งก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อเฉินเจียฉินไม่อยากพูด งั้นเถาปิงพูดสิว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น”
เถาปิงได้ยินชื่อของตัวเอง ก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปทางเฉินเจียฉินทีหนึ่ง
เฉินเจียฉินเลิกคิ้วตอบ เถาปิงกระตุกวูบไปทีหนึ่ง ก่อนก้มหน้าลงต่ำ แล้วพูดพึมพำว่า “พวกเราก็แค่ล้อเล่นกับเฉินเจียฉินคำสองคำ เขาก็เริ่มลงมือตีพวกเราแล้ว”
“ล้อเล่น ?” เฉินเจียฉินเอียงคอมองเถาปิง มุมปากโค้งขึ้น แล้วพูดขู่ทันที “นายเห็นว่าคำพูดแบบนั้นเป็นการล้อเล่น ถ้าครั้งหน้านายกล้าพูดอีกเชื่อไหมว่าฉันจะต่อยนายอีกแน่”
พอพูดจบก็รู้สึกเหมือนยังไม่หายโกรธ เฉินเจียฉินกัดฟันแล้วพูดเสริมอีกประโยคว่า “ต่อยจนร่างกายนายใช้ไม่ได้ไปครึ่งท่อนเลย !”
สีหน้าของมู่น่อนน่อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดห้ามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินเจียฉิน !”
เฉินเจียฉินหันไปมองมู่น่อนน่อนทีหนึ่ง ยืดคอแล้วพูดว่า “พี่น่อนน่อน เรื่องนี้ผมไม่ผิด ถ้าเขากล้าพูดอีก ผมก็กล้าต่อยเขาจริงๆ เพราะยังไงพี่ชายก็ช่วยผมเก็บกวาดได้อยู่แล้ว”
มู่น่อนน่อนสีหน้าเย็นชา “หุบปาก!”
ถึงแม้ปกติมู่น่อนน่อนจะไม่ทำหน้าเย็นชาเหมือนเฉินถิงเซียว แต่ตอนที่เธอโมโห ก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกัน
เฉินเจียฉินก้มหน้าลงไม่พูดอะไรต่ออีก แต่เขากลับเบือนหน้าไปอีกทางไม่มองมู่น่อนน่อน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ
ที่นี่คนเยอะ ไม่ใช่เวลาจะมาสั่งสอนเฉินเจียฉิน
ตอนที่มีคนมาหาเรื่องถึงที่ ต้องไม่แสดงท่าทางอ่อนแอออกมาให้เห็น
แต่ว่าความคิดของเฉินเจียฉินมีปัญหา เขาเพิ่งจะอายุสิบสี่ เปิดปากทีก็มีแต่คำว่าต่อยตีฆ่าฟัน ถึงขั้นบอกว่าเฉินถิงเซียวจะช่วยเขาเก็บกวาด
ความคิดแบบนี้ ไม่ได้เด็ดขาด!
เถาปิงที่อยู่อีกด้าน อาจจะรู้สึกว่ามู่น่อนน่อนสามารถควบคุมเฉินเจียฉินได้ เลยใจกล้าขึ้นมาเล็กน้อย
เขาทำเสียงในลำคอทีหนึ่ง แล้วพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า “ที่ฉันพูดมันก็เรื่องจริงทั้งนั้น ตอนนั้นบริเวณที่คุณนายเฉินถูกลักพาตัวไป ก็คือโรงงานเก่าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเรานัก มีคนเห็นว่าเธอถูกขืนใจจนตายไงแล้วจะทำไม เพียงแต่คนที่รู้เรื่องนี้ถูกคนของตระกูลเฉินจ่ายค่าปิดปากเลยไม่มีใครกล้าพูด! พวกเราพูดเรื่องหล่อนแล้วเกี่ยวอะไรกับนาย! นายมาต่อยพวกเรากับเรื่องแค่นี้เนี่ย......โอ้ย!”
เถาปิงยังไม่ทันพูดจบ ก็ร้องลั่นออกมาทีหนึ่งทันที
ตอนที่มู่น่อนน่อนได้ยินคำว่า “คุณนายเฉิน” สามคำนั้น ก็อึ้งไปเลย เลยไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าของเฉินเจียฉิน
พอเธอหันกลับไปมอง เฉินเจียฉินก็ดึงคอเสื้อเถาปิงแล้วชกหมัดใส่หน้าเขาอย่างแรงทีหนึ่งแล้ว ก่อนจะพูดอย่างดุร้ายว่า “ฉันบอกแล้วใช่ไหม ถ้านายพูดออกมาอีก ฉันก็จะต่อยนายอีกครั้ง......”
“เฉินเจียฉิน หยุดนะ!” มู่น่อนน่อนรีบพุ่งเข้าไปดึงเขาเอาไว้
ถึงแม้เฉินเจียฉินยังเป็นแค่เด็กวัยแรกรุ่น แต่ปกติเขาชอบเล่นกีฬา เรี่ยวแรงก็มีไม่น้อย มู่น่อนน่อนเลยดึงเขาไม่ไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...