ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 139

บทที่139 ลิฟต์ส่วนตัว

มู่น่อนน่อนพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว”

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงกดรับโทรศัพท์

คำแรกที่เฉินถิงเซียวเปิดปากพูดก็คือ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

คำนี้ฟังดูแล้ว เหมือนว่าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอก็ไม่มีทางโทรหาเขาอย่างไรอย่างนั้น

มู่น่อนน่อนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พบว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ

ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรปกติเธอก็จะไม่โทรหาเฉินถิงเซียว

“ไม่มีอะไรหรอก” พอมู่น่อนน่อนพูดจบ ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “คุณยังทำงานอยู่เหรอ ?”

แต่เฉินถิงเซียวกลับไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น เขาไม่เชื่อคำพูดของมู่น่อนน่อน “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเธอจะโทรหาฉันเหรอ ?”

มู่น่อนน่อนถามกลับไป “ความหมายของคุณคือหากไม่มีเรื่องอะไรห้ามโทรหาคุณงั้นเหรอ ?”

อีกฝั่งเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง เฉินถิงเซียวถึงได้พูดออกมาอย่างมีเลศนัยว่า “เธอโทรมาเพื่อเช็คตำแหน่งเหรอ ?”

มู่น่อนน่อนยังไม่ทันได้เข้าใจคำถาม “เช็คตำแหน่งอะไร ?”

เฉินถิงเซียว “ไม่มีอะไร ถ้าเธอไม่มีเรื่องอะไรจะโทรหาฉันบ่อยๆบ้างก็ได้”

“อุ๊บ......” เฉินเจียฉินที่แอบฟังทั้งสองคนอยู่ข้างๆอดขำเสียงดังออกมาไม่ได้

มู่น่อนน่อนหันไปถลึงตาใส่เฉินเจียฉินทีหนึ่ง ถึงแม้ว่าสายตาของเธอจะไม่มีแรงกดดันเลยแม้แต่น้อย แต่เฉินเจียฉินก็ยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีแล้วทำท่าทางรูดซิปปาก

เฉินถิงเซียวฟังออกว่าเป็นเสียงของเฉินเจียฉิน “เธออยู่กับเสี่ยวฉินเหรอ ?”

มู่น่อนน่อนเริ่มเลิ่กลั่กขึ้นมา “ใช่แล้ว วันนี้ฉันเลิกงานเร็ว ก็เลยมารับเฉินเจียฉินกลับไปด้วยกัน”

“เธอเลิกงานเร็ว เสี่ยวฉินก็เลิกเรียนเร็วได้ด้วยเหรอ ?”

ดูเหมือนจะไม่ได้นะ......

เฉินเจียฉินมองมู่น่อนน่อนด้วยสายตารังเกียจทีหนึ่ง แล้วเดินมาพูดโกหกต่อหน้าโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “คาบสุดท้ายเป็นวิชาพละครับ ไม่เข้าเรียนก็ไม่เป็นไร”

ยังดีที่เฉินถิงเซียวไม่ได้ถามอะไรมาก “เดี๋ยวฉันให้สือเย่ไปรับพวกนายกลับบ้าน”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพวกเราเรียกรถไปเอง” ตอนที่มู่น่อนน่อนรู้ตัวอีกที ก็พูดคำนั้นออกไปเสียแล้ว

เฉินถิงเซียวหมายความว่าให้สือเย่มารับเธอกับเฉินเจียฉินกลับบ้านแท้ๆ ส่วนความหมายของเธอกลับเป็นไปหาเฉินถิงเซียวที่บริษัทเสิ้งติ่ง

เฉินถิงเซียวชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วใช้น้ำเสียงที่ไม่มีพิรุธพูดว่า “ให้เขาไปรับพวกเธอเถอะ”

......

สือเย่ขับรถมารับอย่างรวดเร็ว

สือเย่ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ จากนั้นก็พามู่น่อนน่อนกับเฉินเจียฉินไปทางลิฟต์ส่วนตัวของประธาน

เมื่อก่อนตอนที่มู่น่อนน่อนทำงานอยู่ด้านนอกนั้นก็เป็นเพียงบริษัทเล็กๆ ไม่มีลิฟต์ส่วนตัวอะไรแบบนั้น ตึกของบริษัทมู่ซื่อเป็นเพราะสร้างเสร็จตั้งนานแล้ว ดังนั้นก็เลยไม่มีลิฟต์ส่วนตัวเหมือนกัน

เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นลิฟต์แบบนี้ มู่น่อนน่อนเลยรู้สึกแปลกใหม่อยู่บ้าง

“คุณผู้ชายครับ พวกคุณผู้หญิงมาแล้วครับ”

สือเย่พาพวกเขาทั้งสองไปถึงหน้าประตูห้องทำงานของเฉินถิงเซียว จากนั้นก็ออกไป

มู่น่อนน่อนผลักประตูเดินเข้าไป ก็เห็นเฉินถิงเซียวที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน

เขากำลังปิดเอกสารในมือพอดี กำลังเตรียมจะลุกขึ้น

พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นมู่น่อนน่อน มุมปากเขาก็ยกขึ้นแบบยากที่จะสังเกต “มาแล้วเหรอ”

“อืม” มู่น่อนน่อนตอบกลับไปอย่างเขินอายเสียงหนึ่ง แล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้างด้วยตัวเอง

มีแต่เฉินเจียฉินที่ทำท่าตื่นเต้นที่ได้เห็นห้องทำงาน เลยเดินดูโน่นจับนี่ไปทั่ว

เฉินถิงเซียวเดินไปด้านหลังมู่น่อนน่อน สองมือยันอยู่บนพนักโซฟา โน้มตัวเอียงคอมองหน้าเธอ แล้วถามว่า “อยากดื่มอะไรไหม ?”

“ไม่อยากดื่มอะไร คุณจะเลิกงานตอนไหน ?”

เฉินถิงเซียวยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา “ใกล้แล้ว”

เดิมทียังมีประชุมอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากมู่น่อนน่อนรีบกลับไป เขาจะถอนตัวก็ได้

ในเวลานั้นเอง เลขาก็เข้ามาเคาะประตู “ท่านประธานครับ ข้อมูลการประชุมตอนสี่โมงครึ่งผมเตรียมเสร็จแล้วครับ”

มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมามองเขา “คุณยังต้องประชุมอีกเหรอ?”

เฉินถิงเซียวหันไปมองเฉินเจียฉินทีหนึ่ง “ไปต่อยตีกับคนอื่นมาเหรอ ?”

เฉินเจียฉินเบ้ปาก “ใช่ครับ”

ถึงแม้ว่าจะบอกเหตุผลที่ชกต่อยให้เฉินถิงเซียวรู้ไม่ได้ แต่บนหน้าเขามีปลาสเตอร์ปิดแผลอันใหญ่ขนาดนั้นอยู่ แต่เฉินถิงเซียวก็ไม่น่าจะพึ่งมาเห็นเอาตอนนี้นี่นา

ในที่สุดเขาก็รับรู้ได้ถึงคำที่ว่า “มีแฟนแล้วลืมคนรอบข้าง” แล้วว่าหมายความว่ายังไงแล้ว

คิดว่าที่พูดก็คงหมายถึงคนแบบพี่ชายของเขานั่นเอง

สีหน้าของเฉินถิงเซียวไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “ดังนั้นมู่น่อนน่อนเลยไปที่โรงเรียนนายเหรอ ?”

“ไม่อย่างนั้นล่ะ ? จะให้โทรหาพี่เหรอ......”

คำว่า “เหรอ” คำสุดท้ายติดอยู่ในลำคอ เฉินเจียฉินจะพูดก็ไม่ใช่ ไม่พูดออกมาก็ไม่ใช่

เลยห่อตัวเข้าไปในลิฟต์ พยายามลดตัวตนของตัวเองลง

ไม่ว่ายังไง......ก็พูดไม่ออก!

มู่น่อนน่อนมองดูเฉินเจียฉินอย่างตกใจทีหนึ่ง ประเด็นก็คือจังหวะมันขาดตอนไปแล้ว เธอเองก็ช่วยเขาไม่ได้แล้วน่ะสิ!

เฉินถิงเซียวหัวเราะออกมาทีหนึ่งอย่างไม่ทราบเหตุผล เฉินเจียฉินกระตุกวูบทีหนึ่ง จากนั้นก็หลบไปอยู่หลังมู่น่อนน่อน

มู่น่อนน่อนก้มหน้ามองดูปลายเท้าตัวเอง แสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งนั้น

พอออกจากลิฟต์มา เฉินถิงเซียวก็เดินอยู่หน้าสุด มู่น่อนน่อนกับเฉินเจียฉินเดินตามหลังมา

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าตัวเองกับเฉินเจียฉินเหมือนเด็กน้อยสองคนที่ทำผิดแล้วกลัวจะถูกผู้ปกครองดุด่า ส่วนเฉินถิงเซียวก็คือผู้ปกครองคนนั้น

เธอถูกการเปรียบเทียบอันนี้ของตัวเองทำให้ตกใจ

มู่น่อนน่อนหันกลับไปช้าๆ แอบดึงมือของตัวเองที่ถูกเฉินเจียฉินเกาะไว้กลับมา “เสี่ยวฉิน นายดูแลตัวเองด้วยนะ”

“......”

ตอนที่ขึ้นรถ มู่น่อนน่อนก็ยังมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเฉินเจียฉินสักครั้ง เลยจงใจเข้าไปนั่งด้านหลัง นั่งข้างกันกับเฉินถิงเซียว

เพียงแต่ เธอนั่งข้างเฉินถิงเซียวได้ไม่เกินสามวินาที ก็เริ่มเสียใจขึ้นมาแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม